พรรคพลังปวงชนไทย
เพื่อคนไทยทั้งแผ่นดิน

วันหยุดคึกคัก! พรรคการเมืองเดินหน้าหาเสียงหลายจังหวัด

เพื่อไทยลุยหาเสียงพิจิตรขอแลนด์สไลด์ ทั้ง 3 เขต

2 ว่าที่แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีพรรคเพื่อไทย “แพทองธาร ชินวัตร และ เศรษฐา ทวีสิน” ควงแขนลงพื้นที่ประเดิมเวทีปราศรัยแรกในต่างจังหวัดเลือกพื้นที่ จ.พิจิตร และพิษณุโลก โดยนายสาวแพทองธารได้แนะนำให้ประชาชนได้รู้จักนายเศรษฐา ในฐานะประธานที่ปรึกษาฯ หรือ กุนซือของตัวเอง และแกนนำอย่างนายแพทย์ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรค ย้ำเป้าหมายแลนด์สไลด์ 310 ขึ้นไปเพื่อตั้งรัฐบาลเอาชนะ 250 ส.ว.

สำหรับการเลือกตั้งครั้งหน้านี้ จ.พิจิตร มี 3 เขตเลือกตั้ง เดิม 4 ปีที่ผ่านมา พรรคพลังประชารัฐกวาดเก้าอี้ ส.ส.ไปได้แบบยกจังหวัด แม้จะมีตระกูลดัง-บ้านใหญ่ ในพื้นที่แต่พลาดไป และครั้งนี้หวังจะมาทวงเก้าอี้ ส.ส.คืน

อย่าง “ตระกูลเหลืองวิจิตร” ครั้งก่อนไปลงในนามพรรคไทยรักษาชาติทำให้พลาดโอกาสไป 4 ปีเต็ม ส่วน “ตระกูลภัทรประสิทธิ์” ครั้งก่อนส่งคนลงสนามในนามพรรคไทยรักษาชาติเช่นกัน แต่ครั้งนี้เปลี่ยนค่ายมาอยู่พรรคภูมิใจไทย ขณะที่ “ตระกูลแก้วทอง” เป็น ส.ส.มาหลายสมัยยังคงสู้ในนามพรรคประชาธิปัตย์

ก่อนขึ้นเวทีปราศรัย “แพทองธารและเศรษฐา” ย้ำความมั่นใจจะชิงเก้าอี้ ส.ส.ใน จ.พิจิตร ยกทั้ง 3 เขต จากแชมป์เก่าอย่างพลังประชารัฐ ส่วนประเด็นการเมืองกรณีคำเตือนจาก ส.ว.วันชัย สอนศิริ หรือจากนายชูวิทย์ ที่ส่งมายังนายเศรษฐานั้น เจ้าตัวและนางสาวแพทองธารบอกขอน้อมรับไว้ แต่ชี้ว่าเวลาเป็นเครื่องพิสูจน์ โดยเชื่อว่าการลงพื้นที่จะเป็นบันไดที่จะเป็นสิทธิ์ที่จะเข้าไปบริหารบ้านเมือง

พรรคการเมืองชูนโยบายแก้ปัญหาปากท้องคนอีสาน

เวทีปราศรัยของพรรคก้าวไกลที่ จ.ชัยภูมิ นำโดย นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานคณะก้าวหน้า และผู้ช่วยหาเสียงของพรรคก้าวไกล เปิดตัวว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.ชัยภูมิ และย้ำนโยบายที่เน้นแก้ปัญหาเชิงโครงสร้าง

นายธนาธร ระบุว่า พรรคก้าวไกล ไม่เคยสัญญาที่จะนำโครงการต่างๆ มาลงในพื้นที่ แต่พรรคมุ่งเสนอปลดล็อกท้องถิ่น ปฏิรูประบบราชการ แก้ปัญหารัฐราชการรวมศูนย์ พร้อมทั้งนำงบประมาณ และอำนาจกลับมาอยู่ที่ตำบลและจังหวัด เพื่อให้คนท้องถิ่นดูแลกันเอง

และยังชูนโยบายหลัก คือแก้ปัญหาทุนผูกขาด แก้ไขรัฐธรรมนูญ และปฏิรูปกองทัพ เพื่อนำทหารออกจากการเมือง พร้อมย้ำว่า สิ่งสำคัญที่สุดคือต้องทำให้บ้านเมืองเป็นประชาธิปไตย ด้วยการสร้างกลไกป้องกันไม่ให้เกิดการรัฐประหาร โดยก้าวแรก คือการยกเลิกระบบเกณฑ์ทหาร

ขณะที่พรรคชาติพัฒนากล้า นำโดย นายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ ประธานพรรค พร้อมแกนนำพรรค เปิดเวทีปราศรัยที่ จ.นครราชสีมา เปิดตัวนโยบายโคราชโนมิกส์ (Koratnomics) มุ่งยกระดับ จ.นครราชสีมา ให้เป็นศูนย์กลางเศรษฐกิจ คมนาคม การท่องเที่ยวในภาคอีสาน

นายสุวัจน์ ย้ำว่า พรรคชาติพัฒนากล้า มีฐานการเมืองอยู่ที่ภาคอีสาน โดยเฉพาะ จ.นครราชสีมา พรรคจึงได้ออกแบบแนวคิดนโยบาย เพื่อสร้างความมั่งคั่งทางด้านเศรษฐกิจ และชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น ให้กับประชาชนใน จ.นครราชสีมา และภาคอีสาน คาดหวังจะนำยุคทองของโคราชกลับคืนมา ด้วยการดึงดูดนักลงทุนให้เข้ามาลงทุนในพื้นที่

สนามเลือกตั้ง 7 ที่นั่ง จ.ปทุมธานี

สนามเลือกตั้งเมืองปทุมธานี ไม่ง่ายที่พรรคเพื่อไทยจะกวาดที่นั่งยกจังหวัด หรือ เกินครึ่ง เพราะการเลือกตั้งหนนี้ ส.ส.เดิมของพรรค ย้ายขั้ว สลับข้าง กันอุดตลุด

พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง นายก อบจ.ปทุมธานี เจ้าของวลี “มีวันนี้เพราะพี่ให้” ขยับไม่ออก ต้องวางตัวเป็นกลาง เน้นพัฒนาปทุมธานีในนามนายก อบจ.แต่ยอมรับว่า คนสนิท ทั้งรองนายก อบจ. และเลขาส่วนตัว ต่างตบเท้าร่วมพรรคการเมืองแบบหลากหลาย ทั้งภูมิใจไทย พลังประชารัฐ และเพื่อไทย

ด้านพรรคเพื่อไทย แชมป์เก่าที่กวาด ไป 4 เขตจาก 6 เขต ยอมรับเลือกตั้งคราวนี้ไม่ง่าย ยอมรับคู่แข่งสำคัญคือ ภูมิใจไทย และพลังประชารัฐ แต่ยังเชื่อมั่นว่าจะกวาดที่นั่งได้มากกว่าครึ่ง เพราะนโยบายของพรรค และ ผู้นำแบรนด์ชินวัตร ที่ลงมาเดินเองอย่าง “นางสาวแพรทองธาร ชินวัตร” จึงมั่นใจว่า คนเสื้อแดงปทุมฯ จะไม่ปันใจให้ก้าวไกล

ส่วนพรรคก้าวไกล เดิมมี 1 ที่นั่ง จากเขต 3 อนาวิล รัตนสถาพร แต่วันนี้ย้ายไปซบภูมิใจไทย สร้างรอยแค้นให้ สาวกสีส้ม ชนิดเจ็บแสบจนถูกกล่าวหาว่า เป็น งูเห่า

เรื่องตั้งคราวนี้ มีมมุมมองจาก เชตะวัน ตือประโคน ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.ก้าวไกล จ.ปทุมธานี อดีตมือขวาทางการเมือง ของ ปิยบุตร แสงกนกกุล ยังเชื่อว่า ก้าวไกลจะได้ที่นั่งมากกว่าครึ่ง โดยเน้นนโยบายพรรคให้เด่นชัด และมาแปลงเป็นนโยบายย่อยของตัวเอง ยกตัวอย่าง จะเปลี่ยนสนามกอล์ฟทหารอากาศ เป็น สวนสาธารณะ

ภาพรวมพื้นที่ปทุมธานี 7 เขต เพื่อไทยยากจะกวาดยกจังหวัด และก็ไม่ง่ายที่จะกวาดเกินครึ่ง แม้เป็นฐานของคนเสื้อแดง ส่วนภูมิใจไทย ลุ้นสามที่นั่ง คือ พรพิมล ธรรมสาร พี่ย้ายจากพรรคเพื่อไทย มาอยู่กับภูมิใจไทย อนาวิล รัตนสถาพร ย้ายจากก้าวไกล และ ส.ส.เดิมมี 1 คนคือ พิษณุ พลธี

ส่วนพลังประชารัฐ แม้ไม่มี ส.ส.ครั้งที่แล้ว แต่ต้องจับตาการนำทัพของ นายเสวก ประเสริฐสุข หรือ นายกใหญ่ อดีต นายก อบต.เชียงรากใหญ่ และอดีตรอง นายก อบจ.ปทุมธานี ซึ่งเป็นที่ทราบกันดีว่า เป็นลมใต้ปีกที่เคยทำให้ บิ๊กแจ๊สได้เป็น นายก อบจ.มาแล้ว

 

ทิ้งคำตอบไว้

อีเมล์ของคุณจะไม่ถูกเผยแพร่


This website uses cookies to improve your experience. We'll assume you're ok with this, but you can opt-out if you wish. Accept Read More