หน้าแรก Thai PBS จับกระแสการเมือง : วันที่ 18 พ.ย.2567 ผบช.น.คนใหม่ ใคร WIN ดีด “ฟิล์ม รัฐภูมิ”...

จับกระแสการเมือง : วันที่ 18 พ.ย.2567 ผบช.น.คนใหม่ ใคร WIN ดีด “ฟิล์ม รัฐภูมิ” พ้นอก พปชร.

5
0
จับกระแสการเมือง-:-วันที่-18-พย2567-ผบชนคนใหม่-ใคร-win-ดีด-“ฟิล์ม-รัฐภูมิ”-พ้นอก-พปชร.
จับกระแสการเมือง : วันที่ 18 พ.ย.2567 ผบช.น.คนใหม่ ใคร WIN ดีด “ฟิล์ม รัฐภูมิ” พ้นอก พปชร.

อีก 2 วัน (20 พ.ย.2567) แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี จะเป็นประธานการประชุมคณะกรรมการข้าราชการตำรวจ (ก.ตร.) เพื่อพิจารณาแต่งตั้งข้าราชการตำรวจระดับ “นายพล” ประจำปี 2567 วาระที่น่าสนใจ คือ การคัดเลือกแต่งตั้งข้าราชการตำรวจระดับนายพล วาระประจำปี 2567 ระดับ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (รอง ผบ.ตร.) ผู้ช่วย ผบ.ตร. ลงมาถึง ผู้บัญชาการ (ผบช.) ที่กฎหมายให้ยึด ตาม พ.ร.บ.ตำรวจแห่งชาติ ปี 2565 มาใช้เป็นหลักเกณฑ์ในการแต่งตั้งเป็นครั้งแรก

โดยปีนี้มีตำแหน่งรอง ผบ.ตร. ว่าง 4 ตำแหน่ง หนึ่งในนั้น คือ พล.ต.ท. ประจวบ วงศ์สุข นอกจากนี้ ยังมีการแต่งตั้ง ผู้ช่วย ผบ.ตร. 7 ตำแหน่งและ ผบช.ว่าง 14 ตำแหน่ง รวม 25 ตำแหน่ง ยังไม่รวมการโยกระนาบรวมทั้งสิ้นกว่า 30-40 ตำแหน่ง และการแต่งตั้งระดับ ผบช. ตำแหน่ง ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล(ผบช.น.) แทน พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.น. ที่ต้องเลื่อนขึ้น ผู้ช่วย ผบ.ตร.ตามลำดับอาวุโส ขณะที่เจ้าตัวได้ไปสมัครเป็นกรรมการ ป.ป.ช. ไว้ด้วยเช่นกัน

มีการคาดการณ์ว่า พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รอง ผบช.น. เป็นตัวเต็งจ่อขึ้น ผบช.น. โดยมีคู่ชิงอีก 2 คน คือ พล.ต.ท.นัยวัฒน์ ผะเดิมชิต ผบช.ภ.7 ที่อาจโยกกลับถิ่นเก่านครบาล สำหรับ พล.ต.ต.นพศิลป์ ชื่อเล่น “นพ” เกิดวันที่ 27 ก.ย.2512 ที่ อ.เกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี ปัจจุบันอายุ 55 ปี 

ส่วน พล.ต.ท.นัยวัฒน์ ผู้ท้าชิง เป็นนักเรียนนายร้อยตำรวจรุ่น 40 (นรต.รุ่น 40) อดีตรองจเรตำรวจ อดีตผู้บัญชาการสำนักงานยุทธศาสตร์ตำรวจ (อดีต ผบช.สยศ.) และม้ามืดมาแรง พล.ต.ท.สันติ ชัยนิรามัย จเรตำรวจ (นรต.48) โผล่าสุด แจ้งจะกลับมานั่งตำแหน่งคุมเมืองหลวง ในตำแหน่งผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ต้องรอลุ้นว่า ใครจะมาวิน

ไม่มีวันว่าง งานเข้ารัวๆ “บิ๊กเต่าพล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (รอง ผบช.ก.) ยังรับบทหนักในคดีดิไอคอนกรุ๊ป ตั้งแต่ดำเนินคดีกลุ่มผู้บรอหาร 18 บอส จนถึงการพิสูจน์ทราบคลิปบันทึกเสียงเรียกรับผลประโยชน์จากบริษัทดิไอคอน เพื่อดำเนินคดีกับ “พัช” กฤษอนงค์ สุวรรณวงศ์ ผอ.ศูนย์ข่าวต้านโกง ในประเด็นเรียกรับเงินหลักแสนบาท และได้มีการออกหมายจับไปแล้ว รวมทั้งคดีที่ “หนุ่ม” กรรชัย กำเนิดพลอย พิธีกรรายการโทรทัศน์เข้าแจ้งความข้อหาร่วมกันหมิ่นประมาท

ยังไม่รวม คดี รมต.น้ำ “จิราพร สินธุไพร” รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แจ้งความหมิ่นประมาท และกรณี “บอสปัน” ปัญจรัศม์ กนกรักษ์ธนพร ผู้ต้องหาคดีดิไอคอนกรุ๊ป เตรียมมอบอำนาจให้ทนายความเข้าแจ้งความกับ “พัช” กฤษอนงค์ กับ “ฟิล์ม” รัฐภูมิ โตคงทรัพย์ อดีตนักร้อง ร่วมกันเรียกรับเงินจำนวน 20 ล้านบาท ซึ่งโดย “บิ๊กเต่า” บอกว่า คณะทำงานขอเวลา 10 วัน ในการเพื่อสรุปข้อเท็จจริงทั้งหมด

ส่วนดำเนินคดีกับ เอกภพ เหลืองประเสริฐ ผู้ก่อตั้งเพจเฟซบุ๊กสายไหมต้องรอด จากกรณีพาบุคคลมาให้ข้อมูลกับตำรวจซึ่งภายหลังพิสูจน์ทราบว่าข้อมูลเป็นเท็จ ขณะนี้มีความคืบหน้าไปแล้วร้อยละ 90 ซึ่งคาดว่าจะมีความชัดเจนภายในสัปดาห์นี้ว่าจะดำเนินการออกหมายเรียกหรือหมายจับ

ไม่กระทบ “ไพบูลย์ นิติตะวัน” เลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) เปิดเผยหลัง “ฟิล์ม” รัฐภูมิ โตคงทรัพย์ ไปยื่นลาออกจากการเป็นสมาชิกพรรค พปชร. ต่อนายทะเบียนพรรคการเมือง สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ตั้งแต่วันศุกร์ที่ 15 พ.ย.ว่า ขณะนี้ กกต.ได้ถอดรายชื่อจากการเป็นสมาชิกพรรค พปชร.แล้ว ดังนั้น ตอนนี้นายรัฐภูมิไม่ได้เป็นสมาชิกพรรคแล้ว

“นายรัฐภูมิไม่ได้เป็นกรรมการบริหารพรรค ไม่ได้เป็น สส.ของพรรค เป็นเพียงหนึ่งในสมาชิกพรรค จากทั้งหมด 5.7 หมื่นคน …เรื่องนี้เป็นเรื่องส่วนตัว ที่ยังไม่รู้ว่าเขาผิดหรือเขาถูก เพราะเราไม่เกี่ยวข้อง”

และเรื่องนี้ไม่กระทบกับภาพลักษณ์พรรคพลังประชารัฐ ไม่ทำให้เรามีปัญหา ทุกอย่างยังปกติ อีกทั้งประเด็นนี้ก็ไม่ได้เป็นประเด็นใหญ่เหมือนบางพรรคที่มีการหลบหนีคดี มีประเด็นที่รุนแรงกว่าอย่างเรื่องตากใบ

ตามติด ไม่เลิก “นพรุจ วรชิตวุฒิกุล” แกนนำกลุ่มพิราบขาว 2006 ยื่นเอกสารเพิ่มเติมต่อ กกต.กรณีคำร้องยุบ 6 พรรคการเมือง โดยเฉพาะกรณีที่ “ทักษิณ ชินวัตร” อดีตนายกรัฐมนตรี เป็นประธานในพิธีทอดกฐินสามัคคี ที่วัดคลองครุ (ปัฐวิกรณ์) เมื่อวันที่ 9 พ.ย.2567 โดยให้สัมภาษณ์ว่าจะลงพื้นที่เป็นผู้ช่วยหาเสียงนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานี (อบจ.อุดรธานี) ซึ่งวันทอดกฐินก็ไม่ได้มีห้าม หรือการคัดค้านจากฝั่งของพรรคเพื่อไทย ว่าจะไม่ให้ “ทักษิณ” ไป แสดงให้เห็นว่า พรรคเพื่อไทยปล่อยปละละเลยในการตรวจสอบตำแหน่งต่าง ๆ

ต่อมา “ทักษิณ” ก็ได้เป็นผู้ช่วยหาเสียงที่ จ.อุดรฯ และคำปราศรัย เมื่อวันที่ 13 – 14 พ.ย.2567 มีพฤติกรรมที่เห็นชัดเจนว่าเป็นเจ้าของพรรคเพื่อไทย อีกทั้งมีคณะกรรมการบริหารพรรคมานั่งเป็นวอลเปเปอร์ในการปราศรัย …และมีการพูดว่าจะสั่งการให้รัฐบาลทำอย่างนั้นอย่างนี้ ไม่ได้พูดถึงนโยบายในการหาเสียงเลือกตั้งนายก อบจ. และผู้สมัครนายก อบจ.ในวันนั้นก็เป็นการไปแค่ยืนโชว์ตัว

“การหาเสียงในวันดังกล่าว …เป็นเวทีในการหาเสียงของนายทักษิณ และส่อที่จะมีอิทธิพลเหนือรัฐบาล ในการกำหนดนโยบายต่างๆ และการขานรับของกรรมการบริหารพรรค เป็นไปอย่างราบรื่นไม่ได้ขัดขวาง จึงว่าถือเป็นสัญลักษณ์ของพรรคเพื่อไทย”

นพรุจ ย้ำว่า นายทักษิณ ครอบงำพรรคโดยสิ้นเชิง ทั้งตึกชินวัตร 3 เป็นธุรกิจของทักษิณ บ้านจันทร์ส่องหล้าเป็นของทักษิณ อยู่ในเวลาพักโทษเป็นสถานกักกัน ชี้นำ ครอบงำ สั่งการ รวมทั้งควบคุมกิจการทางการเมืองของพรรคเพื่อไทย 100% ตนไม่ได้แต่งเติม ทุกอย่างต้องอยู่ภายใต้หลักนิติรัฐนิติธรรม จะมาบอกว่า ทักษิณคือนิติรัฐนิติธรรมไม่ได้ ถ้าคิดว่าตนก้าวก่าย ร้องมั่วซั่ว ก็ฟ้องเลยจะได้สู้กันในศาล คนไทยจะได้รู้ว่าอะไรถูกอะไรผิด

อ่านข่าว :

สร้างหลัก”นิติธรรม” ต้าน “คอร์รัปชัน” ต้องลดกฎหมายทับซ้อน

ประกาศชนะคว้า 200 สส. นัยความสำคัญของ “ทักษิณ”

“ฟิล์ม รัฐภูมิ” ยื่นลาออกสมาชิกพรรค “พลังประชารัฐ”

ทิ้งคำตอบไว้

กรุณาใส่ความคิดเห็นของคุณ!
กรุณาใส่ชื่อของคุณที่นี่