วันนี้ (17 เม.ย.2566) รังสิมันต์ โรม โฆษกพรรคก้าวไกล กล่าวถึงกรณีที่อัยการสูงสุดเปิดเผยการเลื่อนนัดฟังคำสั่งทางคดีของ ส.ว.อุปกิต ปาจรียางกูร ซึ่งเดิมกำหนดเป็นวันนี้ ให้เลื่อนออกไปก่อนโดยไม่มีกำหนด เนื่องจาก ส.ว.อุปกิต ยื่นคำร้องขอความเป็นธรรม
ส่วนกรณีที่อัยการฯ ระบุว่าจำเป็นต้องตรวจสอบข้อมูลบริษัทที่เกี่ยวข้องกับ ส.ว.อุปกิต กว่า 80 แห่งนั้น
รังสิมันต์ เห็นว่า 2 เรื่องนี้ไม่จำเป็นต้องนำมารวมกัน หากจะรวมกันควรรวมกับคดีของ นายตุน มิน ลัต นักธุรกิจชาวเมียนมา ซึ่งถูกฟ้องร้องในความผิดเกี่ยวข้องกับยาเสพติดและการฟอกเงินไปแล้ว
โฆษกพรรคก้าวไกล เห็นว่าถ้าอัยการฯ ทำหน้าที่แบบนี้ สังคมจะตั้งคำถามเรื่องความโปร่งใส ช่วยเหลือคนที่เกี่ยวข้องคดีค้ายาเสพติดหรือไม่ และไม่ต้องการให้เรื่องนี้ ซ้ำรอยคดีนายวรยุทธ หรือ บอส อยู่วิทยา จึงขอให้อัยการฯ ทบทวนและเห็นว่า สิ่งที่เขากังวลมาตลอดได้เกิดขึ้นแล้ว ซึ่งอาจนำไปสู่การล้มคดีได้
ส่วนกรณีที่สำนักข่าวอิรวดี สื่อของประเทศเมียนมา รายงานข่าวว่า พล.อ.อาวุโส มิน อ่อง หล่าย หัวหน้าคณะรัฐประหารเมียนมา พยายามติดต่อเจรจากับทางการไทย เพื่อให้ถอนชื่อลูกสาวของตัวเองออกจากคดีของ นายตุน มิน ลัต ซึ่งมีความเชื่อมโยงไปถึง ส.ว.อุปกิต โฆษกพรรคก้าวไกลมองว่า
เป็นการเจรจา เพื่อให้ลูกของหัวหน้าคณะรัฐประหารเมียนมา หลุดพ้นการถูกริบหรืออายัดทรัพย์สิน
ดังนั้นรัฐบาลไทยต้องสร้างความเป็นธรรมต่อเรื่องนี้ ไม่ปล่อยให้รัฐบาลอื่นมาแทรกแซงกระบวนการยุติธรรม พร้อมกับพาดพิงการทำงานของ ป.ป.ส. และ ปปง.ว่าไม่ทำอะไร กับทรัพย์สินของลูกๆ พล.อ.อาวุโส มิน อ่อง หล่าย อาจถูกตั้งคำถามว่ารัฐบาลไทยมีส่วนได้เสียกับขบวนการค้ายาเสพติดและความรุนแรงที่เกิดขึ้นในเมียนมาหรือไม่
อ่านข่าวเพิ่ม :
อัยการเลื่อนฟังคำสั่งคดี “ส.ว.อุปกิต” หลังยื่นขอความเป็นธรรม
ACT เปิดข้อมูล “10 ปีคดีโกง” ของนักการเมือง ส่งสัญญาณ ปชช.รับเลือกตั้ง
