วันนี้ (10 เม.ย.2566) นายอลงกรณ์ พลบุตร ทีมเศรษฐกิจพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่าถึงความแตกต่างเรื่องเงินดิจิทัลของพรรคเพื่อไทยและธนาคารหมู่บ้าน-ชุมชนของพรรคประชาธิปัตย์ โดยระบุว่า อยากให้นายเศรษฐา ทวีสิน โต้แย้งชี้แจงแลกเปลี่ยนมุมมองกับตนเอง โดยเฉพาะการวิจารณ์เรื่องนโยบายแจกเงินดิจิทัล 10,000 บาท ของพรรคเพื่อไทย ตนเองขอสงวนความเห็นและไม่กล่าวถึงประเด็นทำได้หรือไม่ ขัดกฎหมายเลือกตั้งหรือไม่
แต่จะเสนอเฉพาะนโยบายพรรคประชาธิปัตย์เพื่อเปรียบเทียบกับนโยบายธนาคารหมู่บ้าน ธนาคารชุมชนทุกหมู่บ้านทุกชุมชนใน 77 จังหวัด ว่า เป็นการจัดตั้งระบบธนาคารท้องถิ่นเพื่อให้บริการเงินฝากและสินเชื่อรวมทั้งบริการอื่น ๆ ใช้เทคโนโลยีธนาคารดิจิทัล (Fintech) ปัญญาประดิษฐ์ (AI) และบล็อกเชน (Blockchain) แบคอัพการบริหาร โดยใช้เงิน 200,000 ล้านบาท เป็นทุนประเดิมเริ่มต้นเป็นเงินหมุนเวียน ไม่ใช่จ่ายครั้งเดียวจบแบบเงินดิจิทัล 10,000 บาท ของพรรคเพื่อไทย
นายอลงกรณ์ กล่าวว่า การมีระบบธนาคารหมู่บ้านและธนาคารชุมชนจะเป็นการปฏิรูประบบธนาคารใหญ่ที่สุดในรอบกว่า 100 ปี ที่มีแต่ระบบธนาคารพาณิชย์ระดับชาติ เพราะเป็นสถาบันการเงินที่สร้างความเข้มแข็งของเศรษฐกิจฐานราก ชุมชนและครัวเรือนเพื่อแก้ปัญหาการเข้าถึงสินเขื่อและทุนของชาวบ้านทั้งในชนบทและในเมือง มีเงินหมุนเวียนกระตุ้นเศรษฐกิจ สามารถแก้ปัญหาหนี้สินความยากจนและแก้ปัญหาหนี้นอกระบบ
“กรณีต้องใช้สินเชื่อเพื่อการลงทุนจำนวนมากหลักล้าน สามารถใช้บริการของกองทุนStartup SME 300,000 ล้านบาท ผมคิดว่านโยบายธนาคารหมู่บ้านและธนาคารชุมชน 2,000,000 บาท จะตอบโจทย์ทั้งการกระตุ้นเศรษฐกิจและการเข้าถึงสินเชื่อของชาวบ้านได้อย่างยั่งยืน และรักษาวินัยการเงินการคลังของประเทศ กระทบหนี้สาธารณะน้อยที่สุด ดีกว่านโยบายเงินดิจิทัลของพรรคเพื่อไทย หรือคุณเศรษฐา จะโต้แย้ง ยินดีรับฟังแลกเปลี่ยนมุมมองกันตามวิถีทางประชาธิปไตยครับ”
