‘พิธา’ วาดฝัน 100 วันแรก รัฐบาล ‘ก้าวไกล’ ผลักดัน ‘การเมืองดี ปากท้องดี มีอนาคต’ ปักหมุดเลือกตั้งผู้ว่าฯ ทั่วประเทศ-ยกเลิกบังคับเกณฑ์ทหาร-ฟื้นคดีสลายชุมนุม ’53 ภายใน 1 ปีแรก รื้องบ 2.5 แสนล้าน เปลี่ยนประเทศ
วันที่ 27 เม.ย. พรรคก้าวไกล นำโดย พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล แถลงความพร้อมของพรรคก้าวไกลในการเป็นรัฐบาล และโรดแมปเปลี่ยนประเทศไทยใน 100 วันแรก – 1 ปีแรก – สมัยแรก ในการปฏิรูปรัฐบาลหลังเข้าทำเนียบ ภายใต้กรอบคิด การเมืองดี ปากท้องดี มีอนาคต
100 วันแรก
1) ด้านการเมืองดี มุ่งจัดทำประชามติจัดทำรัฐธรรมนูญใหม่ ผ่านสมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญ (ส.ส.ร.) นิรโทษกรรมคดีการเมือง / รัฐเปิดเผยงบประมาณ ด้วย AI จับโกง ห้ามใช้เงินหลวงโปรโมทตัวเองเปิดเผยการจัดซื้อจัดจ้างทุกขั้นตอน / รวมถึงปลดล็อกท้องถิ่นยกเลิกกฎระเบียบกระทรวงมหาดไทยที่เป็นอุปสรรคทั้งหมด / และสมรสเท่าเทียมพิจารณาต่อภายใน 60 วันผลักดันให้ผ่าน สภาภายใน 100 วัน
2) ปากท้องดี กระตุ้นเศรษฐกิจ เช่น นโยบาย หวยใบเสร็จ เปิดเจรจาการลงทุนเป้าหมาย / แก้ไขปัญหาปากท้อง แก่สูตรคำนวณค่าไฟฟ้า ลด 70 สตางค์ เพิ่มค่าแรงขั้นต่ำ 450 บาททันที / ปลดล็อคเศรษฐกิจ เช่น ผลักดันสุราก้าวหน้า ออกโฉนดนิคมสหกรณ์ และนิคมสร้างตนเอง 6.5 ล้านไร่ รวมถึงเปิดเสรีโซลาเซลล์
3) มีอนาคต ปฏิวัติการศึกษา เช่น ลดงานธุรการ-เอกสารให้ครู ยกเลิกครูนอนเวร ลดอำนาจนิยมในโรงเรียน / คืนศักดิ์ศรีไทยในเวทีโลก เพิ่มบทบาทใน ASEAN แก้ไขปัญหามนุษยธรรม / สุขภาพดีทั้งกาย-ใจ เซ็นปลดล็อคสิทธิ์ป้องกัน HIV อย่างเท่าเทียม เพิ่มคัดกรองสุขภาพจิตในการตรวจสุขภาพประจำ บริจาคอวัยวะเชิงรุก ลด PM 2.5 ห้ามนำเข้าสินค้าเกษตรเกี่ยวข้องกับการเผาทันที
1 ปีแรก
ภายใน 1 ปีแรก รัฐบาลก้าวไกลพร้อมยื่นกฎหมาย 45 ฉบับทันที เมื่อสภาเปิด เพื่อพุ่งเป้าแก้ไขปัญหาประเทศ เพิ่มอำนาจทางกฎหมาย เกี่ยวกับการเมือง 11 ฉบับ สิทธิเสรีภาพ 6 ฉบับ ปฏิรูประบบราชการ 6 ฉบับ ปฏิรูปที่ดิน 8 ฉบับ บริการสาธารณะ 4 ฉบับ แรงงาน 2 ฉบับ เศรษฐกิจ 4 ฉบับ และสิ่งแวดล้อม 2 ฉบับ
ในด้านงบประมาณปีแรก สามารถรื้องบจากรัฐบาลชุดก่อน ผสมกับการจัดเก็บภาษี และแหล่งรายได้ใหม่ของรัฐ เช่น หวยบนดิน รวมเป็นงบ 2.5 แสนล้านบาท เพื่อเปลี่ยนประเทศ และจัดสรรด้านต่างๆ เช่น ขึ้นค่าแรง ส่งเสริมการศึกษา เพิ่มขนส่งสาธารณะ ป้องกันการตกหล่นจากระบบการศึกษาด้วยคูปองเปิดโลกในห้องเรียน ตรวจสุขภาพประจำปี ฟรีค่าตรวจ-ค่าเดินทาง เป็นต้น
ทั้งนี้ พรรคก้าวไกลยังปักหมุด 3 ประการ เพื่อสร้างความหวัง คือ ปลดล็อคเลือกตั้งผู้ว่าทุกจังหวัด เปลี่ยนระบบบังคับเกณฑ์ทหารเป็นระบบสมัครใจ รื้อฟื้นคดีสลายการคำนวณปี 2553 เพื่อคลายล็อกหลายๆอย่าง ในการบริหารต่อไป
สมัยแรก
4 ปีแรก จะเป็นผลลัพธ์ของการติดกระดุมเม็ดแรก ประกอบด้วย ได้รัฐธรรมนูญใหม่ทั้งฉบับ ยกเลิกบังคับการเกณฑ์ทหาร เลือกตั้งผู้ว่าฯ ทุกจังหวัด คืนที่ดินประชาชน 10 ล้านไร่ ตำรวจอยู่ข้างประชาชน รัฐโปร่งใสไร้กลโกง สวัสดิการลดเหลื่อมล้ำ ปฏิวัติการศึกษา รถเมล์ไฟฟ้าทุกจังหวัด น้ำประปาดื่มได้ ลดค่าไฟทันที 70 สตางค์ต่อหน่วย เป็นต้น
“นี่คือประเทศไทยที่เราอยากเห็น ถ้าความฝันของเราตรงกัน ขอให้ช่วยกันกาเลือกก้าวไกลในวันที่ 14 พ.ค. ที่จะถึงนี้” พิธา ทิ้งท้าย
เมื่อถามว่า หลายฝ่ายยังมองพรรคก้าวไกลยังขาดประสบการณ์บริหารประเทศ พิธา ตอบว่า ประสบการณ์เป็นเรื่องสำคัญ แต่ไม่ใช่ทุกอย่าง มีทั้งประสบการณ์ที่ถูกและผิด ความท้าทายที่ประเทศไทยเจออยู่ตอนนี้ ไม่เคยมีใครเจอมาก่อน ทั้งปัญหาความมั่นคง ปัญหาสังคมผู้สูงวัย ปัญหาทางเศรษฐกิจ และอีกหลายเรื่อง ไม่ใช่ว่าเอาประสบการณ์มาใช้ได้ แต่ต้องใช้ความสามารถในการคิดวิเคราะห์แยกแยะ เรียงลำดับความสำคัญ มากไปถึงน้อย ชี้แจงข้อดีข้อเสีย
อีกทั้งตนเอง ในช่วงปี 2547-2549 ก็เคยทำงานในกระทรวงพาณิชย์มาก่อน จึงเข้าใจหัวอกของข้าราชการและเอกชน อีกทั้งในรัฐสภา 4 ปี ก็ใช่ว่าจะไม่มีประสบการณ์ หรือไม่รู้ว่าคณะรัฐมนตรีต้องทำอะไรบ้าง
เมื่อถามว่าในการจัดตั้งรัฐบาลของพรรคก้าวไกล มีกระทรววงที่ต้องการเป็นพิเศษหรือไม่ พิธา ย้ำว่า ในรัฐบาลพรรคก้าวไกลตนต้องเป็นนายกฯ ส่วนการจัดวางกระทรวงนั้น ให้ดูการแต่งตั้งประธานคณะกรรมาธิการฯ สมัยพรรคอนาคตใหม่ ว่าเน้นในเรื่องใดบ้าง รวมถึงนโยบายที่ต้องการผลักดัน เช่น เรื่องที่ดิน คือกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม หรือด้านเศรษฐกิจสร้างสรรค์ คือกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม และกระทรวงวัฒนธรรม ไปจนถึงกระทรวงแรงงาน และกระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์