‘ชัยชนะ’ ร่วมยินดี ‘อิ๊งค์’ นั่งหัวหน้าพรรคเพื่อไทย แนะแสดงวุฒิภาวะที่เป็นตัวของตัวเอง เพื่อลบคำปรามาส พร้อมขอให้ปรามสมาชิกฯ ที่ตอบโต้นโยบาย ‘ดิจิทัลวอลเลต’ อย่าใช้วิธีการด้อยค่าและดิสเครดิต ชี้ควรเปิดเวทีให้ทุกฝ่ายหารือ ก่อนที่จะดำเนินนโยบาย
ชัยชนะ เดชเดโช ส.ส.นครศรีธรรมราชและรักษาการรองเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึง กรณีที่ที่ประชุมใหญ่วิสามัญของพรรคเพื่อไทย ได้เลือก น.ส.แพทองธาร ชินวัตร ดำรงตำแหน่งหัวหน้าพรรคเพื่อไทย ว่า ตนขอแสดงความยินดีกับ น.ส.แพทองธาร ทั้งในฐานะคนรุ่นใหม่ที่เกิดปีเดียวกัน ในฐานะที่เรียนจบมาจากคณะรัฐศาสตร์เหมือนกัน รวมทั้ง ยังแสดงความยินดีในฐานะที่เป็นนักการเมืองด้วยกัน
ซึ่งอันที่จริง แพทองธาร ก็ไม่ได้เป็นคนอื่นไกลในวงการเมือง เนื่องจาก ในยุคของทักษิณ ชินวัตร ที่ยังดำรงตำแหน่งเป็นนายกรัฐมนตรีนั้น ทักษิณ ก็ได้พาแพทองธาร แนะนำตัวและร่วมกิจกรรมต่างๆ อยู่เสมอ ทั้งนี้สิ่งที่ตนอยากจะแนะนำแพทองธาร เมื่อมาดำรงตำแหน่งหัวหน้าพรรคเพื่อไทย ก็คือ การแสดงให้เห็นวุฒิภาวะที่เป็นตัวของตัวเอง เพื่อลบคำสบประมาทและคำปรามาสของคนอื่นๆ
ถือเป็นสิ่งที่ แพทองธาร จะต้องแสดงให้เห็นถึงความสามารถว่า มีศักยภาพเพียงพอในการดูแลพรรคและสมาชิกให้ดำเนินการทางการเมืองตามระบอบประชาธิปไตย โดยคำนึงถึงประโยชน์ของประชาชนเป็นหลัก รวมทั้ง การที่จะกล้าแก้ไขข้อผิดพลาดในอดีตที่นายทักษิณ และพรรคพวกทำไว้ก่อนหน้านั้น ด้วยพลังและความคิดของคนรุ่นใหม่ ถือเป็นสิ่งสำคัญที่ แพทองธาร และคณะกรรมการบริหารพรรคชุดใหม่ จะต้องทำให้ประชาชนเชื่อมั่นให้ได้ เพื่อให้สมเป้าหมายที่ น.ส.แพทองธาร ระบุว่า จะนำพรรคเพื่อไทย กลับมาเป็นอันดับหนึ่งในสนามการเลือกตั้ง
ชัยชนะ กล่าวต่อว่า ส่วนเรื่องนโยบายดิจิทัลวอลเลต 10,000 บาท ซึ่งขณะนี้ ยังมีข้อถกเถียงหลายประการ โดยสิ่งที่สำคัญที่สุดก็คือเรื่อง จะเอาเงินมาจากไหน และจะต้องใช้หนี้เท่าไหร่ ซึ่งมีนักเศรษฐศาสตร์ นักการเมือง และประชาชนทั่วไปแสดงความห่วงใยและให้ข้อเสนอแนะมากมายด้วยความหวังดี แต่กลับถูก ส.ส. และสมาชิกอาวุโสของพรรคเพื่อไทยบางคน กลับใช้วิธีดิสเครดิตอย่างไม่สร้างสรรค์
ดังนั้นตนจึงอยากขอให้ แพทองธาร แสดงบทบาทโดยการเปิดเวทีให้ทุกฝ่ายมาหารือกันถึงนโยบายดังกล่าว เพื่อนำข้อเสนอแนะมาพิจารณาอย่างรอบด้าน ก่อนที่จะตัดสินใจทำนโยบาย และขอให้ปรามสมาชิกพรรคฯ ที่แสดงความคิดเห็นและตอบโต้ต่อเรื่องดังกล่าว โดยใช้วิธีด้อยค่าหรือยัดเยียดให้เป็นไปอีกฝ่ายนั้น ให้เลิกการกระทำและหันมาใช้ข้อมูลข้อเท็จจริง ในการแสดงความคิดเห็น เพื่อเป็นการแสดงภาพลักษณ์ที่ดีต่อพรรคเพื่อไทย ที่ไม่ว่าจะไปที่ไหนก็ชอบบอกเสมอว่า เป็นพรรคการเมืองที่ยึดมั่นในระบอบประชาธิปไตยฯ อีกด้วย
“ผมขอแสดงความยินดีกับ น.ส.แพทองธาร ในฐานะคนรุ่นใหม่ที่ก้าวไปสู่จุดสูงสุดขององค์กรในการเป็นหัวหน้าพรรค แต่จะถึงจุดสูงสุดของการเมืองที่การเป็นนายกรัฐมนตรีหรือไม่ ก็ต้องให้ประชาชนตัดสินในวันเลือกตั้ง รวมทั้งจะต้องได้รับการยอมรับจาก ส.ส.ด้วยกัน ก่อนวันโหวตนายกรัฐมนตรีด้วย ทั้งนี้ ผมก็อยากจะฝากให้ แพทองธาร แสดงออกถึงการตัดสินใจที่เด็ดขาดในการควบคุมดูแลพรรค โดยเฉพาะประเด็นเรื่องดิจิทัลวอลเลต
ซึ่งมี ส.ส.และสมาชิกพรรคระดับอาวุโสบางคน ใช้วิธีดิสเครดิตและไม่ได้วิพากษ์วิจารณ์ด้วยเหตุผลและข้อเท็จจริง กลับลามปามแม้กระทั่งพรรคประชาธิปัตย์ โดยระบุทำนองว่า ขอให้ได้หัวหน้าพรรคก่อน แล้วค่อยวิจารณ์นั้น ถือเป็นเรื่องที่ไม่เหมาะสม เพราะถือเป็นก้าวก่ายกิจการภายในของพรรคอื่นๆ ซึ่งผมเชื่อว่า น.ส.แพทองธาร น่าจะไม่เห็นด้วยกับวิธีการแบบนี้
เพราะฉะนั้น เมื่อ แพทองธาร มีความตั้งใจให้พรรคเพื่อไทย เป็นพรรคการเมืองที่เป็นประชาธิปไตยฯ และเป็นพรรคที่คนรุ่นใหม่สามารถฝากความหวังได้นั้น ก็ต้องบอกให้สมาชิกพรรคเพื่อไทย เปิดกว้างกับความคิดเห็นที่หลากหลาย เพื่อที่จะได้ผลักดันนโยบายให้เป็นผลสำเร็จ โดยไม่สร้างความเสียหายให้กับประเทศในภายหลัง” นายชัยชนะกล่าว