วันนี้ (28 มิ.ย.2566) นายเศรษฐา ทวีสิน ประธานที่ปรึกษาหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย และแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีพรรคเพื่อไทย เปิดเผยว่า ขณะนี้ยังอยู่ในขั้นตอนของการเจรจาตำแหน่งประธานสภาฯ ซึ่งยังมีเวลาอีก 3-4 วัน ก่อนที่จะถึงวันโหวต และกล่าวย้ำว่าพรรคเพื่อไทยและก้าวไกลยังคงจับมือกันไม่แยกจากกัน ไม่มีอะไรมาหยุดยั้งการจัดตั้งรัฐบาลฝ่ายประชาธิปไตยได้
นายเศรษฐา มองว่าเรื่องดังกล่าวจะไม่ทำให้เกิดการกระแสวิพากษ์วิจารณ์พรรคเพื่อไทย เพราะพรรครับฟังทุกความเห็นไม่ว่าจะเป็นประชาชา ส.ส. และกรรมการบริหารพรรค และสิ่งสำคัญที่สุดขณะนี้คือธงจะต้องไม่เปลี่ยน เชื่อว่าการเจรจาจะได้ข้อยุติคุยกันรู้เรื่อง และยืนยันว่าเหตุการเลื่อนเจอจะออกไปไม่ใช่การแย่งตำแหน่งกัน เพราะการแข่งขันทางการเมืองจบไปแล้ว ตั้งแต่วันที่ 14 พ.ค.
ส่วนที่มีการตั้งข้อสังเกตว่า การประกาศจุดยืนยึดเก้าอี้ประธานสภาของพรรคเพื่อไทยจะนำไปสู่การพลิกขั้วการเมืองนั้น นายเศรษฐา กล่าวความมั่นใจว่า จะไม่มีการพลิกขั้ว เพราะพรรคเพื่อไทยและพรรคก้าวไกลยังคงจับมือไปด้วยกัน จนกว่าจะมีการตั้งรัฐบาลได้ แต่ในขณะนี้การเจรจายังไม่สิ้นสุด และส่วนตัวไม่ทราบว่ารายชื่อแคนดิเดตประธานสภาของพรรคเพื่อไทยมีใครบ้างเนื่องจากไม่ได้อยู่ในคณะกรรมการบริหาร
การเดินสายแสดงวิสัยทัศน์ แคนดิเดตประธานสภาฯ ของพรรคก้าวไกล ว่าไม่ใช่การออกตัวแรง แต่เป็นการแสดงความชัดเจนและขออย่ามองไปไกลว่าหากพรรคก้าวไกลไม่ได้ตำแหน่งประธานสภาฯ จะทำให้เสียหน้า และย้ำว่าเรื่องนี้จะไม่เป็นอุปสรรคต่อการจัดตั้งรัฐบาล
ขณะเดียวกันไม่อยากให้มองว่า เป็นการเสียสละ ยกให้ หรือ เป็นการถอย เพราะฝ่ายเดียวกันจุดมุ่งหมายเดียวกันคือการจัดตั้งรัฐบาล พร้อมปฏิเสธให้ชัดเจนว่า หากพรรคเพื่อไทยไม่ได้เป็นประธานสภาฯ อนาคตจะเป็นอย่างไร แต่ย้ำว่า เป้าหมายหลักจะไม่เสีย และหลังการจัดตั้งรัฐบาลเชื่อว่า ส.ส. ในพื้นที่จะสามารถจัดการปัญหาช่วยเหลือประชาชนได้ ในส่วนอะไรที่ต้องบริหารจัดการที่ใช้รัฐมนตรีก็ต้องรอไปก่อน
นายเศรษฐา ยังคงมั่นจว่า นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล จะได้รับการโหวตให้เป็นนายกรัฐมนตรี
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
“หมออ๋อง” ปดิพัทธ์ สันติภาดา ผู้ท้าชิงตำแหน่งประธานสภา จากก้าวไกล
“ปริญญา” ชี้ ก้าวไกลไม่มั่นใจได้ “นายกฯ” ปมไม่ปล่อย “ประธานสภาฯ” ให้เพื่อไทย
คุมเกม กฎกติกาการเมือง “ประธานรัฐสภาไทย”