หน้าแรก Voice TV ‘จักรพงษ์’ แจงการใช้งบกลาง ในโครงการดิจิทัลวอลเล็ต-การจัดสรรงบช่วยเหลือประชาชน

‘จักรพงษ์’ แจงการใช้งบกลาง ในโครงการดิจิทัลวอลเล็ต-การจัดสรรงบช่วยเหลือประชาชน

74
0
‘จักรพงษ์’-แจงการใช้งบกลาง-ในโครงการดิจิทัลวอลเล็ต-การจัดสรรงบช่วยเหลือประชาชน
‘จักรพงษ์’ แจงการใช้งบกลาง ในโครงการดิจิทัลวอลเล็ต-การจัดสรรงบช่วยเหลือประชาชน

​’จักรพงษ์’ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีแจง กรณีการใช้งบกลาง ในโครงการดิจิทัลวอลเล็ต-การจัดสรรงบประมาณช่วยเหลือประชาชน ขอให้มั่นใจรัฐบาลใช้งบกลางได้อย่างมีประสิทธิภาพ

วันนี้ (12 กรกฎาคม 2567) เวลา 14.14 น. ณ หน้าตึกบัญชาการ 1 ทำเนียบรัฐบาล นายจักรพงษ์ แสงมณี รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงเรื่องงบกลาง งบประมาณรายจ่ายประจำปี 2567 และโครงการดิจิทัลวอลเล็ต ดังนี้

IMG_20240712145456000000.jpg

นายจักรพงษ์ กล่าวว่า งบประมาณรายจ่ายประจำปี 2567 เพิ่งผ่านการพิจารณาในการประชุมรัฐสภา และได้เริ่มใช้เดือนเมษายน เท่ากับงบประมาณฯ มีเวลาใช้จ่ายประมาณ 4 – 5 เดือน ซึ่งงบประมาณฯ ได้มีการใช้จ่ายไปในส่วนที่ช่วยเหลือพี่น้องประชาชนแล้วในหลายโครงการ อาทิ นโยบายยกระดับ 30 บาทรักษาทุกโรค การช่วยเหลือเรื่องน้ำท่วมน้ำแล้ง การช่วยค่าไฟฟ้าตั้งแต่ มกราคม – เมษายน การช่วยเหลือเรื่องโรคระบาด Lumpy Skin โรคอหิวาห์แอฟริกาในสุกร การบริหารจัดการน้ำในหลายจังหวัด การจ่ายชดเชยค่าทำลายสุกรเพื่อประสิทธิภาพตลาด บัตรประชาชนเดียว เป็นต้น ซึ่งการจัดสรรงบประมาณช่วยเหลือในเรื่องภัยพิบัติที่จะเกิดขึ้นในช่วงน้ำมาในเดือนสิงหาคม – เดือนพฤศจิกายนนี้ สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) และคณะกรรมการทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (กนช.) ได้มีการจัดสรรงบประมาณ 7,600 ล้านบาท ในเรื่องภัยพิบัติที่จะเกิดขึ้นในช่วงสิงหาคม กันยายน ตุลาคม พฤศจิกายน เป็นส่วนที่ได้ช่วยเหลือประชาชน

โดยผลการเบิกจ่ายของงบกลางทั้งหมดในขณะนี้เบิกจ่ายไปและทำสัญญาไปแล้วกว่า 70% เป็นงบประมาณที่นำไปใช้สำหรับช่วยพี่น้องประชาชนอย่างแท้จริง

นายจักรพงษ์ กล่าวว่า งบกลางเป็นเครื่องมือหนึ่งในการที่จะช่วยเหลือพี่น้องประชาชน รัฐบาลไม่ได้มองแค่เพียงงบกลางอย่างเดียวที่จะจัดสรร หลาย ๆ โครงการ รัฐบาลได้ให้กระทรวงแต่ละกระทรวงที่มีการขอใช้งบประมาณงบกลาง โดยให้ใช้งบประมาณของกระทรวงตนเองก่อนที่จะมาใช้งบประมาณงบกลาง เพื่อจะได้มีประสิทธิภาพที่สุด เพราะว่าเนื่องจากปีนี้ พ.ศ. 2567 เป็นปีงบประมาณที่มีความล่าช้า มีเวลาในการทำโครงการจัดทำงบประมาณเพียง 4 – 5 เดือน ซึ่งการช่วยเหลือพี่น้องประชาชนไม่จำเป็นต้องใช้งบประมาณอย่างเดียว รัฐบาลได้มีการบริหารจัดการอื่น ๆ เห็นได้จากการพิจารณา GDP ของปีนี้ที่โตขึ้นมาได้ส่วนใหญ่มาจากภาคการท่องเที่ยว ซึ่งการบริหารของรัฐบาลได้ให้ความสำคัญกับเรื่องของการท่องเที่ยว แทบจะไม่ได้ใช้งบประมาณงบกลางในการจัดสรร โดยการบริหารจัดการดังกล่าวทำให้ตัวเลข GDP ของการท่องเที่ยวเพิ่มขึ้น เป็นตัวช่วยที่ทำให้เศรษฐกิจของประเทศดำเนินต่อไปได้  และในส่วนของการบริหารจัดการการปราบปรามยาเสพติด รัฐบาลได้ใช้งบประมาณน้อยมาก เมื่อเปรียบเทียบประสิทธิภาพของการบริหารจัดการในปีก่อนหน้า สามารถดำเนินการจับกุมยาเสพติดได้มากกว่าปี พ.ศ. 2566 ทั้งปี โดยใช้เวลาในการปราบปรามยาเสพติดเพียง 6 เดือนของปี พ.ศ. 2567  อีกทั้งในเรื่องการบริหารจัดการกรณีคอลเซ็นเตอร์ อาชญากรรมไซเบอร์รัฐบาลก็ใช้งบประมาณน้อย แต่สามารถจับกุมผู้กระทำผิดได้มากขึ้น รวมทั้งเว็บพนันออนไลน์ จึงเห็นได้ว่าการบริหารจัดการของรัฐบาลในการช่วยเหลือพี่น้องประชาชน ไม่จำเป็นต้องใช้งบประมาณเพียงอย่างเดียวในการแก้ปัญหา ในฐานะรัฐบาลยังมีเครื่องมืออื่น ๆ ที่สามารถใช้ได้ในการช่วยเหลือพี่น้องประชาชน

ผู้สื่อข่าวถามว่า งบกลางเบิกจ่ายที่ได้ทำสัญญาแล้ว 70% คิดเป็นเท่าไร?  นายจักรพงษ์กล่าวว่า ‘งบประมาณของงบกลางทั้งหมดที่ได้ทำมาแล้วคิดเป็น 70.75% การเบิกจ่ายบวกใบสั่งซื้อ (Purchase Order: PO) 435,078 ล้านบาท ส่วนนี้รวมงบกลางทั้ง 11 รายการ ทั้งนี้ ตัวรายการงบกลางส่วนนี้เป็นตัวที่ได้ทำสัญญาแล้ว 70% และหากจะเจาะจงงบกลางฉุกเฉินของนายกรัฐมนตรี ตัวงบกลางฉุกเฉินของปี 2557 ที่มีจำนวนเงินประมาณ 90,000 ล้านบาท ส่วนดังกล่าวจะเป็นตัวงบกลางอีกตัวหนึ่ง ที่ได้เรียนแจ้งไปว่ามีหลายรายการที่ทางรัฐบาลช่วยเหลือประชาชนแล้ว ตั้งแต่ในเรื่องของ น้ำท่วม น้ำแล้ง เป็นจำนวน 7,600 ล้านบาท ที่ได้มีการอนุมัติไปเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ในด้านการช่วยเหลือค่าไฟฟ้า ตั้งแต่ช่วงเดือน มกราคม – เมษายน ตรงส่วนนี้ทางรัฐบาลได้มีการดำเนินการทำตั้งแต่เข้ามารับตำแหน่ง ดังนั้นงบประมาณในส่วนนี้ได้มีการจัดสรรและประมาณการไว้แล้ว’

IMG_20240712145457000000.jpg

ผู้สื่อข่าวถามว่า คำว่า “ฉุกเฉิน” ในกรอบดังกล่าว คือสามารถนำมาดูแลประชาชนในทุกมิติที่ได้มีการตีความทางกฎหมายใช่หรือไม่? นายจักรพงษ์กล่าวว่า

‘ตรงส่วนนี้ทางสำนักงบประมาณได้มีการพูดคุยกับสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา แล้วว่าสามารถทำได้’

ผู้สื่อข่าวถามต่อไปว่า เพราะอะไรทางรัฐมนตรีถึงอยากออกมาชี้แจงในเรื่องดังกล่าว? นายจักรพงษ์กล่าวว่า ‘อยากให้ทางสังคมเข้าใจว่ารัฐบาลเราให้ความสำคัญกับประชาชน รัฐบาลไม่ได้เก็บงบกลางส่วนดังกล่าวไว้สำหรับโครงการเติมเงินผ่านกระเป๋าเงินดิจิทัล 10,000 บาท อย่างเดียว แต่รัฐบาลมีการบริหารจัดการที่มั่นใจว่ารัฐบาลสามารถใช้งบกลางได้ ซึ่งส่วนนี้สามารถนำไปกระตุ้นเศรษฐกิจได้เหมือนกัน’

ทิ้งคำตอบไว้

กรุณาใส่ความคิดเห็นของคุณ!
กรุณาใส่ชื่อของคุณที่นี่