เคาะแล้ว! เงินดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท เมื่อ “นายกฯ นิด” เศรษฐา ทวีสิน แจ้งภายหลังการประชุมว่า พร้อมเปิดให้ประชาชนลงทะเบียนวันที่ 1 ส.ค.นี้ โดยมอบหมาย ให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ไปดำเนินการ และลงรายละเอียด เงื่อนไขของการรับสิทธิ์ และมาตรการป้องกันการทุจริต การเรียกเงินคืนให้ชัดเจนขึ้นวนช่องทางการรับเงิน ผ่านแอปพลิเคชันทางรัฐ โดยสามารถยืนยันตัวตนออนไลน์ผ่านระบบ ที่เรียกว่า “KYC”
หากใครยังไม่เคยลงทะเบียน และใช้บริการก็สามารถดาวน์โหลดได้ที่ App Store และ Google Play โดยสามารถเตรียมพร้อมไว้ก่อนลงทะเบียนเงินดิจิทัล 10,000 บาท
หากมีวาสนาต่อกัน ห่างกันพันลี้ยังพบกัน แม้นไร้ซึ่งวาสนา ใกล้แค่ตรงข้ามไม่เจอกัน …สำนวนนี้เหมือนจะใกล้เคียงกับสิ่งที่ หัวหน้าพรรคเพื่อไทย “อุ๊งอิ๊ง” แพทองธาร ชินวัตร ที่ออกมาระบุ หลัง “วัน อยู่บำรุง” ลาออกจากสมาชิกพรรคเพื่อไทย หลังก่อนหน้านี้ได้ลาออกจากกรรมการผู้ช่วยรมว.สาธารณสุข ว่า
“ไม่ได้อยากให้นายวันออกจากพรรคเพื่อไทย แต่ก็เคารพการตัดสินใจ … ทั้ง 2 ครอบครัวก็รู้จักกันมานาน ดังนั้นควรขอให้กำลังใจกันดีกว่า ถึงจะไม่ได้อยู่ในพรรคเพื่อไทย เพราะให้กำลังใจกันได้อยู่แล้ว”
ขณะที่ “วัน อยู่บำรุง” แม้มือจะปาดน้ำตาลูกชายทิ้ง แต่ยังไม่วายไว้ลายลูก “ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง” สิงห์เฒ่าบางบอน … แม้เป็น สส.สอบตก ไม่มีราศี ราคาค่างวด แต่มีผู้ติดตามในโซเชียลมีเดีย 1.2 ล้านคน … คนเราก็อย่าไปเกรงกลัวการเปลี่ยนแปลง แต่จงหาทางอยู่รอดกับการเปลี่ยน แปลง ชีวิตต้องดำเนินต่อไป
“อยากทำงานการเมืองต่อ ถ้าหากว่ามีพรรคการเมืองใด คิดว่าพอเป็นประโยชน์ ลองติดต่อมา ตอนนี้ผมมีสถานะนักการเมืองไร้สังกัด … คุณพ่ออยากให้พรรคเพื่อไทยขับออก และคุณพ่ออายุมาก แต่ความรู้ ความสามารถ ไม่ลดน้อยถอยลง และเขายังคงต้องการมีบทบาททางการเมือง แต่ก็ยังไม่ได้รับโอกาส”
แต่ “อุ๊งอิ๊ง” แพทองธาร และ “ภูมิธรรม เวชยชัย” เห็นตรงกันว่า พรรคไม่มีนโยบายขับออก … ในวันไร้ซึ่งวาสนา ทุกอย่างก็เปลี่ยนไป
โดยเฉพาะ “ภูมิธรรม” รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.พาณิชย์ หลังพบปัญหา มหากาพย์โครงการประมูลข้าวเก่า 10 ปี ที่ลงทุนหุงและกินโชว์ ไม่จบง่าย แม้จะเปิดประมูลไปแล้วถึง 4 ครั้ง แต่ก็มีปัญหามาตลอด ล่าสุด มีการล้มประมูล เมื่อคณะกรรมการตรวจสอบคุณสมบัติผู้เสนอซื้อข้าว 6 ราย ถูกตัดสิทธิ์ไป 3 ราย เหตุมีคดีพัวพันกับ อคส.ในอดีต ทำให้ต้องเรียกรายถัดมาให้เข้ามาเสนอราคา และต้องรอดูว่า จะได้ข้อยุติอย่างไร
แต่ความวัว ยังไม่ทันหาย ความควายก็เข้าแทรก เมื่อมีเรียกร้องร้องจากเกษตรกร ถึงรัฐบาลว่าไม่แฮปปี้กับ โครงการปุ๋ยคนละครึ่ง และส่วนใหญ่อยากได้รับเงินชดเชยไร่ละ 1,000 บาท โดยเจ้ากระทรวงพาณิชย์ ย้ำว่า ไม่ตรงกับข้อเท็จจริง เพราะเรื่องปุ๋ยคนละครึ่ง กับการชดเชยการเก็บเกี่ยวข้าว เป็นคนละเรื่องกัน
“ปุ๋ยคนละครึ่ง รัฐบาลต้องการปรับปรุงการผลิต ให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น ทั้งการปรับปรุงเมล็ดพันธุ์ และลดต้นทุนการผลิต ส่วนค่าชดเชยเกษตรกรไร่ละ 1,000 บาท ก็ไม่ได้มีตลอด หากเกิดราคาพืชผลไม่ดี เกษตรกรมีความลำบาก ก็สามารถหยิบเรื่องนี้ มาชดเชยให้ได้”
แม้ที่ผ่านมา “เกรียง กัลป์ตินันท์” สส.อุบลราชธานี รมช. ระบุว่า อึดอัดที่จะต้องไปชี้แจงกับประชาชน ที่เป็นฐานเสียงของพรรคเพื่อไทย แต่ภูมิธรรม ระบุว่า เคลียร์กันแล้ว คงดีขึ้น และเห็นใจ สส.ที่เจอประชาชนทุกวัน ถ้าเกษตรกรไม่สบายใจ สส.ก็ไม่สบายใจ
สภาสูง คึกคัก เมื่อ “30 สว.พันธุ์ใหม่” นำโดย นันทนา นันทวโรภาส, เทวฤทธิ์ มณีฉาย, พรชัย วิทยเลิศพันธุ์, สุนทร พฤกษพิพัฒน์, นรเศรษฐ์ ปรัชญากร และ น.ส.มณีรัฐ เขมะวงศ์ เข้ารายงานตัวที่รัฐสภา และย้ำจุดยืนกลุ่มยึดแนวทางเสรีนิยมก้าวหน้า มีประชาชนเป็นศูนย์กลาง เป็น สว. รุ่นใหม่ ที่เป็นของประชาชน และรับใช้ประชาชน
“ทั้งหมดที่ผ่านเข้ามาคือผู้รอด เราจะร่วมมือกับ สว. ท่านอื่น เพื่อกอบกู้ สว. โดยงานแรกจะที่จะเริ่ม คือ กติกาการได้มาซึ่ง สว. ที่ประชาชนรู้สึกว่าไม่ปกติ และเรียกได้ว่าเป็นกติกาที่วิปริต โดยเริ่มต้นจากสภาผู้แทนราษฎร เสนอแก้รัฐธรรมนูญว่าด้วยหมวดการได้มาซึ่ง สว. และผลักดันปัญหาของประชาชน เช่น ปัญหาเรื่องทับลาน ความขัดแย้งใน ตร. หรือกรณีเยาวชนถูกจองจำโดยไม่ได้รับการประกันตัว เราจะต้องรีบผลักดันเพื่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลง”
แม้กลุ่มพันธุ์ใหม่จะมีจำนวน สว. ไม่มาก แต่ “นันทนา” บอกว่า จะแสดงคุณภาพ ศักยภาพให้ทุกคนเห็น โดยจะส่งชิงทั้ง 3 ตำแหน่ง คือ ประธานวุฒิสภา รองประธานวุฒิสภาคนที่ 1 และรองประธานวุฒิสภาคนที่ 2 เชื่อว่าจะได้รับเสียงสนับสนุน ให้มีสัดส่วนสตรี เปิดพื้นที่ให้ผู้หญิงมีบททางการเมือง
วุ่นไม่เลิก “อาจารย์ อ๊อด” รศ.ดร.วีรชัย พุทธวงศ์ เลขาธิการศูนย์ประสานงานบุคลากรในสถาบันอุดมศึกษา และ ศ.ดร.ศิวัช พงษ์เพียจันทร์ คณะพัฒนาสังคมและยุทธศาสตร์การบริหาร นิด้า เดินทางไปยื่นหนังสือกับ ตัวแทน รมว.อุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัย และนวัตกรรม เพื่อขอให้ตรวจสอบการใช้ตำแหน่ง ศาสตราจารย์นำหน้าชื่อเพื่อสมัครเข้ารับการสรรหาในตำแหน่งสมาชิกวุฒิสภา ของผู้สมัครคนหนึ่ง
เนื่องจากทำให้สังคม สับสนว่า เป็นตำแหน่งที่ได้มาโดยชอบด้วยกฎหมายหรือไม่ จนนำไปสู่กระแสวิพากษ์วิจารณ์เป็นวงกว้าง เนื่องจากตำแหน่งศาสตราจารย์ของผู้สมัครคนนี้ เป็นการเทียบวุฒิจากสถาบันเทียบวุฒิที่ต่างประเทศ ในลักษณะบริษัทที่ใช้ชื่อว่า California University FCE ซึ่งไม่ใช่อุดมศึกษา
ด้าน “หมอเกศ” พญ.เกศกมล เปลี่ยนสมัย ยิ้มรับ ย่องเข้ารัฐสภา ยื่นเอกสาร สว.เพิ่ม และรับบัตรประจำตัว โดยใช้เวลาไม่ถึง 10 นาที หนีไม่พ้นผู้สื่อข่าวตาดี ที่เห็นว่า แอบออกทางประตูด้านหลัง เจ้าตัวแจงไม่สะดวกให้สัมภาษณ์
ปิดท้ายดินเนอร์พรรคร่วมรัฐบาลค่ำนี้ที่บ้านปาร์คนายเลิศ ซึ่งพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) เป็นเจ้าภาพ คงไร้เงา “ลุงป้อม” พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคเหมือนเช่นเคย แต่แกนนำพรรคร่วมน่าจะพร้อมพรั่ง ไม่ว่าจะเป็น นายกฯ นิด “เศรษฐา” อุ๊งอิ๊ง แพทองธาร, มท.หนู “อนุทิน ชาญวีรกูล“ นพ.พรหมินทร์ เลิศสุริย์เดช เลขาธิการนายกรัฐมนตรี และ นายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ อดีตรองนายกรัฐมนตรี
