‘แพทองธาร-เศรษฐา’ พร้อมใจยัน เพื่อไทยชัดเจน ย้ำไร้ปัญหา ร่วมงานก้าวไกลได้

เมื่อเวลา 20.00 น. วานนี้ ในแอพลิเคชั่น ติ๊กต๊อกของ คชภา ตันเจริญ หรือมดดำ พิธีกรดำเนินรายการชื่อดัง ได้จัดสัมภาษณ์เทปพิเศษ “หมดเปลือกเพื่อไทย” โดยเชิญ 2 แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีพรรคเพื่อไทยอย่าง แพทองธาร ชินวัตรและเศรษฐา ทวีสินมาร่วมสนทนาแบบสบายๆ ก่อนจะโถมใส่คำถามมากมายที่เป็นประเด็นร้อนแรงและยังคงมีกระแสอยู่ในขณะนี้

 คชภาสอบถามก่อนเข้ารายการถามถึงบรรยากาศการเลือกตั้งล่วงหน้า โดยแพทองธารกล่าวว่า เซอร์ไพรส์กับจำนวนที่ใช้สิทธิเยอะและเห็นปัญหาในการเลือกตั้ง อยากให้ทุกคนจับตา มันอาศัยแค่หน่วยงานหนึ่งไม่ได้ ต้องอาศัยประชาชนทุกคน และต้องขอบคุณคนที่เลือกเพื่อไทย ต้องขอบคุณมาก

 รู้ไหมบางเขต เวลาประชุมกัน ชนะหลักร้อย หลักน้อยๆ ทุกเสียงมีค่าหมด อยากให้ประชาชนออกไปใช้สิทธิ์ให้มาก หลักร้อยก็ชนะแล้ว มันจำเป็นมาก ทุกเสียงมีค่า

 เศรษฐากล่าวว่า อยากออกมาให้ใช้สิทธิกัน 4 ปี มีหน อย่างน้อยดีใจว่า มาใช้สิทธิ์ 90% ถือว่าตื่นตัวมาก ยอมรับว่าเมื่อวานร้อนจริงๆ เดินกับครอบครัวน้องเอม ข้าม อ.ต.ก. 40 องศา ทุกคนมีความเป็นห่วง แต่ว่าเราฝากความหวังกับกกต.ว่าน่าต้องเข้มงวดนิดนึง ดูแลการเลือกตั้งให้เป็นธรรมที่สุด

 จากนั้นเข้าสู่ประเด็นคำถามจริงจัง คชภากล่าวถึงประเด็นจับไม่จับมือ ซึ่งพรรคและแพทองธารและเศรษฐาตอบจุดยืนชัดเจนหลายครั้งว่า นางแบบตัวแม่มาทวิตบอกผมว่าคำตอบชัดแล้ว ก็ไม่ต้องไปตอบอีก แต่ก็ขอตอบว่าเรายึดโยงกับประชาชนไม่เอารัฐประหาร ไม่เอา 2 ป.

แพทองธารกล่าวว่า โอเค ไม่จับมือแน่ เรามีเกณฑ์ของเราอยู่แล้ว คือ 1.เห็นด้วยกับนโยบาย พร้อมผลักดันกับเรา 2.นายกฯมาจากเพื่อไทย 3.รมต.กระทรวงสำคัญก็ต้องของเราเช่นกัน จะรับได้ไหม ที่จะมาจับมือ ก็มีเงื่อนไขจับมือหลังพูดจบนายเศรษฐากล่าวติดตลกว่า พูดจาฉะฉานสมเป็นนายกฯ

เมื่อถามถึงวาทกรรมโจมตีพรรคเพื่อไทยรวมถึงแพทองธารและเศรษฐา โดยเฉพาะคำตอบต่อจุดยืนที่ไม่ชัดนั้น เศรษฐากล่าวถึงวาทกรรมเชิงลบว่า เข้าใจนะครับว่าของช่วงเวลาโค้งสุดท้ายหาเสียง ก็มีการงัดทุกวิชา

อย่างไรก็ตาม เพื่อไทยไม่อยากอยู่ในวงจรนี้ เรามีประวัติคิดใหญ่ทำเป็น ผลงานในช่วง 20 ปีที่ผ่านมา เราประสบความสำเร็จมาเยอะและยังใช้อยู่ในปัจจุบัน ช่วงเวลาที่ประเทศประสบวิกฤติต่างๆ ทางรัฐบาลไทยรักไทยสามารถพาพ้นวิกฤต ชดใช้ไอเอ็มเอฟก่อนกำหนด พิสูจน์ได้เลยว่าพรรคนี้ไม่ว่าผ่านอะไร เราผ่านมาโดยตลอด เราพิสูจน์ได้ว่าเราทำเป็น

แพทองธารกล่าวถึงจุดยืนเป็นประชาธิปไตยไม่จับมือ 2 ป. แต่โซเชียลกลับบอกอีกอย่างว่า มันก็อย่างที่พี่นิดบอกว่าเป็นแทคติกการเมืองในการหาเรื่องดิสเครดิต เราตอบชัดเจนแค่ไหนและพูดเรื่องเดิมอยู่ ไม่ใช่คำตอบที่เขามองหาแล้ว กลับไปค้นกี่ทีก็เจอ มันไม่ได้เป็นกระแสหรอก ดูผลเลือกตั้งดีกว่า แต่ถ้าเป็นแบบนี้เราตอบชัดเลยฉะนั้นที่รอผลเลือกตั้งอย่างเดียว สิ่งที่เกิดขึ้นไม่ว่าข่าวลืออะไร เราก็ยืนยันตามนั้น

เมื่อถามถึงการร่วมงานกับพรรคก้าวไกล เพราะกระแสโซเชียลโดยเฉพาะฝ่ายกองเชียร์ฝ่ายตัวเองประกาศอย่าจับมือกับอีกฝ่ายว่า แต่สำหรับระดับพรรคมีความเป็ฯไปได้แค่ไหนนั้น แพทองธารกล่าวว่า เกิดขึ้นได้ เพื่อไทยกับก้าวไกล เราไม่ได้รังเกียจ เคยพูดหลายที เราไม่ได้มีปัญหาอะไรกัน ทำงานร่วมฝ่ายค้านด้วยกันแต่ก็ต้องรอเสียงประชาชน พรรคอื่นได้ยังไง เป็นข้อเท็จจริงไม่ใช่อารมณ์

เมื่อถามถึงประเด็นสุดร้อนแรงอย่างจุดยืนต่อกฎหมายอาญามาตรา 112 ที่พรรคเพื่อไทยมีจุดยืนต่างจากพรรคก้าวไกลนั้น เศรษฐากล่าวว่า เรื่องนโยบายเราต้องถกในรายละเอียด เรื่อง 112 ก็ยังกำกวมแต่เราเป็นพรรคฝ่ายค้าน พรรคฝ่ายประชาธิปไตย ส่วนตัวไม่ได้ติดอะไร

แพทองธารเสริมว่า กล่าวถึงจุดยืน ม.112 พรรคเพื่อไทยแน่นอน ไม่ยกเลิก แต่ว่าเราต้องมาคุยในสภา นี่เป็นเรื่องละเอียดอ่อน พอเราเป็นรัฐบาลจะขอความเมตตาต่อศาลให้น้องที่ติดคุกนั้น ให้พิจารณาว่ายังไง ต้องกำหนดว่าใครเป็นคนฟ้อง อัตราโทษเราไม่สนับสนุนเอามาใช้เป็นเกมส์การเมือง เราต้องมีกฎหมายคุ้มครองประมุขรัฐ แต่ไม่เอามาใช้เป็นเกมส์การเมือง ต้องฟังเสียงประชาชน

เศรษฐากล่าวอีกว่า ถ้าเราเป็นรัฐบาลก็ต้องดูการประกันตัว เพื่อต่อสู้ได้อย่างเป็นธรรม แต่คู่ขนานกันไปคนรุ่นใหม่กังวลมาก พรรคเพื่อไทยเน้นการทำให้ชีวิตความเป็นอยู่ดีกินดี การสมัครใจเป็นทหาร การสมรสเท่าเทียม การได้งานทำตามความสามารถ ถ้าเราดูแลปัญหานี้ได้ ปัญหาม.112 อาจถูกลดทอน หากพวกเขาไม่สบายใจเรื่องนี้ เราก็เปิดพื้นที่รับฟัง

จากนั้น คชภาชวนคุยเรื่องนโยบายพรรคเพื่อไทยว่าสร้างความเชื่อมั่นกับประชาชนได้มากแค่ไหน เศรษฐากล่าวว่า ผมว่า คุยเรื่องวิธีคิดดีกว่า ตลอด 8 ปีมานี้เราตกหลุมความยากลำบากในยุคประยุทธ์ และโดนโควิดอีก ยิ่งจมไปอีก แน่นอนรัฐบาลมีความพยายามแก้ไขปัญหา ก็มีการจุนเรือทีละเล็กน้อย แต่ปัญหาหยั่งรากลึก จำนวนแค่นั้นไม่พอ เงินดิจิทัลหมื่นบาท เป็นเงินบาท เราได้สอบถามธปท. ว่าทำได้แน่นอน 1 หมื่นบาทให้กับอายุ 16 ปีขึ้นไป เพราะมีวุฒิภาวะในการใช้เงิน กระตุ้นการใช้จ่ายในพื้นที่ท้องถิ่น ไม่ใช่แค่คนมีเงินหมื่นบาท หลายคนรวมกันคิดการใหญ่ได้

นอกเหนือไปกว่านั้น คนที่เป็นเอสเอ็มอี ก็คิดเรื่องเริ่มการผลิต ถ้าเกิดเงินหมื่นบาทเข้ากระเป๋า 50 ล้าน เงิน 5 แสนล้านจะเข้าสู่ระบบ ไม่คิดว่าผู้ผลิตจะเร่งผลิตรองรับกำลังซื้อเหรอ และต้องหมดภายใน 6 เดือน และทำหนเดียว ไม่มีงบผูกพัน เราจะมีเงินเหลือจากงบประมาณปีก่อน2 แสนกว่าล้าน และสร้างรายได้จากภาษี เกิดภาวะ multiply ทางเศรษฐกิจ ไม่มีกู้ ไม่ใช่เงินคริปโต ใช้ได้คนเดียว ถ้าจะซื้อมากกว่าจำนวนต้องไปกับพ่อแม่ ไม่โอนให้คนอื่นด้วย

มดดำถามว่านโยบายแบบนี้ถูกมองว่าเป็นประชานิยมไหมนั้น แพทองธารกล่าวว่า ประชานิยมแน่ล่ะ แต่ว่าประเทศเรามันโคม่าต้องกระตุ้นให้ตื่นขึ้นมา ฉะนั้นทั้งระบบต้องการกระตุ้น ฟังคุณเศรษฐาจบไป เห็นอนาคตหรือยัง จะมีข้อจำกัดในรายละเอียดการซื้อ อย่างห้ามซื้อแอลกอฮอล์

เศรษฐากล่าวเสริมว่า เราใช้บล็อกเชนคุมว่าซื้ออะไรได้บ้าง ใช้หนี้ไม่ได้ เราจะมีนโยบายเสริมในการพักหนี้ที่เราจะเสริม เราคิดเรื่องอื่นเสริมหมดไม่ว่ารายได้เกษตรกร 3 เท่าภายใน 4 ปี เอานวัตกรรมเสริม เพิ่มรายได้ เพิ่มดีมานด์ เราเอาปุ๋ยอินทรีย์มาเสริมเพื่อเพิ่มรายได้เกษตรกร

แพทองธารกล่าวอีกว่า นอกจากนั้นยังทำเรื่องลดรายจ่าย หากเพื่อไทยเป็นรัฐบาลค่าสาธารณูปโภคลดทันที ค่ารถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสาย ลดค่าใช้จ่ายกระตุ้นเศรษฐกิจทั้งระบบทั่วประเทศและเพิ่มโอกาสทั้งประเทศ เราเชื่อในเรื่องการเพิ่มโอกาส เราเน้นนโยบายทันสมัย แต่ที่ผ่านมา เราอยู่ในดาวอังคารมานานจนไม่รู้ว่าจะต้องทำตรงไหน

ในส่วนเรื่องการสร้างโอกาส เศรษฐากล่าวว่า ถ้าเราทำทุกอย่างและจัดสำรวจรายได้ไม่ถึง 2 หมื่นบาท เราช่วยเติมให้ เรื่อง soft power เราดูแลให้เลย เราจะให้โอกาสพวกเรามีที่ทางทำมาหากิน มี THACCA มาเสริมได้เรียนรู้มีรายได้เสริมมากขึ้น

แพทองธารชี้แจงต่อคำถามพรรคเพื่อไทยดูเป็นการพรรคการเมืองโบราณล้าสมัยโดยกล่าวถึงนโยบายโบราณว่า เป๋าเงินดิจิทัลนี่โมเดิร์นแล้ว และเราปรับตัวเข้าถึงกับคนรุ่นใหม่และกระแสมาทางเราเพิ่มขึ้น ต้องขอบคุณทีมงานด้วย นโยบายเราไม่ได้โบราณเลย เงินดิจิทัล ตื่นเงิน 2 หมื่นบาทและ THACCA

คชภายังถามเศรษฐาถึงการชวนกาเลือกพรรคการเมืองดูเลือกเพราะความกลัวมากกว่าเพราะความหวังว่า ผมไม่ได้ขายความกลัวนะ ฉายความหวังให้คนไทยทุกคน เลือกเพื่อไทยจะได้ความหวังและโอกาส ไม่ได้ขายความกลัวแต่ขายความชัวร์ มันเจ๊งขนาดนี้และมีความเสี่ยงอยู่ไหม มีเพราะรธน.ที่เขียนโดยรัฐประหาร มี ส.ว.250 ต้องเลือกให้ชัวร์ กา 2 ใบทั้งคนทั้งพรรค เป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล ทำนโยบายจริงๆ ไม่ต้องตกอยู่ในหลุมดำ ไม่ต้องกังวลเรื่องจับมือ ส.ว. นโยบายพรรคเพื่อไทยดียังไง ทำยังไงหลุดพ้นจากหลุมดำความยากจนและความไม่ชัดเจน

คชภาถามถึงคอมเม้นต์ที่เห็นบนโซเชียลเชิงโจมตี โดยแพทองธารกล่าวว่า ได้อ่านนะ แล้วอัพเดตอยู่เรื่อย มันก็เป็นเส้นทางประชาธิปไตยที่ทุกคนอยากแสดงออก ทุกคนอยากแบกพรรคที่ตัวเองชอบ มันก็ทำได้ แต่ว่าไม่ควรที่จะทำให้ทะเลาะกันเอง หลายเรื่องอาจเห็นทางเดียวกันมีปัญหาใหญ่เกินกว่าจะทะเลาะกัน สาดเสียเทเสีย ไม่ใช่วิถีที่เราทำกัน แต่ถ้าคนแสดงออกก็ยอมรับได้ แต่ว่ายังมีความจำเป็นที่ต้องไปต่อ

เศรษฐากล่าวเสริมว่า เราก็พูดเรื่องเลือกให้ชัวร์ เลือกอย่างมียุทธศาสตร์ แน่นอน ไม่มี 2 ลุง มั่นใจว่าต้องมาจากเพื่อไทยแน่นอน ผมลงพื้นที่ก่อนอิ๊งค์ลาคลอด เห็นความยากลำบากมาก ผมเกือบช๊อกว่าอิ๊งค์มือชา ทำยังไงดี ส่วนตัวผมก็ 61 แล้ว แต่โดนเวทีร้อนจัด รถแอร์เย็น เสียงเปลี่ยนเลย คือเราทำงานหนักขนาดนี้ คุยทุกวัน ทะเลาะกันอะไรกัน เพื่อให้นโยบายโดนใจทุกคน ถ้าเกิดเราเป็นพรรคใหญ่ได้ฉันทามติแล้วยกตำแหน่งนายกฯให้พรรคอืน ก็คนไม่ปลื้มด้วย ผมทำไม่ได้หรอก เราจะไม่มีที่ยื่นในสังคม พูดได้เต็มปาก ไม่ต้องระวังคำพูด

คชภากล่าวถึงการที่แพทองธารตัดสินใจลงการเมืองร่วมงานกับเพื่อไทย แล้วมาถึงจุดนี้ได้เพราะมีนามสกุลชินวัตรหรือไม่นั้น แพทองธารกล่าวว่า ตนมาได้เพราะประชาชนเลือก ไม่ใช่เพราะนามสกุล พรรคไทยรักไทย พรรคพลังประชาชนจนถึงพรรคเพื่อไทยเกิดไม่ได้ถ้าไม่มีประชาชน ชินวัตรเกิดได้เพราะประชาชน ถ้าตำแหน่งซื้อขายกันได้คงไม่เป็นแบบนี้ เรามาได้เพราะประชาชนเท่านั้น เรากลับมาได้ทุกครั้ง เป็นเพราะประชาชน ไม่มีสิ่งอื่น ชินวัตรหรือไม่ ถ้าประชาชนไม่เลือกก็ไม่มีสิทธิ์

นอกจากนี้ เมื่อถามถึงถ้าเพื่อไทยได้จัดตั้งรัฐบาลจะยกใคร 3 คนเป็นนายกฯนั้น แพทองธารกล่าวว่า จริงๆแล้ว 3 คนเราพูดหลายครั้งว่าเราพร้อม พรรคเราโดนหลายอย่าง เราเสนอคนเดียวไม่ได้ เรา 3 คนคุยกันตลอด ใครเป็นเนี่ย ต้องช่วยกัน คุณเศรษฐาพร้อม อิ๊งค์พร้อม นี่เป็นงานใหญ่คือซ่อมประเทศไทย เราอาศัยคนเดียวไม่ได้ คนอื่นจะแย่งกันเป็น แต่เราทำงานร่วมกัน พี่นิด มีฝีมือ เราต่างให้เกียรติ ไม่ได้คิดว่าจะต้องแยกกันตรงนี้

เศรษฐากล่าวเสริมเรื่องนี้ว่า ถ้าเกิดอุบัติเหตุทางการเมือง เป็นความสบายใจของประชาชน ใครเกิดเป็นอะไร ก็มีหลักประกัน ตัวแทนจากพรรคเพื่อไทย ถ้าอิ๊งค์เป็นนายกฯ ผมก็ไม่ได้ไปไหน ผมลาออกจากแสนสิริมาแล้ว กับข้าวพรรคเพื่อไทยก็อร่อยดี ผมไม่คิดว่าจะไปไหน คนแก่กลัวอย่างเดียวคือกลัวไม่มีบ้านอยู่ พี่น้องประชาชนสบายใจได้ เป็นความสัตย์จริง

แพทองธารกล่าวเสริมกลับว่า ถ้าตัวเองกลัว ก็คงไม่เข้าตั้งแต่แรกป่าว มาถึงจุดนี้แล้ว

เศรษฐากล่าวอีกว่า เรายึดโยงหลักนิติธรรมและทำเพื่อประชาชน หลังการรัฐประหาร ต้องยอมรับว่าประเทศถดถอยทุกด้าน ไม่ว่าปากท้อง สิทธิเสรีภาพ อย่างเพศสภาพ ทำไมไม่จัดการซะ สถาบันทหารก็มีเกียรติแต่อยากให้ชายไทยมีสิทธิเลือก ไม่ได้รู้สึกชังชาติ ทุกอาชีพมีเกียรติ ฉะนั้นผมเชื่อว่าการทำรัฐประหารเป็นที่ประจักษ์์แล้วว่า สาหัสสากรรจ์มาก เราไม่ต้องการอีกแล้ว

คชภาถามคำถามที่เกิดขึ้นล่าสุดว่า ไม่ได้เห็นเศรษฐาขึ้นเวทีดีเบตรายการใดเลยนั้น เศรษฐากล่าวว่า ไม่ใช่เรื่องกล้าไม่กล้าดีเบต เรามีวิธีการแสดงวิสัยทัศน์ในแบบตัวเอง มันมีความซับซ้อนในนโยบาย เราใส่ใจคนทุกชั้น ทุกภาค ตัวเองเป็นนักการเมืองหน้าใหม่ การพบปะพี่น้องประชาชนจึงสำคัญที่สุด ผมไม่ได้แค่ปราศรัยเวที หมื่นสองหมื่น ผมไปพบปะคนหลายกลุ่ม หอการค้าจังหวัด สภาอุตสหากรรม ถกคุยกันมาก ถ้าเกิดให้ผมไปเถียงกับแคนดิเดตอีกพรรค ซึ่งก็เป็นศัตรูที่จ้องโจมตี เทียบกับไม่ได้ฟังพี่น้องประชาชน เราอาจไม่มีความรู้จากการอ่าน ลองลงพื้นที่จริงสิ ชาวบ้านจะบอกว่าปัญหาไม่ได้มีแค่นั้น อย่างเช่น สุโขทัย พืชหลักคือกล้วยตานี ที่เราถูกสอนว่าไม่มีคุณค่าทางเศรษฐกิจเพราะเม็ดข้างในมันใหญ่ แต่ใบตองส่งออกได้ และมีสเปคใบว่าแบบไหนถึงส่งออกได้ ซึ่งมีครั้งหนึ่งสุโขทัยเกิดน้ำท่วมที่ทำให้ใบไม่โต กระทรวงเกษตรชดเชยไม่ได้ มันไม่ใช่ มันมีเรื่องคาราคาซัง ครึ่งๆกลางๆอยู่ ถ้าไม่ฟังปัญหา ก็แก้ไม่ได้ ผมมีของผมก็เสนอไป แล้วให้คนตัดสิน

ผมฟังเสร็จก็สั่งทีมเศรษฐกิจไปคุยว่ายังไง หรืออย่างผักหวาน อร่อยมาก กิโลละร้อย พี่น้องไปหาในป่า แต่หาแล้ว มันออกผลช้า ต้องไปเผาต้นถึงงอกไว แต่ทำให้เกิด PM 2.5 ถ้าเกินเลินเล่อ กลายเป็นไฟป่า มันเป็นปัญหาเศรษฐกิจ ราคาดีก็อยากได้ เราก็ไปดูว่าจะทำยังไง ไม่ใช่แต่พูดว่าไม่รับผิดชอบ ไปพูดดีเบตได้อะไร ผมลงไปสวนยางเอง ยางตายนึ่งคืออะไร จะแก้ยังไง ทีมเกษตรกรเพื่อไทย แนะว่าเปลี่ยนดินฝังปุ๋ยแทนโปรย ยางตายนึ่งจะกลับมาปกติ ผมไปเถียงกับแคนดิเดตนายกฯพรรคอื่น เขาจะได้หรือเปล่า ผมมีความอยากรู้อยากเห็นในการแก้ไขปัญหา รัฐบาลยิ่งลักษณ์ทำยังไงได้โลละร้อย รัฐบาลประยุทธ์สี่โลร้อย เราจะเป็นรัฐบาลของคนไทยทั้งชาติ

คชภากล่าวถึงคุณเศรษฐาเปิดตัวลูกชายมาช่วยหาเสียง และมีแซวว่ามีคนรอสมัครเป็นลูกสะใภ้กันเยอะ คุณเศรษฐาคิดยังไง

น้องเค้ากลับถึงอังกฤษแล้วครับ ผมมีลูกชาย 2 คน ทั้งสองทำงานเมืองนอกหมด ผ่านการเกณฑ์ทหารหมดครับ ยังมีความผูกพันกับครอบครัวเพื่อนฝูง แต่สภาพแวดล้อมที่อยู่จะต่างกัน

จริงๆ ตั้งแต่ผมอยู่แสนสิริ เขาไม่เคยถามเรื่องหุ้นนะ เขาถูกสร้างให้เป็นพลเมืองโลกซึ่งจริงๆแล้วผมก็อยากให้เป็น เพราะคนไทยมีศักยภาพมาก อยากให้การปกครองของไทยหล่อหลอมเยาวชนมีอนาคตเป็นพลเมืองโลก บุคคลเหล่านี้จะไปตั้งบริษัทไทยในต่างแดน ความฝันส่วนตัวผมนี่ อยากให้ลูกๆไปตั้งบริษัทแล้วมาตั้งสาขาในไทย สภาพจิตใจที่เขาอยากอยู่เมืองนอกมากกว่าและเขามีความสุข ก็สบายใจ

ทั้งนี้ ช่วงท้ายรายการ แพทองธารและเศรษฐากล่าวสั้นๆว่าทำไมต้องเลือกเพื่อไทยว่า เพราะพรรคเพื่อไทยมีผลงานในอดีตมากมาย เราพิสูจน์ผลงานและทำได้จริง ผลงานใหม่ของเราอย่างเงินดิจิตัลหมื่นบาท เติมเงิน 2 หมื่นบาท เราดูและปากท้องอย่างดี สิทธิเสรีภาพในเพศสภาพ การเป็นทหาร เราสามารถทำให้ดีขึ้นได้ครับ

แพทองธารกล่าวอีกว่า เลือกเพื่อไทย ไม่ต้องลุ้น เลือกเพื่อเปลี่ยนทำได้ทันที นโยบายเรากินดี สนับสนุนสตาร์ทอัพ ยาเสพติดจะหายไปภายใน6 เดือน เวลาของประเทศตอนนี้คือพรรคเพื่อไทยคะ