ปิดฉากชีวิตอดีตนายทหารม้า นักรบผู้เกรียงไกรในอดีต “บิ๊กตุ๊ด” พล.อ.วัธนชัย ฉายเหมือนวงศ์ อดีตรอง ผบ.ทบ.และอดีตแม่ทัพภาคที่ 3 เจ้าของยุทธการลือลั่น “ดอยเชียงดาว” ในปี 2542 สะเทือนเลือนลั่นทำขบวนการค้ายาเสพติดในฝั่งประเทศเพื่อนบ้าน ล้มลุกคลุกคลานอยู่ช่วงหนึ่ง กับปฏิบัติการถึงลูก-ถึงคน ถือเป็นทหารสายบู๊ ผ่านสมรภูมิชายแดนมาอย่างโชกโชน เคยดำรงตำแหน่งผู้บัญชาการกองพลทหารม้าที่ 1 (ผบ.พล.ม.1) จ.เพชรบูรณ์ ก่อนขยับเป็นรองแม่ทัพภาคที่ 3 และเป็นแม่ทัพภาคที่ 3 ในช่วงปี พ.ศ.2542-2544
พล.อ.วัธนชัย เป็นบุตรของ พล.อ.พิสิษฐ์ ฉายเหมือนวงศ์ และ คุณหญิงวรรณะ ฉายเหมือนวงศ์ เกิดเมื่อ พ.ศ.2485 โดยเส้นทางการเป็นนายทหาร “พล.อ.วัธนชัย” ได้เดินตามรอย “พล.อ.พิสิษฐ์” ผู้เป็นบิดา ส่วนมารดา คือ คุณหญิงวรรณะ สกุลเดิมคือ “บุนนาค” เป็นธิดาของ พล.อ.หลวงสวัสดิสรยุทธ (ดล บุนนาค) กับ ผูก บุนนาค (สกุลเดิม แสงทับทิม) เคยดำรงตำแหน่งผู้บัญชาการกองพลทหารม้าที่ 1 (ผบ.พล.ม.1) จ.เพชรบูรณ์ ก่อนขยับเป็นรองแม่ทัพภาคที่ 3 และเป็นแม่ทัพภาคที่ 3 ในช่วงปี พ.ศ.2542-2544 จากนั้นเข้าไลน์ 5 เสือแห่งกองทัพ ในตำแหน่งผู้ช่วยผู้บัญชาการทหารบก
พล.อ.วัธนชัย เคยร่วมทำกิจกรรมเพื่อสาธารณกุศล โดยได้รับแต่งตั้งให้เป็นนายกสโมสรวัฒนธรรมหญิง คนที่ 6 ระหว่างปี พ.ศ.2523-2527 และเป็นผู้กราบบังคมทูลฯ สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ (พระอิสริยยศในขณะนั้น) ขอพระราชทานพระมหากรุณารับสโมสรวัฒนธรรมหญิง เข้าอยู่ในพระบรมราชินูปถัมภ์ เมื่อวันที่ 7 เม.ย.2525 หลังจากที่สโมสรวัฒนธรรมหญิงได้ก่อตั้งมาเป็นเวลา 40 ปี นอกจากนี้ยังเป็นกรรมการในองค์กรสาธารณกุศลอีกหลายแห่ง เช่น เป็นกรรมการที่ปรึกษาสมาคมส่งเสริมการศึกษาในถิ่นกันดาร ในพระอุปถัมภ์สมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี เป็นต้น
หลังเกษียณอายุราชการในปี 2546 ข่าวของ พล.อ.วัธนชัย ก็เงียบหายไป แม้จะยังมีตำแหน่งเป็นประธานกรรมการราชตฤณมัยสมาคมฯ โดยรับไม้ต่อจาก “เสธอ้าย” พล.อ.บุญเลิศ แก้วประสิทธิ์ อดีตตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ โดย พล.อ.วัธนชัย เรียนจบจากโรงเรียนนายร้อยพระจุลจอมเกล้า รุ่นที่ 12 เป็นนักเรียนเตรียมทหารรุ่นที่ 1 เป็นเพื่อนร่วมรุ่นของ “บิ๊กแอ้ด” พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ ประธานองคมนตรี และอดีตนายกรัฐมนตรีคนที่ 24 และ พล.อ.สำเภา ชูศรี อดีตผู้บัญชาการทหารสูงสุด
พล.อ.วัธนชัย รับราชการสนองพระเดชพระคุณมาตลอดตั้งแต่เป็นนักเรียนเตรียม ทหาร กระทั่งเกษียณอายุราชการแล้ว ได้เข้าช่วยงานและกิจกรรมสาธารณกุศลเฉกเช่นเดียวกับมารดา เคยได้รับพระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์มหาปรมาภรณ์ช้างเผือก เนื่องในวโรกาสพระราชพิธีเฉลิมพระชนมพรรษา ในหลวงรัชกาลที่ 9 วันที่ 5 ธ.ค.2544
“ทหารกับโจร ต่างกันตรงไหน โจร คือ ผู้ถืออาวุธ แต่ไม่มีวินัย แต่ทหาร คือ ผู้ถืออาวุธที่มีวินัย และใช้อาวุธให้มีประสิทธิภาพ เพื่อรักษาชาติบ้านเมือง และถ้าทหารไม่ทำตามระเบียบวินัย ก็จะมีบทลงโทษรุนแรง” พล.อ.วัธนชัย กล่าวตอนหนึ่งในรายความสัมพันธ์ของพระพุทธศาสนากับประเทศชาติ เมื่อวันที่ 16 ก.ย.2560 โดยระบุว่า สนใจเรื่องศาสนามาตั้งแต่เป็นสมัยหนุ่ม ๆ แต่ไม่ได้ปฏิบัติอย่างลึกซึ้ง
ต่อมาอายุเพิ่มขึ้น พล.อ.วัธนชัย จึงศึกษาเรื่องพระธรรมวินัย และสมถกัมมัฏฐาน มีการปฎิบัติธรรมอย่างต่อเนื่อง อนัตตา ไม่ใช่ บุคคล ตัวตน ก็ไม่มี ใครมี และไม่มีใครเป็น คำกล่าวช่วงหนึ่งของ พล.อ.วัธนชัย เมื่อถูกถาม เรื่องความเข้าใจของทหารต่อศาสนา เมื่อครั้งนั้น
สำหรับกำหนดการพระราชทานน้ำหลวงอาบศพและสวดพระอภิธรรมศพ ของ พล.อ.วัธนชัย ฉายเหมือนวงศ์ ที่วัดพระศรีมหาธาตุฯ บางเขน ศาลาทักษิณาประดิษฐ์ ในวันนี้ (28 ต.ค. 2567) เวลา 15.30 น. พิธีรดน้ำศพ, เวลา 17.00 พิธีพระราชทานน้ำหลวงอาบศพ และพิธีสวดพระอภิธรรมศพ จนถึงวันที่ 2 พ.ย.2567 ส่วนวันที่ 3 พ.ย.2567 จะมีพิธีสวดพระอภิธรรม และเก็บศพไว้เป็นเวลา 100 วัน
