คมกระสุนปืนปลิดชีพ “สจ.โต้ง” ชัยเมศร์ สิทธิสนิทพงศ์ หรือชื่อเดิม “เต็มพงษ์ ฤทธิ์เดช” บุตรบุญธรรมของ “โกทร” สุนทร วิลาวัลย์ นายกอบจ.ปราจีนบุรี วัย 85 ปี ดังขึ้นเมื่อช่วงหัวค่ำวันที่ 11 ธ.ค.ที่ผ่านมา ภายในบ้านใหญ่”ตระกูลวิลาวัลย์” สะเทือนทั่วลุ่มน้ำบางปะกง ส่งผลให้สนามการเมืองท้องถิ่น ในภาคตะวันออกเดือดระอุขึ้นอีกครั้ง
หลังเกิดเหตุการณ์นานกว่า 2 ชั่วโมง กว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจจะเข้าตรวจค้น ภาย ในบ้านพักหลังดังกล่าว และพบร่าง สจ.โต้ง ในสภาพนอนเสียชีวิตอยู่ที่บันไดบ้าน มีบาดแผลถูกยิงด้วยอาวุธปืนสงคราม สภาพสวมเสื้อยืดสีเลือดหมู กางเกงขาสั้นสีดำ ก่อนที่คุมตัวผู้ต้องสงสัยและผู้เกี่ยวข้อง 7 คน คือ ธนศรัณย์กรณ์ หรือ กอล์ฟ อายุ 32 ปี , ศักดิ์สิทธิ์ หรือ ตูน อายุ 34 ปี , อภิสิทธิ์ อายุ 34 , ธนภัทร อายุ 18 ปี , สิทธิชัย อายุ 41 ปี , ภัทรนนท์ อายุ 38 และ โกทร “สุนทร” และนำตัวไปสอบปากคำที่สถานีตำรวจภูธร (สภ.) เมืองปราจีนบุรี
ข้อมูลจากตำรวจระบุว่า ก่อนเกิดเหตุการณ์ดังกล่าว “สจ.โต้ง” ชัยเมศร์ พร้อมพวกเข้าไปในบ้านของ “โกธร” สุนทร แต่กลับออกมาแล้ว ได้ย้อนกลับเข้าไปใหม่ หลังจากนั้นมีเสียงปืนหลายนัด
เปิดคลิปเสียงปริศนา ชนวนก่อนสังหาร
“โก จะลงไหม จะเอายังไง โก รู้หน้าที่ดีไหม ต้องทำยังไง เวลา โก มีเรื่อง ผมเข้าไปหาไปช่วย โก ทุกครั้ง คราวนี้ผมต้องเข้ามาหาโกเหรอ ผมบอกโกว่าไง ผมไม่ต้องมาหาโก โกมีหน้าที่ต้องมาช่วยผมเอง”
“โกจะลง โกลงไปเลย”
“กูไม่ลงหรอก”
แล้วเราตั้งแต่วันนี้จะเหยียบครั้งนี้ครั้งสุดท้าย เพราะโกเป็นคนพูดว่า ผมไปเอาเงิน อบจ.ตรงไหน โก อย่ามาเรียกเงินผม 20 ล้าน เงิน 20 ล้าน ผมให้พ่อ..ผมพูดหรือเปล่าว่า โกไม่ลงเลือกตั้ง ”
“ผมทำอะไรให้โกมาทั้งชีวิต ผมติดคุกมา โก ไม่เคยช่วยเหลือผมเลย ครั้งนี้ผมมีโอกาสจะทำแบบนี้ ผมทำเพื่อใคร แต่โกก็โทรไปบอกพวกนายกฯ ทุกคน ไม่เป็นไรโทรไปเลย โกสั่งได้หมดเลย ผมรู้ว่า ผมไม่แข่งกับน้อง จะแข่งกับน้องเพื่อ …เดี๋ยวคะแนนมันจะแตกกัน โกทำอะไรคิดให้ลึก ๆ ”
ผมถามจริงจากใจโก ตั้งแต่ผมอยู่กับโก ผมเคยสร้างความ-ิบหายตรงไหนให้โกบ้าง แล้วพี่น้องผมทุกคนที่อยู่เนี่ย มีใครทำร้ายโกบ้าง แต่โกทำร้ายผม โทรไปหาคนโน้นคนนี้ คนถามผมว่า ถ้า โกทรเขาลงจะทำยังไง ผมก็บอกให้ไปถามโก…
ลูกรัก-มือขวา ปมร้าว “ทาบบารมี-วัดรอยเท้า”
ในยุทธจักรการเมืองภาคตะวันออก ตั้งแต่ปี 2523 ไม่มีใคร ไม่รู้จัก “โกทร” สุนทร วิลาวัลย์ นายกเทศมนตรีเมืองปราจีนบุรี หัวคะแนนคนสำคัญของ “บุญส่ง สมใจ” อดีตรมว.กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และอดีตส.ส.ปราจีนบุรี 9 สมัย หลังสิ้นบุญ “บุญส่ง” ตระกูลสมใจ ได้วางมือจากการเมือง
ขณะที่”โกทร” สุนทร ได้ก้าวขึ้นมาแทนที่เป็น “บ้านใหญ่” เมืองปราจีน โดยฐานเสียงหลักจะอยู่พื้นที่รอบนอกเขตเทศบาลเมืองปราจีนฯ ส่วนตระกูล ”พากเพียรศิลป์” ของ “เล็กน้ำ” บุญเกื้อ พากเพียรศิลป์ นายกเทศมนตรีเมืองปราจีนบุรี มีฐานเสียงอยู่ในเขตเทศบาลฯ
ปี 2526 โกทร “สุนทร” เป็นสส.พรรคราษฎร สมัยแรก ในยุคที่ อ.สระแก้ว ยังไม่ได้แยกออกจากจ.ปราจีนบุรี และย้ายมาอยู่พรรคชาติไทยเมื่อปี 2529 “มุ้งเดียวกับ “ป๋าเหนาะ” เสนาะ เทียนทอง โดย “โกทร”คุมต้นน้ำบางปะกง ส่วนป๋า-เสนาะ เจ้าพ่อวังน้ำเย็น คุมชายแดนบูรพา
สำหรับบ้านใหญ่เมืองปราจีน การมีผู้เข้ามาอาศัยอยู่ภายใต้ชายคาบ้าน ถือเป็นเรื่องปกติ สำหรับ “โกทร” สุนทร ก็เช่นกัน ในปี 2545 มักจะพบขุนพลคู่กาย ที่มักประกบตัวเคียงคู่ “โกทร” ทุกครั้ง คือ สองพี่น้องตระกูล “ฤทธิ์เดช” สจ.โต้ง “ชัยเมศร์ หรือเต็มพงษ์ และ “ตึ๋ง” อุทิศ ฤทธิเดช” ถือเป็นมือซ้าย-ขวา คนสำคัญ
และให้ความไว้วางใจ สจ.โต้ง “ชัยเมศร์”จนถึงขั้นจดทะเบียนรับเป็นบุตรบุญ ธรรม สนับสนุนให้ลงสนามการเมืองท้องถิ่น จนได้รับเลือกเป็นสมา ชิกองค์การบริหารส่วนจังหวัดปราจีน(ส อบจ.) หลายสมัย แต่ครั้งที่แล้วไม่ได้ลง เนื่องจากต้องดูแลธุรกิจค่ายมวย “สจ.โต้งปราจีน”ของตนเองและค่ายมวย“สจ.จอยปราจีนบุรี” ของภรรยา ที่กำลังเติบโต
ดังนั้น หาก บ้านใหญ่วิลาวัลย์ “โกทร”สุนทร วางมือทางการเมืองในปีนี้ มีการคาดการณ์ว่า สจ.โต้ง “ชัยเมศร์” จะได้ขยับขึ้นมาแทน เนื่องจากคนบ้านใหญ่ ไม่ว่าจะเป็น “บังอร วิลาวัลย์”อดีตนายก อบจ.ปราจีนบุรี 4 สมัย น้องสาว และ “กนกวัลย์ วิลาวัลย์”ลูกสาว ยังไม่พร้อม เนื่องจากถูกตัดสิทธิ์ทางการเมืองคดีบุกรุกป่าเขาใหญ่ ขณะที่ “อำนาจ วิลาวัลย์ “สส.ภูมิใจไทย จ.ปราจีนบุรี ลูกชายของ “บังอร” ยังอยู่ในตำแหน่ง ส่วนหลาน ๆ ลูกของ “กนกวัลย์”อายุยังน้อย และอยู่ระหว่างศึกษาต่อในต่างประเทศ
วงจรนักเลง-การเมือง “ในรักมีชัง” ลงขันสกัด
วงการบู๊ลิ้มการเมือง แม้สจ.โต้ง “ชัยเมศร์”จะเป็น “ลูกรัก”ของโกทร “สุนทร และเป็นที่รักของชาวบ้านจากกิจกรรม “คณะผู้ใจบุญ” ให้ความช่วยเหลือผู้ยากไร้ แต่ใต้ชายคาบ้านใหญ่ก็มี หลายกลุ่ม หลายซุ้ม ต้องการก้าวขึ้นมาเป็นเบอร์ต้นๆ และเคยมีปัญหาที่เกิดความกินแหนงแคลงใจในพื้นที่
มีข้อมูลว่า การแผ่อิทธิพลและสยายปีกทางการเมืองคลุมในทุกวงการเมืองปรา จีน ทำให้หลายซุ้มในเมืองปราจีน ไม่พอใจถึงขั้นเตรียมลงขันสกัดการเติบโตของสจ.โต้ง “ชัยเมศร์” และหลายรายได้รับความเดือดร้อนจากการกระทำของเขา มีคดีขึ้นโรงขึ้นศาล รวมทั้งคนใกล้ชิด “โกทร”สุนทร ก็ประสบปัญหานี้ด้วยเช่นกัน แต่ทำอะไรไม่ได้ ด้วยเหตุเกรงใจบ้านใหญ่
และปัญหาดังกล่าวสจ.โต้ง “ชัยเมศร์”ก็ทราบดี ดังนั้น ไม่ว่าจะเดินทางไปยังสถานที่ใดก็ตามจะมีลูกน้องและคนสนิทตามติดดังเงา แต่ก็ใช่ว่าจะไปได้ทุกหนแห่ง
ในปี 2555 สจ.โต้ง เคยตกเป็นผู้ต้องหาคดีฮั้วประมูลโครงการก่อสร้าง และต่อมาศาลอาญาพิพากษายกฟ้อง เนื่องจากไม่มีประจักษ์พยาน
และปี 2563 ป.ป.ช. มีมติชี้มูลความผิด “บังอร” อดีตนายก อบจ.ปราจีนบุรี กับพวก 19 ราย คดีฮั้วประมูล 15 โครงการ พบชื่อ สจ.โต้งรวมอยู่ในกลุ่มนั้นด้วย
“ได้คุยกับโกทร หลังเกิดเหตุ แกไม่ได้เครียดอะไร …ปัญหาที่เกิดขึ้นเป็นความขัดแย้งส่วนตัวระหว่างสจ.โต้งและลูกน้องคนหนึ่งของโกทร ซึ่งเคยมีปัญหากันมาก่อน เขาอ้างว่า เคยถูกสจ.โต้งตบหัว จึงไม่พอใจ พอเจอกันรอบ 2 ที่กำลังจะเดินลงจากบันได เลยมีการยิงกัน”แหล่งข่าวบอกสั้น ๆ
สำหรับคลิปที่ปรากฏ เป็นเสียงพูดคุยของสจ.โต้ง และโกทร “สุนทร”ในเรื่องการเลือกตั้งนายก อบจ,และนายก อบต.จริง และสุดท้ายได้ข้อยุติ โดย โกทร “สุนทร”ยอมเปิดทางให้ แต่กลับเกิดเหตุการณ์ ไม่คาดคิดขณะ “สจ.โต้ง”กำลังจะเดินทางกลับออกมา
ในแวดวงคนเมืองปราจีนบุรี ต่างรับทราบรู้กันดีว่า การเลือกตั้งท้องถิ่นสนามเล็กทั้งนายก อบต.และนายก อบจ.ปราจีนบุรี มีหลายซุ้มกลุ่มการเมือง แม้จะมีข่าวกระเซ็นกระสายมาว่า สจ.โต้ง เตรียมจะส่งภรรยาลงชิงชัยตำแหน่งนายกอบจ.ในครั้งหน้า และมีการวางไลน์ไว้แล้ว
แต่ยุทธจักรการเมือง ก็ไม่ต่างจากวงการบู๊ลิ้ม ใครดี-ใครอยู่-ใครพลาด ก็ปิดฉากเท่านั้น
อ่านข่าว:
สุมฟืน โยนเข้ากอง(ทัพ)ไฟ พท.ดันแก้ร่างพ.ร.บ.จัดระเบียบกลาโหม