วันเสาร์ที่ 7 ก.ย.นี้ ครม.นัดพิเศษ เตรียมลงมติเห็นชอบนโยบายรัฐบาล ซึ่งต้องเป็นไปตามกรอบของรัฐธรรมนูญ มาตรา 162 ก่อนนำไปแถลงต่อรัฐสภา เพื่อรับไม้ต่อจาก “ครม.เศรษฐา” คาดการณ์ว่านโยบายรัฐบาลเพื่อไทย 2 ยังคงโครงการ “ดิจิทัลวอลเล็ต” ไว้ และน่าจะเพิ่มเติมเรื่องการจัดตั้งสถานบันเทิงครบวงจร และกัญชาเพื่อการแพทย์
นโยบายรัฐบาลเพื่อไทย 2 ที่จะแถลงต่อรัฐสภา 12 ก.ย.นี้ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี กล่าวย้ำ ยังคงเน้นสานต่อนโยบายเดิมของรัฐบาลเพื่อไทย 1 แต่ต้องปรับเปลี่ยนรายละเอียดให้ชัดเจนขึ้น
มาตรการลดภาระค่าใช้จ่าย เกี่ยวกับพลังงาน-ไฟฟ้า-น้ำมัน,การผลักดันการท่องเที่ยว,รถไฟฟ้าตลอดสาย 20 บาท, ขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ 600 บาท ภายในปี 2570 รวมถึง 30 บาทรักษาทุกที่ ด้วยบัตรประชาชนใบเดียว และยังคงมี ซอฟต์พาวเวอร์ มวยไทย-อาหารพื้นเมือง ตลอดจน แก้ฝุ่นละอองขนาดเล็ก หรือ PM 2.5
การบริหารจัดการน้ำ เป็นวาระแห่งชาติ, การแก้ปัญหาหนี้สิน ทั้งหนี้บัตรเครดิต-พักหนี้เกษตรกรและหนี้นอกระบบ, การแจกโฉนดที่ดินทำกิน ผ่าน One Map, การแก้ปัญหาชายแดนภาคใต้ ทั้งเรื่องการพูดคุยสันติสุข รวมถึงการแก้ปัญหายาเสพติด เครือข่ายของกลุ่มขบวนการค้ายาเสพติดและการลักลอบผ่านแนวชายแดน, เปลี่ยนรูปแบบการเกณฑ์ทหารเป็นแบบสมัครใจ รวมถึงการผลักดันกฎหมายและการแก้รัฐธรรมนูญ
ส่วนนโยบาย เอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ หรือ กาสิโนถูกกฎหมาย, การลงทุนเพื่อบริหารจัดการน้ำ การถมทะเลบางขุนเทียนเพื่อสร้างพื้นที่เศรษฐกิจใหม่ รวมถึงเมกะโปรเจกต์ โครงการแลนด์บริดจ์ ที่จะเชื่อมต่อทะเลอ่าวไทย-อันดามัน ยังไม่ชัดเจน จะถูกบรรจุในนโยบายรัฐบาลเพื่อไทย 2 หรือไม่
เช่นเดียวกับ นโยบาย กัญชาเพื่อการแพทย์ นโยบายเรือธงของพรรคภูมิใจไทย ด้วยหลักการที่แตกต่างกับพรรคเพื่อไทย แต่นายกรัฐมนตรี ก็ยืนยันถึงการหารือและทำความเข้าใจกันแล้ว เหลือเพียงแค่การเขียนเป็นลายลักษณ์อักษร
ทั้งนี้นายกรัฐมนตรี ยังตั้งใจว่า ไม่ว่าอะไรที่เป็นการลงทุนที่นายเศรษฐา ทวีสิน อดีตนายกรัฐมนตรี ทำไว้อยู่แล้วนั้น ก็พร้อมจะสานต่อ-ทำต่อ อย่างแน่นอน ทั้งเรื่องการค้า การลงทุนกับต่างประเทศ
นอกจากนี้ยังมีนโยบายของแต่ละพรรคร่วมรัฐบาล ที่เสนอเข้ามา เช่น เสนอจัดระเบียบสังคม ประชาชนปลอดภัย , กระจายอำนาจการเงินการคลังสู่ท้องถิ่นเพิ่มขึ้น , ขยายพื้นที่ พัฒนาระบบประปาและน้ำดื่มสะอาด , สนับสนุนให้ประชาชนมีระบบโซลาร์เซลล์ผลิตกระแสไฟฟ้าใช้ในครัวเรือน
ตามกำหนดการ ครม.แพทองธาร 1 นัดประชุม ครม.นัดพิเศษ เสาร์ที่ 7 ก.ย.นี้ เพื่อลงมติเห็นชอบนโยบายรัฐบาล ซึ่งต้องเป็นไปตามกรอบของรัฐธรรมนูญ มาตรา 162 ก่อนนำไปแถลงต่อรัฐสภา ในวันที่ 12 ก.ย.นี้ เพื่อรับไม้ต่อจาก ครม.เศรษฐา ได้ตามกฎหมายกำหนด
อ่านข่าว :
นายกฯ ชี้ใช้คำแรงไป “ครม.สืบสันดาน” ย้ำตั้งใจทำงาน
“ธรรมนัส” เร่งดูข้อกฎหมายหาช่องพ้น พปชร. ให้คงสถานะ สส.
“ซาบีดา” ขอเวลาเป็นเครื่องพิสูจน์ หลังถูกปรามาสนั่ง รมช.แทนพ่อ