วันนี้ (18 ก.ค.2567) นายณัฐชา บุญไชยอินสวัสดิ์ สส.พรรคก้าวไกล ในฐานะรองประธานคณะอนุกรรมาธิการพิจารณาศึกษาสาเหตุและแนวทางการแก้ไขปัญหา รวมถึงผลกระทบจากการนำเข้าปลาหมอคางดำ เพื่อการวิจัยและพัฒนาสายพันธุ์ในราชอาณาจักรไทย ระบุถึงการเรียกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าชี้แจงกรณีปลาหมอคางดำว่า คณะอนุกรรมาธิการฯ ได้ให้โจทย์ไปทางกรมประมงเกี่ยวกับประเด็นข้อสงสัยกรณีการส่งออกปลาสายพันธุ์นี้ว่า สุดท้ายแล้วประเทศไทยมีการส่งออกปลาหมอคางดำจริงหรือไม่ และข้อมูลที่เกี่ยวข้องจากทางฝั่งบริษัทเอกชน
ส่วนข้อมูลที่ไม่ตรงกันในเรื่องของ เงื่อนไขการส่งซากปลา ซึ่งทางกรมประมงระบุว่ายังไม่เคยได้รับแต่ทางบริษัทเอกชนยืนยันว่าได้ส่งไปแล้ว ซึ่งเรื่องนี้ตอบโต้กันไปมาก็จะไม่จบ ดังนั้นควรจะมีเอกสารหลักฐานที่ชัดเจน โดยเชื่อว่าการหารือในวันนี้จะได้ข้อสรุปมากขึ้น เพราะอธิบดีกรมประมงมาชี้แจงด้วยตนเอง
อ่านข่าว : ปลาหมอคางดำระบาด 16 จังหวัด กรมประมง เปิด 6 มาตรการเร่งด่วน
ทั้งนี้มีข้อสังเกตจากบริษัทเอกชนว่า เพราะเหตุใดปลาสายพันธุ์นี้ เพิ่งจะระบาด ทั้งที่พบในแหล่งน้ำมา 14 ปีแล้ว โดยมองว่า ประเด็นนี้เข้าใจผิด และเป็นการเข้าใจที่สลับกัน เพราะไม่ใช่เพิ่งจะระบาดหลังผ่านมา 14 ปี แต่ความจริงระบาดมา 14 ปีแล้ว เพียงแต่วันนี้ลุกลามบานปลายมากยิ่งขึ้น จาก 5 จังหวัดเป็น 10 จังหวัดและเป็น 16 จังหวัดในปัจจุบัน ซึ่งสถานการณ์บานปลายและร้อยเรียงมาจากปี 2555
ทั้งนี้เมื่อเกิดข้อผิดพลาดขึ้นแล้ว ก็อาจจะมีข้อสันนิษฐานในหลายประเด็น แต่ทุกข้อสันนิษฐานจะต้องยืนอยู่บนพยานหลักฐาน โดยข้อมูลหลักฐานที่ยืนยันได้จากกรมประมงซึ่งเป็นหน่วยงานของรัฐ ระบุว่า ตั้งแต่ปี 2555 จนถึงปัจจุบันมีการอนุญาตนำเข้าเพียงรายเดียว ส่วนจะบอกว่า รายอื่นนำเข้ามาแต่ไม่มีการอนุญาต หรือมีการลักลอบ ยังเป็นเพียงข้อกล่าวอ้างไม่มีข้อมูลหลักฐานที่ชัดเจน
ทั้งนี้การที่ รมว.เกษตรและสหกรณ์ได้ยกประเด็นนี้ เป็นวาระแห่งชาติ และนายกรัฐมนตรี ก็ยืนยันว่าจะต้องแก้ไขปัญหานี้อย่างเร่งด่วน เพื่อไม่ให้ เป็นการส่งต่อธรรมชาติไม่สมบูรณ์ ไปยังคนรุ่นต่อไป
ดังนั้นทุกฝ่ายจะต้องตื่นตัวเร่งเดินหน้าแก้ปัญหาให้มีทิศทางมากขึ้น โดยเฉพาะการกำหนดไทม์ไลน์แก้ปัญหาแต่ละช่วง เพื่อไม่ให้เกิดความสับสน ไม่ว่าจะเป็นการส่งปลานักล่าลงสู่แหล่งน้ำ การเปิดทางให้ประชาชนใช้อุปกรณ์จับปลาจำนวนมาก รวมไปถึงการรับซื้อปลาหมอคางดำ และการเยียวยาเกษตรกรที่ได้รับผลกระทบ ซึ่งขณะนี้ทุกอย่างยังไม่มีความชัดเจน
พร้อมย้ำว่า เรื่องนี้ไม่ใช่ปัญหาของกลุ่มใดกลุ่มหนึ่งหรือกระทรวงใดกระทรวงหนึ่ง ถือเป็นเรื่องระดับชาติ เพราะเกี่ยวข้องกับระบบนิเวศ ไม่เช่นนั้นคนรุ่นต่อไปอาจจะได้เห็นปลาท้องถิ่นเพียงแค่ในรูปเท่านั้น
อ่านข่าว :
เทียบรายงาน “บริษัทนำเข้า-กรมประมง” ปมปลาหมอคางดำ