หน้าแรก Voice TV 'ปานปรีย์' เผยหลังเยือน สปป. ลาว มุ่งลดอุปสรรค หวังเพิ่มมูลค่าการค้า 3.6 แสนล้านบาท

'ปานปรีย์' เผยหลังเยือน สปป. ลาว มุ่งลดอุปสรรค หวังเพิ่มมูลค่าการค้า 3.6 แสนล้านบาท

75
0
'ปานปรีย์'-เผยหลังเยือน-สปป-ลาว-มุ่งลดอุปสรรค-หวังเพิ่มมูลค่าการค้า-3.6-แสนล้านบาท

‘ปานปรีย์’ เผยหลังเยื่อน สปป. ลาว พร้อมเดินหน้าผลักดันส่งเสริมการท่องเที่ยว 2 ประเทศ พร้อมส่งเสริมความร่วมมือด้านเศรษฐกิจ

30 ต.ค. 2566 ปานปรีย์ พหิทธานุกร รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวง การต่างประเทศ ได้ร่วมคณะของนายกรัฐมนตรีเศรษฐา ทวีสิน เยือนสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว (สปป. ลาว) อย่างเป็นทางการ ภายหลังเสร็จสิ้นการเยือนของนายกรัฐมนตรีรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการ ต่างประเทศได้พบหารือทวิภาคีกับสะเหลิมไซ กมมะสิด รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวง การต่างประเทศ สปป. ลาว เพื่อกำหนดแนวทางการดำเนินการให้เป็นไปตามผลการหารือระหว่างผู้นำสองประเทศ และความร่วมมือในช่วงที่ สปป. ลาว เป็นประธานอาเซียนในปี2567 

ทั้งสองฝ่ายได้เน้นย้ำความสัมพันธ์ที่พิเศษระหว่างไทย – ลาว ที่เป็น “บ้านใกล้เรือนเคียง” ที่มีความผูกพัน ใกล้ชิดกันในทุกด้าน โดยการเยือน สปป.ลาว ของนายกรัฐมนตรีในครั้งนี้เป็นการตอกย้ำความใกล้ชิดดังกล่าวและ เป็นการสานต่อพลวัตที่ดีของความสัมพันธ์ระหว่างกัน ผ่านการแลกเปลี่ยนการเยือนและการปรึกษาหารือระดับสูง กันอย่างสม่ำเสมอ โดย สปป.ลาว จะเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมคณะกรรมาธิการร่วมว่าด้วยความร่วมมือ ทวิภาคี ไทย-ลาว ครั้งที่ 23 ในปี 2567 ทั้งนี้ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศได้เชิญ 

รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ สปป. ลาว เยือนไทย ซึ่งฝ่ายลาวตอบรับ ด้วยความยินดี ทั้งสองฝ่ายให้ความสำคัญอย่างมากกับการเพิ่มปริมาณการค้าให้บรรลุเป้าหมายการค้าที่ 11,000 ล้าน ดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 3.6 แสนล้านบาท ในปี 2568 โดยไทยพร้อมเป็นเจ้าภาพการประชุมแผนความร่วมมือ ระหว่างกระทรวงพาณิชย์กับกระทรวงอุตสาหกรรมและการค้า สปป.ลาว โดยเร็วในปี 2567เพื่อกำหนดแนวทาง อำนวยความสะดวกทางการค้าระหว่างกัน นอกจากนี้ ไทยพร้อมที่จะจัดการการประชุมผู้ว่าราชการจังหวัดและ เจ้าแขวงไทย-ลาว ในช่วงต้นปี 2567 เพื่อส่งเสริมการค้าระหว่างจังหวัดและแขวงชายแดน  

ทั้งสองฝ่ายเน้นย้ำความจำเป็นในการผลักดันให้กลไกทวิภาคีที่เกี่ยวข้องกับโครงการความเชื่อมโยงระหว่าง สองประเทศทำงานอย่างใกล้ชิดเพื่อผลักดันให้โครงการต่าง ๆ มีความคืบหน้าตามกรอบเวลาที่ผู้นำสองฝ่ายเห็นชอบ ร่วมกัน ได้แก่การเริ่มก่อสร้างโครงการสะพานข้ามแม่น้ำโขงแห่งที่ 2 (หนองคาย – เวียงจันทน์) ก่อนปี2569 และ การขยายบริการรถไฟข้ามแดนจากหนองคายไปถึงสถานีรถไฟเวียงจันทน์ (คำสะหวาด) ภายในต้นปีหน้า เพื่อส่งเสริม การท่องเที่ยวและการเชื่อมโยงกับโครงการรถไฟลาว – จีน ให้สะดวกยิ่งขึ้น  

ในด้านการขนส่งและโลจิสติกส์ สองฝ่ายได้ตกลงที่จะทำงานร่วมกันอย่างใกล้ชิดเพื่อลดระยะเวลาและต้นทุน ของการเปลี่ยนถ่ายสินค้า ทั้งทางรางและทางถนน เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันด้านโลจิสติกส์ของสองประเทศ และภูมิภาค และจะร่วมมือกันเร่งรัดให้มีการจัดตั้งพื้นที่ควบคุมร่วมกัน (Common Control Area: CCA) บริเวณสะพานมิตรภาพไทย-ลาว แห่งที่ 2 (มุกดาหาร – สะหวันนะเขต) เพื่อลดขั้นตอนด้านพิธีการศุลกากร ณ จุดผ่านแดนดังกล่าว และส่งเสริมการคมนาคมขนส่งระหว่างไทย – ลาว – เวียดนาม

ด้านการท่องเที่ยว ทั้งสองฝ่ายจะผลักดันให้หน่วยงานด้านการท่องเที่ยวของสองประเทศเร่งจัดทำแผน เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวร่วมกันในโอกาสปีแห่งการท่องเที่ยว สปป. ลาว ในปี 2567 

รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศได้ใช้โอกาสนี้หารือกับรองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ สปป. ลาว เกี่ยวกับประเด็นที่ สปป. ลาว จะให้ความสำคัญในการเป็น ประธานอาเซียนในปี 2567 โดยได้เน้นย้ำความพร้อมของไทยที่จะสนับสนุน สปป. ลาว อย่างเต็มที่ ในโอกาสนี้รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศได้ไปเยี่ยมชมเขตโลจิสติกส์ นครหลวงเวียงจันทน์ (Vientiane Logistics Park: VLP) เพื่อหารือแนวทางในการเพิ่มประสิทธิภาพ ลดอุปสรรค  และอำนวยความสะดวกการขนส่งสินค้าทางรถไฟไทย – ลาว – จีน ซึ่งเป็นประเด็นที่ผู้ประกอบการไทยให้ ความสำคัญ 

นอกจากนี้ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศได้พบปะกับกลุ่มนักธุรกิจไทย ใน สปป. ลาว เพื่อแลกเปลี่ยนความเห็นเกี่ยวกับการส่งเสริมความร่วมมือด้านเศรษฐกิจระหว่างไทยกับ สปป. ลาว  ให้ใกล้ชิดยิ่งขึ้น

ทิ้งคำตอบไว้

กรุณาใส่ความคิดเห็นของคุณ!
กรุณาใส่ชื่อของคุณที่นี่