สำนักข่าว TASS ของรัฐบาลรัสเซีย รายงานเมื่อวันพุธ (29 พ.ย.) ว่า รัสเซียกำลังเตรียมออกกฎหมาย ที่จะกำหนดให้นักท่องเที่ยวต่างชาติต้องลงนามใน “ข้อตกลงความภักดี”
กระทรวงมหาดไทยรัสเซีย กำลังเตรียมกฎหมายที่จะห้ามนักท่องเที่ยววิพากษ์วิจารณ์นโยบายรัสเซีย หรือทำลายชื่อเสียงของประวัติศาสตร์โซเวียต นอกจากนี้ กฎหมายดังกล่าวยังจะกำหนดให้นักท่องเที่ยวต้องเคารพค่านิยม วัฒนธรรม และสิ่งแวดล้อมของวัฒนธรรมการเป็นครอบครัวดั้งเดิมของรัสเซีย
กฎหมายจะบังคับให้ชาวต่างชาติทุกคนจะต้องลงนามในคำมั่นสัญญา ซึ่งจะมีผลในการควบคุมสิ่งที่พวกเขาสามารถพูดและทำขณะอยู่ในรัสเซียได้ โดยผู้มาเยือนรัสเซียจะถูกห้ามไม่ให้ “แทรกแซงกิจกรรมของหน่วยงานสาธารณะของสหพันธรัฐรัสเซีย ทำลายชื่อเสียงนโยบายของรัฐทั้งในประเทศและต่างประเทศของสหพันธรัฐรัสเซีย หน่วยงานสาธารณะ และเจ้าหน้าที่ของหน่วยงานต่างๆ ในทุกรูปแบบ” รายงานของ TASS ระบุ
ร่างกฎหมายดังกล่าวจะกลายมาเป็นกฎหมายบังคับใช้จริง เมื่อร่างกฎหมายดังกล่าวถูกเสนอต่อรัฐสภาดูมา ซึ่งเป็นสภาผู้แทนราษฎรของรัสเซีย และต้องผ่านการพิจารณาของคณะกรรมาธิการ และการพิจารณาร่างกฎหมายอีกหลายครั้ง ก่อนที่จะส่งให้ วลาดิเมียร์ ปูติน ประธานาธิบดีรัสเซีย ลงนามในกฎหมายเพื่อบังคับใช้จริง
เจ้าหน้าที่รัสเซียระบุกับ Interfax สำนักข่าวของรัฐบาลรัสเซีย ว่ากฎหมายดังกล่าวกำลังดำเนินการโดยกระทรวงมหาดไทย รัฐบาล และฝ่ายบริหารของประธานาธิบดีรัสเซีย และตัวกฎหมายมีความก้าวหน้าไปอย่างมาก ทั้งนี้ พล.ท.วาเลนตินา คาซาโควา หัวหน้าคณะกรรมการหลักของกระทรวงเพื่อการโยกย้ายถิ่นฐาน กล่าวกับ TASS ว่า “ร่างกฎหมายดังกล่าวอยู่ในระหว่างการหารือ และจะถูกส่งไปยังรัฐสภาดูมาในไม่ช้านี้”
TASS รายงานอ้างอิงเนื้อหาของร่างกฎหมายที่ระบุว่า ชาวต่างชาติจะถูกห้ามไม่ให้ “บิดเบือนความจริงทางประวัติศาสตร์เกี่ยวกับความสำเร็จของประชาชนโซเวียต ในการปกป้องปิตุภูมิและการมีส่วนร่วมเพื่อชัยชนะเหนือลัทธิฟาสซิสต์”
ชัยชนะของโซเวียตเหนือลัทธินาซีภายใต้การนำของ โจเซฟ สตาลิน ผู้นำสูงสุดของอดีตโซเวียต ได้รับการเปรียบเทียบกับการผนวกไครเมียของรัสเซียมาโดยตลอด โดยปูตินใช้ช่วงเวลาทางประวัติศาสตร์ดังกล่าวเป็นเครื่องมือที่มีประสิทธิภาพ ในการต่อสู้กับชาติตะวันตกและค่านิยมเสรีนิยม
นอกจากนี้ นักวิจารณ์และนักวิชาการในรัสเซีย ซึ่งวิพากษ์วิจารณ์การปกครองของปูติน ยังถูกดำเนินคดีจำนวนมาก และถูกตราหน้าว่าเป็น “ตัวแทนจากต่างประเทศ” โดยขณะที่การเลือกตั้งประธานาธิบดีรัสเซียปี 2567 กำลังใกล้เข้ามา ปูตินได้เปรียบเทียมสงครามดังกล่าวว่าเป็นส่วนหนึ่งของการต่อสู้เพื่อดำรงอยู่กับชาติตะวันตก และเขาจะปกป้องอารยธรรม “ศักดิ์สิทธิ์” ของรัสเซียจากความเสื่อมโทรมของชาติตะวันตก
ตามรายงานของ TASS ภายใต้กฎหมายดังกล่าว ชาวต่างชาติจะต้องยึดมั่นและปฏิบัติตาม “ค่านิยมครอบครัวแบบดั้งเดิม” “สถาบันการแต่งงาน” และ “ความสัมพันธ์ทางเพศแบบดั้งเดิม” ทั้งนี้ รัสเซียภายใต้การนำของปูติน ได้ยกคุณค่าทางศีลธรรมและสถาบันครอบครัวที่มีความเป็นอนุรักษ์นิยมมากยิ่งขึ้น ซึ่งได้รับการสนับสนุนจากคริสตจักรออร์โธดอกซ์รัสเซีย
ด้วยเหตุดังกล่าวนี้ ทางการรัสเซียได้เดินหน้าการปราบปรามชุมชน LGBTQ โดยออกกฎหมายห้ามการทำศัลยกรรมเพื่อยืนยันอัตลักษณ์ทางเพศ และห้าม “โฆษณาชวนเชื่อเกี่ยวกับเกย์” ในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา รัฐสภารัสเซียยังได้ดำเนินการออกกฎหมายเพื่อจำกัดการเข้าถึงการดูแลการเจริญพันธุ์และการทำแท้ง เพื่อเป็นแนวทางในการปรับปรุง “สถานการณ์ทางประชากรศาสตร์” และตอบโต้กับอัตราการเกิดที่ต่ำ
นอกจากนี้ TASS ยังรายงานเนื้อหาของร่างกฎหมาย ที่ระบุถึง “ความคิดริเริ่มด้านกฎหมายเสนอห้ามกิจกรรมที่ส่งเสริมทัศนคติที่ละเลยต่อสิ่งแวดล้อมหรือทรัพยากรธรรมชาติของรัสเซีย… ความหลากหลายในภูมิภาคและชาติพันธุ์และวัฒนธรรมของรัสเซีย (และ) ค่านิยมทางศีลธรรมและจิตวิญญาณแบบดั้งเดิมของรัสเซีย” อีกด้วย
ที่มา: