วันนี้ (31 ต.ค.2566) นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ประชุมชี้แจงมอบนโยบายแนวทางการปฏิบัติงานของกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร หรือ กอ.รมน. เป็นครั้งแรกหลังเข้ารับตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ซึ่งตามโครงสร้าง นายกรัฐมนตรี เป็น ผอ.รมน. หรือเป็นหัวหน้าของหน่วยงาน
โดยนอกเหนือจากบทบาทของ กอ.รมน. ในการพิทักษ์ไว้ซึ่งสถาบันพระมหากษัตริย์ นายกรัฐมนตรีขอเพิ่มบทบาท 3 เรื่อง หลังจากที่คุยกับกองทัพและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง 1.ในการวางรากฐานสร้างความพร้อมของประเทศไทยเพื่อสร้างอนาคตที่ดีกว่าให้กับคนไทยทุกคน ซึ่งงานด้านความมั่นคงในวันนี้จะต้องรวมถึงงานด้านความมั่นคงที่เกี่ยวข้องกับการใช้ชีวิต และเศรษฐกิจปากท้องของประชาชน
และยังขอให้กำลังพลช่วยเหลือประชาชนยามเกิดภัยพิบัติ ให้ประสานทุกหน่วยงานร่วมบูรณาการและระดมสรรพกำลัง สนับสนุนกองทัพในการช่วยเหลือปกป้องประชาชน ในยามเกิดภัยพิบัติ ในช่วงนี้เป็นฤดูน้ำท่วม อีกไม่นานจะประสบปัญหาภัยแล้ง และปัญหาเอลนีโญเป็นปัญหาใหญ่ โดยย้ำกับ กอ.รมน.และกองทัพ ว่าจะต้องพัฒนาในเชิงรุก
2. การแก้ปัญหาที่ดินทำกิน หลังได้หารือกับกองทัพไม่ถึง 2 เดือนก็สามารถทำให้เกิดเป็นรูปธรรมได้ ด้วยความร่วมมือระหว่างพรรคการเมืองและกองทัพเพื่อช่วยเหลือประชาชน โดยเฉพาะการแก้ไขปัญหาที่ต้นเหตุซึ่งคือความยากจน ในการนำที่ดินเกินความจำเป็นมาให้ประชาชนได้ใช้ให้เกิดประโยชน์ โดยการใช้ที่ดินการเกษตรเพื่อใช้เป็นแหล่งเรียนรู้ เพื่อสนับสนุนการสร้างรายได้ทางเศรษฐกิจ พร้อมชื่นชมกองทัพนำที่ดินหนองวัวซอโมเดล 9,276 ไร่ จะส่งมอบประชาชนก่อนสิ้นปี 2566 เป็นของขวัญปีใหม่ให้ประชาชน จากกองทัพไทย
3. อีก 1-2 เดือนจะเข้าฤดู PM 2.5 ให้ กอ.รมน.ขยายผลเรื่องการแก้ปัญหาการเผาไร่ คืนอากาศสะอาด สุขภาพที่ดีแก่คนไทย พร้อมขอบคุญทุกคนที่เป็นกำลังสำคัญ เป็นจุดเริ่มต้นที่ทุกหน่วยงานพยายามทำ ชีวิตความเป็นอยู่ ของประชาชนดีขึ้นและส่งต่ออนาคตที่ดีให้กับลูกหลาน
นายเศรษฐา ยันไม่มีความคิด ไม่มีความตั้งใจของรัฐบาลนี้ ที่จะยุบ กอ.รมน. และจากที่คุยกับผู้บัญชาการเหล่าทัพที่มาที่ไปในเรื่องดังกล่าวทราบว่าบทบาท กอ.รมน. สมัยก่อนคือการปราบคอมมิวนิสต์ และเมื่อไม่มีแล้วบริบทการทำงาน กอ.รมน. ก็เปลี่ยนไป และในการมอบนโยบายวันนี้มีแต่เรื่องการพัฒนา และเรื่องการทำให้ช่องว่าง ความเข้าใจผิดระหว่างกองทัพกับประชาชนลดน้อยลง โดยไม่ได้มองว่า กอ.รมน.เป็นเครื่องมือการเมือง เพราะการเจรจา ผบ.เหล่าทัพ ไม่มีการคุยเรื่องการเมือง มีแต่เรื่องการช่วยเหลือประชาชน
ส่วนการยื่นเสนอร่างกฎหมายของพรรคก้าวไกลให้ยุบ กอ.รมน. ก็ขอให้เป็นเรื่องของพรรคที่ให้ไปเข็ญในสภาเอง โดยขอให้พูดเรื่องผลงานอยากพูดเรื่องวาทกรรม ซึ่งทางกองทัพหน่วยงานภาครัฐและพรรคการเมืองที่เกี่ยวข้อง ขอทำงานอย่างเดียวและให้ประชาชนเป็นคนตัดสิน ก่อนจะทิ้งท้ายว่าการเจรจาสนทนาระหว่างผู้บัญชาการเหล่าทัพ ไม่เคยพูดถึงเรื่องการเมืองไม่ได้ขอร้องให้โยกย้ายใคร มีแต่คุยเรื่องการช่วยเหลือคนงานที่ติดอยู่ฮามาส
อ่านข่าวอื่นๆ :
“วันนอร์” เผยมติ ก.ร. เคาะ “อาพัทธ์” นั่งเลขาสภาฯคนใหม่
เช็กเงื่อนไข “สินเชื่อคืนถิ่น” แรงงานไทยจากอิสราเอล ผ่อนนาน 20 ปี