วันนี้ (5 ธ.ค.2567) นายจตุพร พรหมพันธุ์ เดินทางเข้ามารับทราบข้อกล่าวหา และพิมพ์ลายนิ้วมือ ในคดีที่ถูกนายวีระ สมความคิด ร้องทุกข์กล่าวโทษไว้ ในข้อหาหมิ่นประมาทจากกรณีออกรายการโทรทัศน์แห่งหนึ่ง และมีการพูดจาให้ข้อมูลซึ่งอาจจะไม่ตรงกับความเป็นจริง ซึ่งในหมายเรียกระบุให้นายจตุพรเข้าพบ ในช่วงเวลาประมาณ 11.00 น. ของวันนี้ หลังพบว่าเจ้าตัวได้มีการเลื่อนเข้าพบพนักงานสอบสวนหลายครั้ง
นายจตุพร พรหมพันธุ์ เปิดเผยกับสื่อมวลชนว่า วันนี้ตัวเองเดินทางเข้าพบพนักงานสอบสวนตามคำนัดหมาย ส่วนรายละเอียดจะให้นายนิติธร ล้ำเหลือ หรือ ทนายนกเขา ที่ปรึกษาด้านกฎหมาย เป็นผู้ให้ข้อมูลแทน
ด้านนายนิติธร เปิดเผยว่า ในคดีนี้มีการแบ่งเป็น 2 ส่วน ส่วนแรก คือ วันนี้นายจตุพรมาตามคำนัดหมายของพนักงานสอบสวน เบื้องต้นนายจตุพรได้ให้การปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา โดยพนักงานสอบสวนได้มีการนัดหมายมาให้การเพิ่มเติมอีกครั้งในวันที่ 20 ธ.ค.นี้ และทางฝ่ายของนายจตุพรได้มีการเตรียมที่จะเสนอพยานบุคคลเข้าให้การเพิ่มเติมอีกด้วย แต่ยังไม่สามารถระบุได้ว่าเป็นใคร
ส่วนที่ 2 คือ ที่ผ่านมาทางด้านนายจตุพร ได้มีความพยายามที่จะพูดคุยกับนายวีระที่เป็นคู่กรณี ผ่านการประสานงานของนายไพศาล พืชมงคล นักกฎหมาย และอดีตกรรมการผู้ช่วยรองนายกรัฐมนตรี โดยมีการพูดคุยกันมาแล้วถึง 2 ครั้ง และมีทิศทางที่ดี ซึ่งคดีนี้อาจจะยุติในขั้นตอนของการเจรจาไกลเกลี่ย
สำหรับเหตุผลที่ก่อนหน้านี้นายจตุพรทำการเลื่อนนัดหมายของพนักงานสอบสวนนั้น เนื่องจากติดภารกิจ และเมื่อวันที่ 13 พ.ย. ที่ผ่านมา ทางนายจตุพรก็มีการยื่นหนังสือร้องขอความเป็นธรรมให้กับพนักงานสอบสวน ได้ทบทวนการตั้งข้อกล่าวหา แต่พนักงานสอบสวนยังยืนยันว่าจะเรียกให้มาพบ นายจตุพรจึงเดินทางมาพบตามนัด
ส่วนกรณีที่นายสนธิ ลิ้มทองกุล อดีตแกนนำกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย จะเดินทางไปยื่นหนังสือต่อนายกรัฐมนตรีในวันที่ 9 ธ.ค.นี้ ในประเด็นที่เกี่ยวข้องกับ MOU 44 นายนิติธร ให้ความเห็นว่า ส่วนตัวมองว่าเป็นเรื่องที่ต้องไป เพราะประชาชนมีความกังวล และการขับเคลื่อนของนายสนธิ เป็นการนำเสนอข้อมูลทางวิชาการ
ขณะที่ทางรัฐบาลก็ยังไม่ได้ชี้แจงเป็นเหตุเป็นผล และไม่สามารถตอบคำถามของประชาชนได้ ถึงความชอบธรรมด้านกฎหมายของ MOU 44 รวมถึงสถานะของประเทศไทยหลังจากที่มีการลงนาม MOU44 ที่นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ ไปเซ็นรับรอง ซึ่งจะทำให้กระทบกฎหมายและกระทบเขตแดนของประเทศ
รวมถึงการที่รัฐบาลประกาศจะเดินหน้าทั้งที่ไม่มีความชัดเจน ถือเป็นความไม่ชอบธรรม ซึ่งนายสนธิต้องเดินหน้าสอบถาม โดยการเดินทางไปรอบนี้จะมีการตั้งข้อกล่าวหาด้วย และหลังจากนี้จะมีกระบวนการตรวจสอบ รวมถึงกระบวนการร้องเรียน
ส่วนที่นายกรัฐมนตรี ระบุว่า จะไม่มาพบนายสนธินั้น นายนิติธร เปิดเผยว่า เป็นเรื่องของนายกรัฐมนตรี และกรณีที่นายสนธิประกาศจะลงถนนครั้งสุดท้ายนั้น ตัวเองมองว่าแยกเป็น 2 ประเด็น ประเด็นแรกเป็นเรื่องการจัดม็อบลงถนน ซึ่ง เป็นเรื่องของอนาคตและจะต้องดูพฤติกรรมเป็นระยะ ส่วนเรื่องที่ 2 คือการยื่นหนังสือกล่าวหา ซึ่งกรณีนี้ยังไม่มีการลงถนนแต่มีการเชิญชวนหากประชาชนเห็นว่าเป็นเรื่องสำคัญก็สามารถเข้าร่วมได้
ด้านนายวีระ สมความคิด ระบุว่า ขณะนี้ตัวเองยังไม่ได้มีการถอนแจ้งความนายจตุพรหลังมีกระแสข่าวก่อนหน้านี้ซึ่งเรื่องทั้งหมดอยู่ในขั้นตอนของตำรวจที่จะต้องดำเนินการ เบื้องต้นจึงไม่ขอออกความเห็น
อ่านข่าว : ศาลยกฟ้อง คดี “ไอซ์ รักชนก” หมิ่นประมาทฯ “อัญชะลี-กนก” ชี้ ติชมโดยสุจริต
ศาลสั่งจำคุก “เสรีพิศุทธ์” 8 เดือน-รอลงอาญา คดีหมิ่นประมาท “ไพบูลย์”
ศาลฯยกฟ้อง “หมอวรงค์” คดี “ช่อ พรรณิการ์” ฟ้องหมิ่นประมาทฯ