หน้าแรก Thai PBS ก.พ.ค.ตร.ยกอุทธรณ์ “บิ๊กโจ๊ก” ชี้คำสั่งให้ออกราชการชอบด้วยกฎหมาย

ก.พ.ค.ตร.ยกอุทธรณ์ “บิ๊กโจ๊ก” ชี้คำสั่งให้ออกราชการชอบด้วยกฎหมาย

62
0
กพคตร.ยกอุทธรณ์-“บิ๊กโจ๊ก”-ชี้คำสั่งให้ออกราชการชอบด้วยกฎหมาย
ก.พ.ค.ตร.ยกอุทธรณ์ “บิ๊กโจ๊ก” ชี้คำสั่งให้ออกราชการชอบด้วยกฎหมาย

ความคืบหน้ากรณีคณะกรรมการพิทักษ์ระบบคุณธรรมข้าราชการตำรวจ (ก.พ.ค.ตร.) พิจารณาคำร้องอุทธรณ์คำสั่งให้ออกราชการไว้ก่อนของ พล.ต.อ.สุรเชชษฐ์ หักพาล เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว

วันนี้ (6 ส.ค.2567) นายธวัชชัย ไทยเขียว หนึ่งในคณะกรรมการพิทักษ์ระบบคุณธรรมข้าราชการตำรวจ หรือ ก.พ.ค.ตร. และในฐานะรองโฆษก ก.พ.ค.ตร. ได้โพสต์ข้อความในเฟซบุ๊กเกี่ยวกับการพิจารณาวินิจฉัยอุทธรณ์ ร้องทุกข์ของ พล.ต.อ.สุรเชชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ที่ถูกสั่งให้ออกจากราชการไว้ก่อน ว่า

คณะกรรมการ ก.พ.ค.ตร.ได้ประชุมพิจารณาวินิจฉัยคดีที่เป็นที่สนใจและมีคำวินิจฉัยเรื่องอุทธรณ์ ของ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หรือสุรเชชษฐ์ หักพาล โดยได้ส่งคำวินิจฉัยไปให้ผู้อุทธรณ์และคู่กรณีทราบ ซึ่งปรากฏหลักฐานว่าคู่กรณีทั้งสองฝ่ายได้รับคำวินิจฉัยแล้ว

คณะกรรมการ ก.พ.ค.ตร.ได้พิจารณาวินิจฉัยตามอำนาจหน้าที่ตามที่กฎหมายบัญญัติ และตามกฎ ก.พ.ค.ตร.ว่าด้วยอุทธรณ์และการพิจารณาวินิจฉัยอุทธรณ์ พ.ศ.2567 ซึ่งกำหนดให้ใช้วิธีการไต่สวนและได้ดำเนินการแสวงหาข้อเท็จจริง โดยคู่กรณีทั้งสองฝ่ายได้ทราบข้อเท็จจริงอย่างเพียงพอและมีโอกาสได้โต้แย้งแสดงพยานหลักฐานของตนแล้ว

ข้อเท็จจริงตามอุทธรณ์ คำขอคุ้มครองชั่วคราว คำชี้แจงของผู้อุทธรณ์ คำแก้อุทธรณ์ของคู่กรณีในอุทธรณ์ คำชี้แจงและเอกสารที่เกี่ยวข้องของคู่กรณีทั้งสองฝ่าย และการแถลงด้วยวาจาของคู่กรณีทั้งสองฝ่ายรับฟังได้ว่า ผู้อุทธรณ์ได้ถูกกล่าวหาว่ากระทำความผิดอาญา และถูกตั้งกรรมการสอบสวนวินัยอย่างร้ายแรง คู่กรณีในอุทธรณ์ ซึ่งเป็นผู้บังคับบัญชาผู้ออกคำสั่งอาศัยอำนาจตามพระราชบัญญัติตำรวจแห่งชาติ พ.ศ.2565 มาตรา 105 มาตรา 107 มาตรา 1331 และมาตรา 179 ประกอบกฎ ก.พ.ค.ตร. ว่าด้วยการทั้งสักรายการมธรรรรกจาการการไว้ก่อน พ.ศ.2567 ออกคำสั่งให้ออกจากราชการไว้ก่อน

วินิจฉัยว่า คำสั่งสำนักงานตำรวจแห่งชาติที่ 178/2567 ลงวันที่ 18 เม.ย.2567 เป็นคำสั่งที่ดำเนินการตามหลักเกณฑ์ วิธีการ ที่กฎหมาย และ กฎ ก.ตร. กำหนด และเป็นการใช้ดุลพินิจที่เหมาะสม จึงเป็นคำสั่งที่ชอบด้วยกฎหมาย วินิจฉัยยกอุทธรณ์และยกคำขอกำหนดวิธีการชั่วคราวของผู้อุทธรณ์

ทั้งนี้ หากผู้อุทธรณ์ไม่เห็นด้วยกับคำวินิจฉัยอุทธรณ์ของ ก.พ.ค.ตร. มีสิทธิฟ้องคดีต่อศาลปกครองสูงสุด โดยวิธีการยื่นฟ้องต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ของศาล หรือยื่นฟ้องโดยส่งทางไปรษณีย์ลงทะเบียนภายในระยะเวลา 90 วันนับแต่วันที่ทราบหรือถือว่าทราบคำวินิจฉัยนี้

“บิ๊กโจ๊ก” ยันยืนคำร้องศาลปกครองสูงสุด

ขณะที่ พล.ต.อ.สุรเชชษฐ์ เปิดเผยว่า ขณะนี้อยู่ระหว่างรอผลวินิจฉัยอุทธรณ์ ซึ่งยังไม่ไม่ทราบผลเป็นอย่างไร รวมถึงไม่ทราบว่าเมื่อวานนี้ คณะกรรมการ ก.พ.ค.ตร. มีการประชุมลับถึงเวลาเกือบเที่ยงคืน แต่ยืนยันว่าหากผลออกมาเป็นลบ หรือคำสั่งให้ออกจากราชการไว้ก่อนชอบด้วยกฎหมาย จะยื่นคำร้องต่อศาลปกครองสูงสุดภายใน 90 วันหลังทราบผล  

อ่านข่าว : ก.พ.ค.ตร.ยังไม่ฟัน “บิ๊กโจ๊ก” รอพิจารณาเพิ่ม-รู้ผลสัปดาห์หน้า 

“บิ๊กโจ๊ก-บิ๊กต่าย” ชี้แจง ก.พ.ค.ตร.ครั้งสุดท้าย 30 ก.ค.ปมอุทธรณ์คำสั่งให้ออก 

“บิ๊กโจ๊ก” แจงหมดเปลือกปมถูกโยกย้าย-รอผล ก.พ.ค.ตร. 

ทิ้งคำตอบไว้

กรุณาใส่ความคิดเห็นของคุณ!
กรุณาใส่ชื่อของคุณที่นี่