ไม่ใช่แค่ “พรรคถิ่นกาขาวชาววิไล” ที่ว่ากันว่า อยู่ระหว่างการขยับเขยื้อนจะเปลี่ยน โลโก้ และ สโลแกน พรรคจากใบโพธิ์สีเขียวล้อมรอบด้วยวงกลมสีขาวขอบแดงเหลือง มีตัวอักษรสีขาวเขียนชื่อพรรคภาษาไทยและอังกฤษ “THINKAKHAO CHAOVILAI PARTY” หรือ TKCV อยู่ในพื้นวงกลมสีน้ำเงิน และด้านนอกเป็นกลีบดอกบัวสีชมพู เพื่อเตรียมเป็น “รังใหม่” รองรับสมาชิกพรรคส้ม “ก้าวไกล” และแต่งตัวเป็นพรรคใหม่เตรียมรับการเลือกตั้งในอนาคต
หากศาลรัฐธรรมนูญมีคำวินิจฉัยให้ยุบพรรคก้าวไกล และกรรมการบริหารพรรคฯ ต้องถูกตัดสิทธิทางการเมือง ในวันพรุ่งนี้ (7 ส.ค.) จากปม นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ และพรรคก้าวไกลเสนอแก้ไขประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 โดยใช้เป็นนโยบายหาเสียงเลือกตั้ง เป็นการใช้สิทธิ หรือเสรีภาพ ล้มล้างการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข
ยังไม่มีข้อมูลชัดเจนว่า ก้าวไกล จะใช้ “ถิ่นกาขาวชาววิไล” เป็นพรรคสำรองหรือไม่ แต่หากพลิกความหมายของที่มาของพรรคการเมืองพรรคนี้คร่าว ๆ คือ ถิ่นอยู่ของคนดี คนที่มีศีลธรรมประจําใจ และมีความสง่างามของสามัญชนคนธรรมดาทั่วไป มีจรรยามารยาทที่สวยงาม มีลักษณะสมบูรณ์ ใครได้พบเห็นก็เกิดความพึงพอใจ
ในขณะที่ข้อมูลจากคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ระบุว่าเมื่อวันที่ 30 มิ.ย.2567 ยังมีพรรคการเมืองที่ยังเปิดดำเนินการอยู่ 78 พรรคการเมือง โดย พรรคถิ่นกาขาวชาววิไล (ถกชว) แจ้งจดตั้งพรรควันที่ 7 ส.ค.2555 ปัจจุบันมี นายตุลย์ ตินตะโมระ เป็นหัวหน้าพรรค นายกฤติน นิธิเบญญากร เป็นเลขาธิการพรรค
มีคณะกรรมการบริหารพรรคจำนวน 10 คน สมาชิกพรรค 11,510 คน มี 3 สาขาพรรค และมีการแจ้งที่ตั้งพรรคไว้ที่ 588/36 หมู่บ้านกรานาดา ปิ่นเกล้า ถนนบรมราชชนนี แขวงท่าศาลาธรรมสพน์ เขตทวีวัฒนา กทม. 10170
ในการเลือกตั้งเมื่อ 14 พ.ค.2566 พรรคถิ่นกาขาวฯ ไม่ได้ส่งบัญชีรายชื่อแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี แต่ส่ง สส.บัญชีรายชื่อ 13 คน เป็น สส.ระบบเขตเลือกตั้ง จ.ลพบุรี 2 เขตเลือกตั้ง พร้อมประกาศแนวทาง นโยบายหาเสียงของพรรค การเลือกตั้งปี 2566 พรรคถิ่นกาขาวฯ ไม่ได้ สส.แม้แต่คนเดียว
แต่เมื่อวันที่ 24 มี.ค.2566 “นางลลิตา สิริพัชรนันท์” หัวหน้าพรรคฯ ในขณะนั้นได้รับการแต่งตั้งให้เป็นกรรมการผู้ช่วยรัฐมนตรี ต่อมาได้ขอลาออกจากตำแหน่ง เมื่อวันที่ 22 มิ.ย.2566
มีการคาดการณ์ว่า “ศิริกัญญา ตันสกุล” สส.บัญชีรายชื่อ รองหัวหน้าพรรคก้าวไกล วัย 43 ปี ในฐานะหัวหน้าทีมเศรษฐกิจจะถูกเสนอให้เป็น หัวหน้าพรรคฯ คนใหม่ แม้ที่ผ่านมา จะไม่ได้ออกมาตอบรับหรือปฏิเสธ ว่าแผนสำรองดังกล่าว คือ หนึ่งในทางเลือก เช่นเดียวกับการเตรียมย้ายรังใหม่เข้า “พรรคถิ่นกาขาวชาววิไล” เพื่อให้ สส.ต้องเข้าสังกัดพรรคใหม่ให้ทันภายใน 60 วัน หรือไม่
แต่ที่แน่ ๆ คือ หากอุบัติเหตุการเมืองครั้งนี้เกิดขึ้น ก็จะส่งผลให้ พิธา ลิ้มเจริญรัตน์, ชัยธวัช ตุลาธน, ปดิพัทธ์ สันติภาดา ต้องหลุดจากวงโคจรทางการเมือง แล้วก็ยังส่งผลต่อกรรมการบริหารพรรคอีก 11 คน อาทิ สมชาย ฝั่งชลจิตร, อมรรัตน์ โชคปมิตต์กุล, เบญจา แสงจันทร์, ต้องถูกตัดสิทธิการเมืองไปโดยปริยายแล้ว
พรรคก้าวไกล ยังมี สส.แถวถัดไปรับลูกต่อ นอกเหนือจาก “ศิริกัญญา” ยังมี สส.บัญชีรายชื่อที่จัดว่าเป็น “ตัวตึง” เช่น วิโรจน์ ลักขณาอดิศร, รังสิมันต์ โรม, วาโย อัศวรุ่งเรือง, พริษฐ์ วัชรสินธุ, เดชรัตน์ สุขกำเนิด, ณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ, ชัยวัฒน์ สถาวรวิจิตร และอีกหลาย ๆ คนที่จะเข้ามาทดแทน ในส่วนที่หายไปได้เช่นกัน
ปฏิเสธไม่ได้ว่าการหาพรรคสังกัดใหม่ของบรรดา สส. หาก “ก้าวไกล” ถูกยุบ ระหว่างทางมีความเสี่ยงสูงที่ “สส.” จะอาจกลายสภาพเป็น “งูเห่าสีส้ม” ถูกดูดเข้าพรรคการเมืองอื่น ๆ แม้ที่ผ่านมาโดยเฉพาะพรรคเพื่อไทยจะออกมายืนยันว่า ไม่จำเป็นต้องดูด เพราะมี สส.มากพอแล้วก็ตาม
ทว่า การเคลื่อนไหวของพรรคเกิดใหม่ ภายใต้ชายคาของพรรคพี่ใหญ่ระดับกลาง ในลักษณะยุทธการ “แลกแบงก์พัน แตกแบงก์ย่อย” ก็น่าจับตาไม่น้อย
โดยเฉพาะการเปิดตัวพรรคใหม่ “พลังมหาชน” เมื่อ “บุญรวี ยมจินดา” หัวหน้าพรรครวมใจไทย (ร.จ.ท.) ออกมา ระบุว่า พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ จะมอบหมายให้คนสนิท “สามารถ เจนชัยจิตรวนิช” สมาชิกพรรคพลังประชารัฐ อดีตผู้ช่วย รมว.ยุติธรรม เป็นหัวหน้าพรรคพลังมหาชนที่กำลังจะตั้งขึ้น เพื่อรองรับคนรุ่นใหม่ ส่วน พล.อ.ประวิตร ก็ยังอยู่ที่พรรคพลังประชารัฐต่อไป
ล่าสุด สด ๆ ร้อน ๆ วันนี้ (6 ส.ค.2567) หลังจาก พรรคกล้าธรรม หรือพรรคเศรษฐกิจไทยเดิม จัดประชุมใหญ่วิสามัญ ครั้งที่ 1/2567 เพื่อเลือกหัวหน้าพรรค และคณะกรรมการ (กก.บห.) พรรคชุดใหม่ หลังจากนายเชวงศักดิ์ ใจคำ หัวหน้าพรรคฯ ได้ยื่นหนังสือขอลาออกจากตำแหน่งหัวหน้าพรรคกล้าธรรม เมื่อวันที่ 17 ก.ค.ที่ผ่านมา มีผลให้กรรมการบริหารพรรคพ้นจากตำแหน่งทั้งคณะ
โดยผลการเลือกตั้งคณะกรรมการบริหารพรรคชุดใหม่ของพรรค ทำให้ “นฤมล ภิญโญสินวัฒน์” ผู้แทนการค้าไทย ได้เป็นหัวหน้าพรรคกล้าธรรม “คนใหม่”
นฤมล กล่าวตอนหนึ่งว่า … ในนามพรรคกล้าธรรม เราจะดำเนินกิจกรรมทางการเมืองด้วยความซื่อสัตย์สุจริต สร้างสรรค์ และส่งเสริมให้ประชาชนมีส่วนร่วม ส่งเสริมให้คนไทยมีที่ทำกิน มีที่อยู่ และมีอาชีพรองรับ และพัฒนา เศรษฐกิจไทยให้เติบโต เจริญก้าวหน้า ให้ประชาชนอยู่ดี กินดีและมีความสุข ส่งเสริมและรักษาไว้ซึ่งจารีต ประเพณี ธรรมเนียมอันดีงามของชาติ ศิลปวัฒนธรรม การศึกษาศาสนาและความปลอดภัยของประชาชน ส่งเสริมสร้างความเชื่อมั่นนักลงทุนไทยทั้งและต่างชาติ และรักษาไว้ซึ่งความสัมพันธ์ระหว่างประเทศอันดีตลอดไป
และในวันพรุ่งนี้ (7 ส.ค.) ศาลรัฐธรรมนูญ จะเป็นผู้ให้คำตอบว่าอนาคตพรรคก้าวไกลจะเป็นอย่างไร แกนนำแถวที่เหลือจะถูกขับเคลื่อนต่อ โดย “ศิริกัญญา”ในนามพรรคถิ่นกาขาวชาววิไลหรือไม่
หรือระหว่างทางแพร่งและทางแยกที่ สส.ยังไม่รู้จะไปที่ไหนดี จะหยุดพักที่พรรคใหม่ “พลังมหาชน” และ “กล้าธรรม” หรือไม่ เพราะพรรคใหญ่อย่าง “เพื่อไทย” และ “ภูมิใจไทย” เคยบอกล่วงหน้าไว้แล้วว่า “ไม่ดูด” เข้าพรรคอย่างแน่นอน
จึงต้องจับตายุทธการแตกแบงก์พัน เพื่อแลกแบงก์ย่อย หาก”ก้าวไกล” ถูกยุบพรรค แล้ว 2 พรรคเปิดใหม่ จะมี “งูเห่า” เลื้อยเข้ารูหรือไม่
อ่านข่าวอื่น :
ตื้นตัน! ปธ.วุฒิสภาน้ำตาไหล สว.แดงถกปมเงินหมื่นแทนใจชาวบ้าน การเมือง 6 ส.ค. 67 15:21 269
“ปดิพัทธ์” ชี้เป็นเรื่องปกติทั่วโลกจับตาคดียุบพรรค “ก้าวไกล” การเมือง 6 ส.ค. 67 12:13 332