“ยิ่งลักษณ์” เหลือคดีเดียวคุก 5 ปี ย้อนเส้นทางก่อนหนีคดีถึงจังหวะนี้เรียกว่า “เหมาะสม” ที่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร จะเดินทางกลับไทย ตามที่นายทักษิณ ชินวัตร อ้างอิงไหม และตามกระบวนการ ช่องทางไหน ที่จะทำให้ น.ส.ยิ่งลักษณ์ หลุดพ้นจากโทษทางอาญา ในคดีทุจริตรับจำนำข้าว 5 ปี ที่ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง พิพากษาไว้
ทางที่ 1 ทักษิณโมเดล และทางที่ 2 นิรโทษกรรม แต่ทั้ง 2 ทาง ไม่ใช่เรื่องง่าย จะสังคมไทย หรือการเมืองไทย เรียนรู้ การไม่ถูกจำคุกแม้แต่วันเดียว มาจากคุณทักษิณ ชินวัตรแล้ว
จากนี้ไป การดำเนินการกับ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ย่อมต้องตอบคำถามและชี้แจงได้ และอย่างมีเหตุผลมากกว่ากรณีของทักษิณ ชั้น 14 โรงพยาบาลาตำรวจด้วย แม้ตอนนี้ อดีตนายกฯยิ่งลักษณ์ จะหลงเหลือคดีความ เพียงคดีเดียว ที่พิพากษาจำคุก 5 ปี
แต่คดีนี้ จะว่าง่ายก็ไม่ง่าย จะว่ายากก็ไม่น่าจะเกินความสามารถของรัฐบาลเพื่อไทย เพราะคดีที่เราเรียกกันว่า “ทุจริตรับจำนำข้าว” ตอนนี้กลับถูกเรียกว่า “ปล่อยปละละเลย” นี่จึงเป็นเหตุผลให้ต้องย้อนกลับไปดู คำพิพากษาศาลฎีกาแผนกนักการเมือง
คดีปล่อยปละละเลย ให้เกิดการทุจริต ในโครงการรับจำนำข้าว เมื่อวันที่ 27 ก.ย.2560 ศาลฯ อ่านคำพากษาจำคุก 5 ปี โดยไม่รอลงอาญา ข้อความสำคัญ นายกรัฐมนตรี เป็นหัวหน้ารัฐบาล มีอำนาจหน้าที่โดยตรง ควบคุม-ตรวจสอบ กำกับ-ดูแล ระงับ-ยับยั้ง หรือแก้ไขปัญหา โดยเฉพาะการทุจริตในการระบายข้าว
แต่จำเลยกลับมีพฤติการณ์ในการละเว้นหน้าที่ ส่อแสดง-เจตนาออกโดยแจ้งชัด อันเป็นการเอื้อประโยชน์ให้แก่ นายบุญทรง เตริยาภิรมย์ กับพวก แสวงผลประโยชน์ แอบอ้าง ทุจริต ก่อให้เกิดความเสียหาย ดังนั้น การกระทำของจำเลย จึงเป็นการละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ในตำแหน่งโดยทุจริต
ในขณะเดียวกัน รองนายกฯ ภูมิธรรม เวชยชัย ขายข้าว 10 ปีในโกดังรับจำนำข้าวได้แล้ว ท่ามกลางกระแส “ฟอกขาว-ยิ่งลักษณ์” และย้ำว่า คดีของอดีตนายกฯยิ่งลักษณ์ คือ “ปล่อยปละละเลย” นี่อาจเป็นการสื่อสารที่รัฐบาลพยายามทำในความยาก ที่ว่านี้ เป็นเรื่อง “ง่าย” ไหม
การสื่อสารที่ว่านี้ มาพร้อมกับ คำพิพากษา-คำวินิจฉัย คดีความอื่นๆ ที่ดูจะตีความได้เป็นประโยชน์กับอดีตนายกฯ ยิ่งลักษณ์ โดยเฉพาะคดีที่เคยเป็นคดีร้อนทางการเมือง สำหรับอดีตนายกฯยิ่งลักษณ์ นั่นก็คือ การแต่งตั้งโยกย้ายนายถวิล เปลี่ยนศรี เลขาธิการ สมช. หรือแม้แต่คดีโรดโชว์ ก็ดูจะสบช่อง ให้ตีความด้านบวก
อย่างล่าสุด ศาลฎีกานักการเมือง ยกฟ้องคดีแต่งตั้งโยกย้ายนายถวิล เปลี่ยนศรี โดยมิชอบ ด้วยเห็นว่า ข้อเท็จจริง ได้วินิจฉัยแล้ว “ยังไม่อาจฟังได้ว่า..จำเลยมีเจตนาพิเศษ” เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่นายถวิล เปลี่ยนศรี” กรณีโอนย้ายจากเลขาธิการ สมช. ให้มาดำรงตำแหน่งที่ปรึกษานายกฯ ฝ่ายข้าราชการประจำ เมื่อเดือน ก.ย.2554 พร้อม “ถอนหมายจับ”
หรืออย่าง คดีจัดอีเวนต์โรดโชว์ 240 ล้านบาท ศาลฎีกานักการเมือง ก็ยกฟ้อง ด้วยวินิจฉัยแล้วเห็นว่า ไม่พบมีเจตนาเอื้อประโยชน์ในการจัดซื้อจัดจ้าง และมีคำสั่งให้ “เพิกถอนหมายจับ” แล้วด้วย ทั้งที่ก่อนหน้านี้ คอการเมืองแทบจะฟันธงตรงกันว่า 2 คดีนี้ “หินมาก” สำหรับอดีตนายกฯยิ่งลักษณ์ ที่จะกลับไทย
แล้วไม่ธรรมดา คดีความอีกหลายคดี และคำร้องในชั้น ป.ป.ช. อีกหลายคำร้องก็ “ยกฟ้อง-ยุติสอบ” ไปหลายเรื่องแล้วด้วย “พ.ร.ก.กู้เงิน-เพื่อวางระบบและสร้างอนาคตประเทศ” ครม.ยิ่งลักษณ์ อนุมัติงบฯ เยียวยาการชุมนุม นปช.มิชอบ ที่ยุติสอบแล้ว คำสั่งทางปกครองให้อดีตนายกฯ ยิ่งลักษณ์ ชดใช้ 35,000 ล้าน กรณีระบายข้าว (จีทูจี) ก็ยกคำร้องไปแล้วและที่ฮือฮา..กันเยอะสุดช่วงนั้น คือแผนบริหารจัดการน้ำ 350,000 ล้าน ที่กล่าวหา อดีตนายกฯยิ่งลักษณ์ กระทำมิชอบ ก็ยุติสอบแล้วเช่นกัน
พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง ให้สัมภาษณ์กรณีถ้าอดีตนายกฯยิ่งลักษณ์ กลับมา ต้องเริ่มต้นที่ศาลฯ นั่นก็หมายความว่า ไปปรากฏ ตัว-ฟังคำพิพากษา จำคุก 5 ปี แล้วเข้าสู่กระบวนการรับโทษ
และจะสบช่องอย่างไร ถ้าตีความตามการสื่อสารของรัฐบาล คดีรับจำนำข้าวของอดีตนายกฯยิ่งลักษณ์ ซึ่งก็ยอมรับในการจำคุก 5 ปี ตามโทษ หนึ่งเข้ารับโทษตามกฎหมายราชทัณฑ์ ถ้าถามว่าฎีกาขอพระราชทานอภัยโทษไหม? ก็มีโอกาส บุคคลในรัฐบาลเคยพูดไว้ โดยเฉพาะนายพิชิต ชื่นบาน อดีตนายกฯยิ่งลักษณ์ ก็จะมาแนวเดียวกับอดีตนายกฯทักษิณ
สอง ตอนนี้ “ครม.แพทองธาร” กำลังเร่งมือร่างกฎหมายนิรโทษกรรมทางการเมือง ก็เป็นไปได้ที่จะใช้ช่องทางที่ 2 นี้ด้วย
ส่วนที่ตั้งข้อสังเกตว่า จะใช้กฎกระทรวง กรณีประกาศใช้สถานที่ใดสถานที่หนึ่ง เป็นสถานที่คุมขัง ยังหาเหตุไม่ได้ ไม่ได้ชราภาพ และไม่ได้ป่วยวิกฤต จะขอให้สิทธิ์พักรักษาตัว ชั้น 14 โรงพยาบาลตำรวจ ก็ไม่เข้าเกณฑ์ และไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะเดินตามรอย “ทักษิณโมเดล”
แต่ถามว่ากรณีทักษิณได้ลั่นวาจาไว้ จริงจังแค่ไหน ตรวจสอบข้อมูลจากคนในพรรคเพื่อไทย คนในรัฐบาลหรือแม้แต่กรรมาธิการฯ ที่ทำเรื่องนิรโทษกรรมอยู่ ก็เชื่อตรงกันว่า ทักษิณ จริงจังที่จะพูดเรื่องนี้ เพื่อสื่อสารและส่งสัญญาณ โดยเฉพาะข้อความที่ว่า “ผมไม่เห็นว่า จะมีปัญหาอะไรที่ขัดขวางเธอ ขึ้นอยู่กับจังหวะและโอกาส ที่เหมาะสม” ก็กลับบ้านได้
ย้อนเส้นทาง “นายกฯ ยิ่งลักษณ์” ก่อนหนีคดี
7 ปี ที่อดีตนายกฯ ยิ่งลักษณ์ หลบหนีคดีในต่างประเทศ ตั้งแต่ก้าวแรกที่เป็น นายกรัฐมนตรี เส้นทางของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ เต็มไปด้วยอุปสรรค โดยเฉพาะคดีทางการเมือง
ครั้งนั้นการทำบุญครบรอบ 50 ปี ของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เป็นการทำบุญในไทยครั้งสุดท้าย ก่อนหลบหนีคดีในปีนั้น
เส้นทางของ นายกฯ หญิงคนแรก เต็มไปด้วยวิบากกรรม ตั้งแต่รับตำแหน่ง เมื่อปี 2554 ที่ต้องรับมือกับน้ำท่วมใหญ่
ซึ่งเวลานั้นมี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ดำรงตำแหน่ง ผบ.ทบ. ก่อนจะเป็นผู้นำคณะรัฐประหารในเวลาต่อมา
ก่อนการรัฐประหาร จุดเปลี่ยนสำคัญของรัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ คือการผลักดัน พ.ร.บ.นิรโทษกรรม ฉบับสุดซอย ซึ่งนำไปสู่การชุมนุมของกลุ่ม กปปส. และรัฐบาลยุบสภาฯ ในเดือน ธ.ค.2556
มิหนำซ้ำ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ยังถูกตอกหมุด ด้วยคดีแต่งตั้งโยกย้าย นายถวิล เปลี่ยนศรี ในปี 2557 ทำให้ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ต้องพ้นจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ตามมาด้วยการรัฐประหารในเวลาต่อมา
วิบากกรรมหนักของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ คือคดีจำนำข้าว คดีติดเครื่องหลัง น.ส.ยิ่งลักษณ์ พ้นตำแหน่งตั้งแต่การไต่สวนในชั้น ป.ป.ช.ตามภาพที่ปรากฏบนหน้าสื่อ
ปี 2558 ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองรับฟ้อง กว่า 2 ปี ของการพิจารณาคดี ก่อนศาลจะมีคำตัดสิน
ช่วงโค้งสุดท้ายก่อนการพิพากษาคดีจำนำข้าว น.ส.ยิ่งลักษณ์ ยังปรากฏตัวผ่านสื่อ โดยเฉพาะการเดินสายทำบุญ กระทั่งเช้าวันที่ 25 ส.ค.2560 วันที่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ไม่มาฟังคำตัดสิน ศาลสั่งจำคุก 5 ปี และออกหมายจับ รัฐบาล คสช. ขณะนั้น แจ้งว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์ หลบหนีไปสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์
และปรากฏภาพ น.ส.ยิ่งลักษณ์ กับ นายทักษิณ ชินวัตร พี่ชายที่ปักกิ่ง ในเดือน ก.พ. ปีต่อมา ระหว่างนั้นยังปรากฏภาพของทั้งคู่บ่อยครั้ง รวมถึงช่วงที่ นายทักษิณ เตรียมกลับไทย ปรากฏภาพ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ส่งนายทักษิณ ที่สนามบินประเทศสิงคโปร์ ท่ามกลางการจับตา ว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์ จะเป็นคิวต่อไปที่จะได้กลับไทยหรือไม่
อ่านข่าว :