วันนี้ (29 ส.ค.2567) หลังประชุมคณะกรรมการบริหารพรรคพลังประชารัฐเสร็จสิ้น ที่ใช้เวลาไม่ถึง 1 ชั่วโมง พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ เดินทางออกจากพรรค โดยผู้สื่อข่าวถามว่าเป็นอย่างไรบ้าง พล.อ.ประวิตร ระบุว่า “สบายมาก” พร้อมโบกมือให้กับผู้สื่อข่าว ก่อนที่จะขึ้นรถออกจากพรรคไป
จากนั้น นายไพบูลย์ นิติตะวัน รองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ พร้อมด้วยกรรมการบริหารพรรค ร่วมแถลงข่าวผลการ ประชุมกรรมการบริหารพรรค โดยกล่าวถึงกรณีที่พรรคเพื่อไทย ไม่เชิญพรรคพลังประชารัฐร่วมกับรัฐบาล หัวหน้าพรรคประชารัฐแสดงความเห็นอย่างไรบ้างว่า ตามที่ปรากฏเป็นข่าวกรรมการบริหารพรรคเพื่อไทยและ สส. ของพรรค และให้สัมภาษณ์ว่าไม่เชิญพรรคพลังประชารัฐร่วมรัฐบาล จึงได้แจ้งที่ประชุมกรรมการบริหารพรรคเพื่อทราบในเรื่องนี้
พร้อมระบุว่าเรื่องของพรรคพลังประชารัฐไม่ได้เกี่ยวกับพรรคเพื่อไทย แต่เรื่องของพรรคพลังประชารัฐเกี่ยวข้องกับ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี หลังมีสัญญาประชาคมร่วมกัน ซึ่งเสมือนหนึ่งเป็นคำมั่น กับพรรคพลังพลังประชารัฐที่แสดงออกต่อสาธารณะไปแล้วว่าจะให้พรรคพลังประชารัฐ ร่วมโหวตนายกรัฐมนตรี และให้พรรคพลังประชารัฐมีเก้าอี้รัฐมนตรีตามสัดส่วนเดิม
อ่านข่าว : “บิ๊กป้อม” ยิ้มสู้ถก พปชร.หลังไม่ร่วมรัฐบาลเพื่อไทย
หลังจากนั้นพรรคพลังประชารัฐก็ออกเสียงโหวตให้ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร เป็นนายกรัฐมนตรี 39 คน เว้นหัวหน้าพรรคติดภารกิจตามความจำเป็น ซึ่งถือว่าพรรคพลังประชารัฐได้ ทำตามคำมั่นที่ให้ไว้แล้ว ดังนั้นเป็นเรื่องที่นายกรัฐมนตรีจะต้องดำเนินตามคำมั่น พร้อมกับหยิบยกข้อกฎหมาย ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ ม.362 ระบุว่า “บุคคลออกโฆษณาให้คำมั่นว่าให้รางวัลแก่ผู้ซึ่งกระทำการอันใดท่านว่าจะต้องให้รางวัลแก่บุคคลใดใดที่ได้กระทำการอันนั้น แม้ถึงไม่ใช่ว่าผู้นั้นจะได้กระทำเพราะเห็นแก่รางวัล” แม้เห็นแก่รางวัลก็ทำตามคำมั่นที่อีกฝ่ายให้ไว้ต้องให้รางวัล กรณีนายกรัฐมนตรีและพรรคพลังประชารัฐได้ให้คำมั่นไว้
หลังจากที่ น.ส.แพทองธารได้เป็นนายกรัฐมนตรีก็ให้สัมภาษณ์ว่าพรรคพลังประชารัฐร่วมรัฐบาลซึ่งถือเป็นการ ทำตามคำมั่นตามประมวลกฎหมายแพ่ง ซึ่งเป็นการออกโฆษณาเผยแพร่ตามสื่อด้วย และกล่าวว่าเป็นห่วงนายกรัฐมนตรี พร้อมกับระบุว่าพรรคพลังประชารัฐ สบายมากมีความสุขมีความเข้มแข็งแน่วแน่ที่จะดูแลพรรคพลังประชารัฐในฐานะหัวหน้าพรรคไปตลอด ไปจนกว่าจะไม่ไหว
“ท่านควรจะห่วงนายกรัฐมนตรีมากกว่า คนปัจจุบัน เพราะการให้คำมั่นมาแล้ว ทำครบถ้วนสมบูรณ์แบบหากนายกรัฐมนตรีไม่ปฏิบัติตามคำมั่น วิญญูชนโดยทั่วไป ก็จะว่าได้ท่านนายกรัฐมนตรี อาจมีปัญหาเสียงวิพากษ์วิจารณ์ อาจจะขาดความซื่อสัตย์สุจริตไม่เป็นที่ประจักษ์หรือไม่ วิญญูชนก็จะทวงได้ ดังนั้นความเป็นห่วงสื่อมวลชนควรห่วงนายกรัฐมนตรีมากกว่า เพราะเรื่องการมีความซื่อสัตย์สุจริตเป็นที่ประจักษ์เป็นเรื่องสำคัญ พูดเรื่องกฎหมายไม่ได้ส่งสัญญาณอะไรอ้างอิงตามคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ เมื่อวันที่ 14 ส.ค.2567” นายไพบูลย์กล่าว
นายไพบูลย์ ระบุเพิ่มเติม เกี่ยวกับหากนายกรัฐมนตรีไม่ได้แต่งตั้งรัฐมนตรีตามรายชื่อที่พรรคพลังประชารัฐส่งไปจะฟ้องร้องหรือไม่ว่า พรรคพลังประชารัฐเป็นพรรคใหญ่ไม่ทำอย่างนั้น แต่เป็นเรื่องของคำมั่น เป็นการแสดงเจตนา จึงต้องถามกลับว่าในระดับนายกรัฐมนตรี ว่าศาลรัฐธรรมนูญได้วางบรรทัดฐานไว้ เมื่อมีคำมั่นแล้วไม่ปฏิบัติตาม ก็จะเป็นข้อครหาจากสังคม แต่พลังประชารัฐไม่ได้หวังว่าจะเปลี่ยนอะไรหากทำไปแล้วก็ทำไปให้มันจบ เพราะพรรคพลังประชารัฐมั่นคง และพร้อมที่จะทำหน้าที่ทุกอย่างเพื่อเป็นประโยชน์ต่อประเทศชาติ และประชาชน
เมื่อถามว่าคนบ้านป่ามีคลิปคนบ้านจันทร์สองหล้า วันที่เรียกรัฐมนตรีพรรคร่วมรัฐบาลเข้าพบนั้นนายไพบูลย์ระบุว่าไม่ทราบ ถึงทราบก็ไม่รู้จะบอกทำไม ตอนนี้ถือว่าไม่ทราบ แต่เรื่องต่างๆ ไม่ได้เพียงแค่นี้ หากได้ติดตามจากสื่อสารมวลชน ก่อนจะทิ้งท้ายว่าวันนี้ หัวหน้าพรรคอารมณ์ดีมาก ไม่ทราบเป็นเพราะอะไร
ที่เป็นห่วงที่สุดคือสถานะของรัฐบาลหากเริ่มต้นอย่างนี้แล้ว จะได้นานสักเท่าไหร่ อันนั้นน่าเป็นห่วงมากกว่า
นายไพบูลย์ระบุว่า มีชื่อหรือไม่มีชื่อก็ไม่สำคัญหากไม่มีชื่อก็เป็นข้อดีก็แสดงว่าไม่ทำตามคำมั่น ส่วนพรรคพลังประชารัฐมีความสุขโดยเฉพาะ สส. มีความสุขจะได้ทำงานอย่างมีอิสระ เพราะพรรคร่วมรัฐบาลครั้งนี้ในอดีตก็เป็นฝ่ายค้าน ไปอยู่ร่วมกับนายกรัฐมนตรีที่ยังไม่ทันไรมีปัญหาเรื่องคำมั่นที่ไม่สามารถทำตามได้ ไปอยู่ด้วยเสียชื่อพรรค ประชาชนอาจจะมองในด้านไม่ดี แนะให้ไปสำรวจความคิดเห็นของประชาชนต่อนายกรัฐมนตรี แต่ส่วนตัวดีใจไม่ได้ยุ่งเกี่ยวอะไร
เมื่อถามว่าหากนายกรัฐมนตรีตั้งกลุ่มของ ร.อ.ธรรมมนัส พรหมเผ่า เป็นรัฐมนตรี นายไพบูลย์กล่าวย้ำว่าเป็นเรื่องในครอบครัวพลังพลังประชารัฐคนอื่นไม่ต้องการให้เกี่ยว ยังคงเป็นครอบครัวเดียวกัน ยังคุยกันได้อย่างมีความสุข และการประชุมใหญ่สามัญครั้งหน้าไม่มีวาระการขับกลุ่ม ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ออกจากพรรค
ไม่มีใครจะขับครอบครัวตัวเอง เป็นครอบครัวเรา อยู่ด้วยกันก่อน ไม่มีเรื่องนั้น สื่อขอให้เคลียร์ลือกันไม่มีทั้งสิ้น เรามีความสุขที่จะอยู่ด้วยกัน
โดยมติที่ประชุมกำหนดวันประชุมใหญ่ สามัญประจำปี 2/2567 ในวันที่ 6 ก.ย.นี้ ที่ห้องประชุมใหญ่ที่ทำการพรรค เวลา 10.00 – 13.00 น. เพื่อพิจารณาตั้งกรรมการบริหารพรรค และกรรมการสรรหาผู้สมัครรับเลือกตั้งเพิ่มเติม เนื่องจากมีกรรมการบริหารพรรคลาออก จึงต้องตั้งเพิ่มเติมให้ครบถ้วน
อ่านข่าว :
พยัคฆ์ซ่อนเล็บบ้านป่าใหญ่ “ลุงป้อม” หมอบเฝ้า รอวันเอาคืน
พท.เทียบเชิญ ปชป.ร่วมรัฐบาล “เดชอิศม์” รอมติพรรคบอกได้ 2 รมต.