วันนี้ (19 ธ.ค.2566) นายราเมศ รัตนะเชวง โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงผลงานรัฐบาลที่โดดเด่นที่สุดว่า นโยบายของรัฐบาลที่มีผลงานเป็นประจักษ์และสำเร็จมากที่สุดคือ ทำลายกระบวนการยุติธรรมของประเทศไม่มีชิ้นดี เพียงเพื่อตอบสนองความต้องการของครอบครัวชินวัตร
กรณีนายทักษิณ ชินวัตร ยังไม่ติดคุกเหมือนประชาชนนักโทษรายอื่น เป็นการใช้ทฤษฎีเลือกปฏิบัติ สองมาตรฐานชัดเจน การอ้างว่ามีความจำเป็นต้องรักษาตัว โรงพยาบาลตำรวจ ชั้น 14 มีคำถามมากมายว่าป่วยเป็นโรคอะไร พักรักษาตัวอยู่ที่ชั้น 14 จริงหรือไม่ นอกจากนี้กรมราชทัณฑ์ใช้ระเบียบใดถึงได้สิทธินานขนาดนั้น หลากหลายคำถามที่ประชาชนเกิดความสงสัย แต่ไม่เคยได้รับคำตอบ
อ่านข่าว เปิดระเบียบกรมราชทัณฑ์ “คุมขังนอกเรือนจำ” ใครบ้างมีสิทธิ
นายราเมศ กล่าวอีกว่า ยังไม่นับรวมที่ระเบียบกรมราชทัณฑ์ว่าด้วยการดำเนินการสำหรับการคุมขังในสถานที่คุมขัง พ.ศ.2566 ที่คนในรัฐบาลนี้ยังไม่มีคำตอบที่ชัดเจน นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ไม่ทราบเรื่องทักษิณ รองนายกรัฐมนตรี ก็ไม่ทราบ พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รมว.ยุติธรรม ก็ไม่ทราบ กรมราชทัณฑ์ ก็ตอบไม่ได้ กระบวนการต่อจากนี้ คงต้องถามนายกรัฐมนตรี รองนายก รมว. ยุติธรรม กรมราชทัณฑ์เป็นลายลักษณ์อักษร และเชื่อว่าเรื่องนี้จะต้องมีคนที่รับผิดชอบอีกหลายคน
กระบวนการยุติธรรมไทยโดนรัฐบาลชุดนี้ทำลายไม่มีชิ้นดี และคนรวย นักการเมืองที่มีอำนาจ จะใช้โมเดลทักษิณชั้น 14 เพื่อมีสิทธิพิเศษ ประชาชนทั้งประเทศต้องจำไว้ว่า คุกมีไว้ขังคนจน สำเร็จยอดเยี่ยม ภายใต้รัฐบาลชุดนี้
ขณะที่เวลา 14.00 น. นายชาญชัย อิสระเสนารักษ์ อดีต สส. นครนายก พรรคประชาธิปัตย์ พร้อมด้วยนายนิติธร ล้ำเหลือ ไปยื่นคำร้องขอไต่สวนให้ศาลบังคับคดีโทษจำคุก นายทักษิณ ที่ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ถ.ราชดำเนินใน
อ่านข่าว
โปรดเกล้าฯ “ชัยธวัช” ผู้นำฝ่ายค้าน จัดพิธีรับพระบรมราชโองการ 20 ธ.ค.
ทันใจ! ระเบียบกรมราชทัณฑ์คุมขังนอกเรือนจำรับ “ทักษิณ”
“รัฐบาลเศรษฐา” เปิดผลงาน 3 เดือน “ลดรายจ่าย-เพิ่มรายได้” รอดูดอกผลปีหน้า