พรรคพลังปวงชนไทย
เพื่อคนไทยทั้งแผ่นดิน

เลือกตั้ง2566 : “พิธา” ประกาศพร้อมเป็นนายกฯ ที่มีวุฒิภาวะของคนไทยทุกคน

วันที่ 13 พ.ค.2566 พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ประกาศบนเวทีปราศรัยสุดท้ายของพรรคก้าวไกล ที่สนามกีฬาไทย-ญี่ปุ่น ดินแดง เมื่อคืนวันที่ 12 พ.ค. ก่อนการเลือกตั้งวันที่ 14 พ.ค.ว่า วันนี้ผมพร้อมที่จะเป็นนายกรัฐมนตรีของทุกคน ไม่ว่าคุณจะรวยดีมีจน ไม่ว่าคุณจะมาจากภูมิภาคไหน ไม่ว่าคุณจะเป็นคนรุ่นใหม่หรือคนรุ่นใหญ่คุณสามารถฝากความฝัน ฝากความหวังไว้กลับผมได้

ที่นี่คือสถานที่ที่การเดินทางของเราเริ่มต้นเมื่อ 4 ปีที่แล้ว 4 ปีที่ผ่านไปไวเหมือนโกหก สิ่งที่เราไม่ลืม คือ คนที่ทำให้เรามีความฝันร่วมกัน คนที่จุดไฟในสายลม คนที่เคยมายืนพูดอยู่ตรงนี้ จะเป็นใครไม่ได้เพื่อนรักของผม ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ปิยบุตร แสงกนกกุล และ พรรณิการ์ วานิช

พวกคุณไม่ต้องกังวล ตอนนี้คบเพลิงอยู่ในมือของผม ผมจะไม่มีวันให้มันดับ เราจะเดินหน้าทำความฝันของเราให้เป็นจริง และรอคอยวันที่พวกคุณกลับมา ขอเวลาทำตามสัญญา เป็นนายกฯ สองสมัยพอ

ตั้งเป้าแก้ปัญหาของคนทั่วประเทศ

ความฝันของเรา ที่มามันเรียบง่าย และหลากหลาย มันเรียบง่ายถึงขนาดว่า มันคืออากาศที่เราหายใจ มันเรียบง่ายถึงขนาดแค่เป็นเรื่องของดิน เรื่องของน้ำ เรื่องของลม เรื่องของไฟ

ถ้าเป็นพี่น้องที่เชียงใหม่ เชียงราย ความฝันของพวกเราก็คือแค่มีอากาศบริสุทธิ์เอาไว้หายใจ ถ้าเป็นคนประเทศไทยที่ไม่มีที่ดินทำกินเป็นของตัวเองความฝันของพวกเราเรียบง่าย แค่ต้องการที่จะมีที่ดินทำกินเป็นของตัวเอง

ถ้าเป็นพี่น้องอยู่ที่ภาคอีสานกำลังฟังอยู่ สิ่งที่เราต้องการในเรื่องของน้ำในหน้าแล้ง ถ้าเป็นพี่น้องภาคตะวันออก ก็ขอเพียงแค่ลมหายใจที่ไม่ต้องทนกับกลิ่นเน่าเหม็นของเมืองหรือโรงงานขยะ ถ้าเป็นพี่น้องที่อยู่ทางภาคเหนือตอนบนก็คงเป็นเรื่องเกี่ยวกับไฟป่า เราหวังที่จะเห็นประเทศไทยดีขึ้นมันก็เรียบง่ายเพียงเท่านี้

พรรคก้าวไกลปราศรัยครั้งสุดท้ายก่อนเลือกตั้ง 14 พ.ค.2566 สนามกีฬาไทย-ญี่ปุ่น ดินแดง กทม.

พรรคก้าวไกลปราศรัยครั้งสุดท้ายก่อนเลือกตั้ง 14 พ.ค.2566 สนามกีฬาไทย-ญี่ปุ่น ดินแดง กทม.

เดินหน้านโยบายสวัสดิการผู้สูงอายุ-เลิกเกณฑ์ทหาร

ในขณะเดียวกันถ้าเกิดคุณเป็นคนรุ่นใหญ่ในประเทศนี้ สิ่งที่คุณฝันเพียงแค่ว่าในวันที่คุณเกษียณ หลังจากที่คุณต่อสู้มาตลอดทั้งชีวิต รัฐบาลจะดูแลคุณ มากกว่าแค่ไข่ต้มฟองเดียว จากคุณอยู่ในวัยเดียวกับผม ในวัยเป็นคนของพ่อ คุณก็หวังว่ามันจะจบในรุ่นเรา

เราแค่เห็นอยากจะเห็นรัฐธรรมนูญฉบับใหม่โดยประชาชน ของประชาชน เพื่อประชาชน มันก็เท่านั้น เราต้องการเห็นการกระจายอำนาจ ที่แต่ละจังหวัด สามารถเลือกตั้งผู้ว่าฯ ได้ด้วยตัวของเขาเอง ต้องการการกระจายอำนาจให้เกิดขึ้นในประเทศของเรา ให้คนที่เกิดในจังหวัดนั้น แก้ไขปัญหาของจังหวัดนั้นด้วยตัวของเขาเอง

ถ้าเกิดคุณเป็นเยาวชนคนรุ่นใหม่ ก็คงอยากจะยกเลิกการเกณฑ์ทหาร เอาชีวิตของเรากลับมา ตามหาความฝัน เริ่มต้นความฝัน เริ่มต้นชีวิตการงานของตนเอง

ยังมีเด็กมากกว่านั้นที่เป็นคนรุ่นใหม่ บอกว่าอยากได้อำนาจนิยมออกจากการศึกษาไทย คืนครูให้ห้องเรียน ความฝันของพวกเรา เรียบง่ายและหลากหลายแบบนี้

แต่ประสบการณ์ชีวิตของผมทั้งชีวิต ประสบการณ์ตลอด 4 ปีที่เป็น ส.ส. ของพวกท่านมา รู้เลยว่าความฝันของพวกเราเมื่อเอามารวมกันตรงนี้ใหญ่ แต่ในขณะเดียวกันข้อจำกัดทางการเมืองที่ใหญ่กว่ามาก เพราะฉะนั้น ผู้นำคนต่อไปของประเทศไทยต้องเป็นนายกรัฐมนตรีที่พร้อมจะแก้ปัญหาเก่า เผชิญหน้าปัญหาใหม่ และพร้อมจะพาประเทศไทยไปสู่อนาคตมาด้วยกัน

เร่งแก้ปัญหาเก่าที่ค้างเก่า-ตัดวงจรรัฐประหาร

จะหยุดแช่แข็งประเทศไทยได้ นายกรัฐมนตรีคนต่อไป ต้องแก้ปัญหาเก่าๆ ที่เราติดลบมาตลอด 17 ปีที่ผ่านมา การที่เราจะเอาประเทศไทยออกจากความขัดแย้งทางการเมืองได้มีอยู่ สองระยะด้วยกัน

หนึ่งคือ การยุติวงจรรัฐประหาร และเราต้องทำ 3 อย่างด้วยกัน อันดับแรก คือ การปฏิรูปกองทัพให้อยู่ใต้รัฐบาลพลเรือน การปรับให้กองทัพจิ๋วแต่แจ๋วมีสวัสดิภาพ มีสิทธิมนุษยชน

ให้ทหารเป็นมืออาชีพ คอยป้องกันภัยจากนอกประเทศ และหยุดแทรกแซงกิจการภายในประเทศไทยสักที แต่ในขณะเดียวกันเราจะแก้ปัญหาเก่าของประเทศไทยตลอด 17 ปีที่ผ่านมาได้ เราต้องคืนศรัทธาให้กับระบบรัฐสภาและระบบประชาธิปไตยของประเทศไทย

พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล ปราศรัยครั้งสุดท้ายก่อนเลือกตั้ง 14 พ.ค.2566 สนามกีฬาไทย-ญี่ปุ่น ดินแดง กทม. ประกาศพร้อมเป็นนายกฯ

พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล ปราศรัยครั้งสุดท้ายก่อนเลือกตั้ง 14 พ.ค.2566 สนามกีฬาไทย-ญี่ปุ่น ดินแดง กทม. ประกาศพร้อมเป็นนายกฯ

ผมเข้าใจนะครับ ยังมีอีกหลายคนที่เคยเห็นด้วยกับการทำรัฐประหาร ไม่ไว้วางใจนักการเมืองที่มาจากการเลือกตั้ง แล้วท่านก็ไม่ชอบ ไม่เชื่อในระบบรัฐสภา ว่าจะสามารถแก้ไขปัญหาของบ้านเมืองได้จริง ๆ

ถ้าคิดว่านักการเมืองเต็มไปด้วยคอร์รัปชัน ท่านคิดว่าต้องปฏิรูปก่อนเลือกตั้ง 8 ปีที่ผ่านมา เราได้บทเรียนราคาแพงนี้แล้วด้วยกัน ประชาธิปไตยไม่มีทางลัดหรอกครับ

เอาระบบเผด็จการเข้ามา ไม่มีการตรวจสอบคอร์รัปชัน มันถึงได้แย่ลงๆ เพราะฉะนั้น ผู้นำคนต่อไปที่จะแก้ปัญหาเก่าได้ ต้องพร้อมที่จะตัดวงจรรัฐประหาร และคืนศรัทธาให้กับระบบรัฐสภาไทย

เมื่อเราหลุดออกจากลงการเมืองตลอด 17 ปีที่ผ่านมาได้ ก็ไม่ใช่ว่าปัญหามันจะจบ เพราะว่าเราสะสมมาตลอดเวลาที่ผ่านมาจนตอนนี้ เราต้องกล้าที่จะเผชิญกับปัญหาใหม่ด้วยเช่นเดียวกัน

ผมเชื่ออย่างนี้ครับว่าในยุคสังคมมีพลวัตอยู่ และมีการพัฒนา มีนวัตกรรม มีความคิดสร้างสรรค์ที่เพิ่มขึ้นมาเรื่อย ๆ จนกระทั่งมันมีพลังงานของคนรุ่นใหม่ พลังงานของความคิดใหม่ๆ เกิดขึ้นมาอยู่โดยตลอด และแน่นอน เมื่อมันมีความคิดใหม่ๆ เปลี่ยนขึ้นมาเรื่อย ๆ ก็ต้องปะทะกับความเชื่อแบบเก่าๆ

สายลมแห่งการเปลี่ยนแปลงมันเรื่อย ๆ คุณจะสร้างกำแพง หรือคุณจะสร้างกังหันลม

แล้วคำถามที่เราต้องถามตัวเองอย่างมีสติ และอย่างมีวุฒิภาวะ ในขณะที่เรากำลังปราศรัยกันอยู่ในที่นี้ มีคุณหยกอายุเพียง 15 ปี ถูกจับด้วยมาตรา 112 เขาในตอนนี้อายุมากกว่าพิพิมลูกสาวผมครึ่งนึง ตอนที่พิพิมเกิดเขาอายุเพียงแค่ 7 ขวบ ตอนนี้เขากลายเป็นผู้ต้องหามาตรา 112 ที่อายุน้อยที่สุดในประเทศไทย

ผมต้องการที่จะพูดในเวทีนี้อย่างมีวุฒิภาวะอย่างมีสติ ด้วยน้ำเสียงที่ปราณีต ผมต้องการให้เรามาตั้งสติกันใหม่อย่างมีวุฒิภาวะ ไม่ได้ต้องการที่จะให้เรามาตัดสินกันว่า การกระทำของคุณหยกถูกหรือผิด เหมาะสมหรือไม่เหมาะสม หรือแม้แต่ว่า เราจะมาแก้ไขมาตรา 112 กันอย่างไร

แต่ต้องการที่จะพูดด้วยเสียงที่มีวุฒิภาวะส่งไปถึงคนที่เห็นต่าง แล้วตั้งคำถามกันชัดๆ ว่า ตอนนี้สังคมเรากำลังตั้งกำแพงหรือกังหันลม เมื่อสายลมแห่งความเปลี่ยนแปลง ความรู้สึกของยุคสมัยมันเปลี่ยนไป แล้วเรายอมรับหรือไม่ว่าสิ่งที่คนรุ่นใหม่กำลังเผชิญอยู่ตอนนี้มันเป็นมรดกตกทอดจากคนรุ่นเก่าอย่างรุ่นเรา

เมื่อครู่นี้ เวลาปราศรัยยังบอกเลยออกมาเยอะๆ เดี๋ยวเขาจะล้มล้าง ออกมาเยอะๆ เดี๋ยวเขาจะพังวังแล้ว ในเมื่อพระราชอำนาจของสถาบันควรอยู่เหนือการเมือง และอยู่ใต้รัฐธรรมนูญ แต่สิ่งที่คนรุ่นใหม่หรือแม้แต่ที่คุณหยกต้องเผชิญอยู่ มันเป็นเพราะคนของรุ่นเราไม่ใช่หรือ ที่นำสถาบันลงมาโจมตีกันและกันตลอดเวลา และยัดคดี 112 ให้คนเห็นต่าง

ถ้าใครที่เห็นแล้วรู้สึกกระอักกระอ่วนใจ รู้สึกโกรธรู้สึกเกลียดกับสิ่งที่คนรุ่นใหม่ได้นำแสดงออกมา เราต้องกลับมาถามตัวเองอย่างมีสติ ตั้งสติให้ดี และมีวุฒิภาวะกับสิ่งที่กำลังจะเผชิญขึ้นเกิดขึ้นในประเทศไทย ว่ามันก็เป็นเพราะพวกเราเนี่ยแหละในสมัยก่อน ที่ดึงสถาบันลงมาโจมตีกันและกัน ที่ยัดคดี 112 ใส่คนรุ่นใหม่ตลอดเวลา

นายกรัฐมนตรีคนต่อไป ผู้นำคนต่อไปต้องสามารถที่จะเป็นนายกรัฐมนตรีในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นพระประมุข สามารถที่จะวางพระราชอำนาจและพระราชสถานะอย่างปราณีต เพื่อให้ความสัมพันธ์ของพระมหากษัตริย์และประชาชนดีขึ้น

ถ้าเราทำอย่างนี้ได้เราจะสามารถแก้ปัญหาเก่า เผชิญหน้าปัญหาใหม่ และพาประเทศไทยไปสู่อนาคตกันเสียที

พรรคก้าวไกลปราศรัยครั้งสุดท้ายก่อนเลือกตั้ง 14 พ.ค.2566 สนามกีฬาไทย-ญี่ปุ่น ดินแดง กทม.

พรรคก้าวไกลปราศรัยครั้งสุดท้ายก่อนเลือกตั้ง 14 พ.ค.2566 สนามกีฬาไทย-ญี่ปุ่น ดินแดง กทม.

หลัง 14 พ.ค.ทำให้อนาคต-เศรษฐกิจไทยโตขึ้น

หลังวันที่ 14 พ.ค.เราทุกคนจะสามัคคีกัน ร่วมมือกันวางอิฐก้อนแรกลงใจกลางประเทศไทย เรามาเริ่มต้นกันด้วยรัฐสวัสดิการ ทำให้อนาคตของประเทศไทย เศรษฐกิจโตขึ้น เพื่อพวกคนทุกคน ไม่ใช่เแค่คนกลุ่มเดียว 1% ที่อยู่ข้างบน

เรามากระจายที่ดินให้กับคนที่ต่อสู้มาเป็น 40-50 ปีแล้ว แต่ยังไม่มีที่ดินทำกินเป็นของตัวเอง แถมโดนยัดคดีมากกว่า 80,000 คดี ในช่วงรัฐบาล คสช.

เรามาเริ่มต้นกันใหม่ในการปฏิรูปการศึกษา เพื่อคนรุ่นใหม่ของเราจบออกมาจะได้มีการทำ และไม่แพ้ใครในโลกใบนี้ เรามาสร้างงานซ่อมประเทศด้วยกัน เอาเศรษฐกิจสร้างสรรค์ เอาเศรษฐกิจดิจิตอลที่คนไทยมีความสามารถมากมาย เพื่อจะสร้างเศรษฐกิจต่อไป ลดความเหลื่อมล้ำไปด้วย เพิ่มอัตราการเติบโตให้กับเศรษฐกิจไทยไปด้วย

แต่เราจะไม่มีสมาธิในการทำเนี่ยนั้นเลยถ้าเราไม่สามารถที่จะแก้ปัญหาเก่า และเผชิญหน้าปัญหาใหม่อย่างชัดเจน ตรงไปตรงมา อย่างที่พรรคก้าวไกลเสนอ

พร้อมเป็นนายกฯ ของคนไทยทุกคน

เพราะฉะนั้นวันนี้ ผมพร้อมแล้วที่จะเป็นนายกรัฐมนตรีของคนไทยทุกคนในประเทศ ไม่ว่าท่านจะเห็นด้วยหรือไม่เห็นด้วยกับผม ผมก็อยากจะเป็นนายกรัฐมนตรีของท่าน

ไม่ว่าวันที่ 14 พ.ค.ท่านจะเลือกหรือไม่เลือกผม ผมพร้อมที่จะรับใช้ท่าน ผมจะรับฟัง โดยเฉพาะคนที่เห็นต่างจากผม ผมได้ยินท่าน ผมจะเรียนรู้จากท่าน และผมจะเป็นนายกรัฐมนตรีที่ดีขึ้นก็เพราะท่าน

เพราะฉะนั้นพ่อแม่พี่น้องที่เคารพรัก 14 พ.ค. เข้าคูหา กาก้าวไกล ให้ประเทศไทยไม่เหมือนเดิม เลือกเอาอนาคต อย่าเลือกอดีต เลือกด้วยความหวัง ไม่ใช่เลือกด้วยความกลัว

สุดท้ายชัดเจนตรงไปตรงมา มีลุงไม่มีเรา มีเรา ไม่มีลุง 14 พฤษภาได้เวลาประชาชนเป็นใหญ่ กาก้าวไกล พาประเทศไทยไปด้วยกัน ก้าวให้ไกล ต้องก้าวด้วยกัน

ทิ้งคำตอบไว้

อีเมล์ของคุณจะไม่ถูกเผยแพร่

This website uses cookies to improve your experience. We'll assume you're ok with this, but you can opt-out if you wish. Accept Read More