วันนี้ (20 ธ.ค.2566) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับพยาน 3 ปาก เป็นพยานฝั่งผู้ถูกร้อง 2 คน คือ นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ประธานที่ปรึกษา พรรคก้าวไกล กับนายคิมห์ สิริทวีชัย ผู้ทำหน้าที่ประธานในการประชุมสามัญผู้ถือหุ้นไอทีวีเมื่อวันที่ 26 เม.ย.2566 และยังเป็นผู้ลงนามรับรองในรายงานบันทึกการประชุม
ส่วนพยานอีก 1 คน เป็นฝั่งผู้ร้อง คือ นายแสวง บุญมี เลขาธิการ กกต. ที่ ศาลเรียกให้มาไต่สวน โดยให้การเสร็จแล้วซึ่งนางแสวงได้ยืนยันเอกสารหลักฐาน แล้วก็กลับสำนักงานไปแล้ว ตอนนี้กำลังไต่สวนนายพิธาต่อ
ส่วนประเด็นที่ตุลาการศาลจะซักถามในการไต่สวนคือ บริษัท ไอทีวี ในวันที่นายพิธาได้รับมรดกและถือหุ้น ในฐานะทายาทหรือผู้จัดการมรดกนั้น สรุปว่า เป็นสื่อมวลชนใดหรือไม่ กับอีกประเด็นคือในการถือหุ้นนั้นในฐานะอะไร ผู้จัดการมรดก แต่มีข้อมูลว่าเป็นการถือหุ้นในฐานะทายาทโดยธรรมด้วยหรือไม่ ในการได้รับมรดกจากบิดา
หากไต่สวนครบ 3 ปากก็จบ ศาลสิ้นข้อสงสัย ศาลจะนัดกำหนดวันอภิปรายและลงมติก่อนจะออกนั่งบัลลังก์อ่านคำวินิจฉัย คาดว่าจะเป็นช่วงปลายเดือน ม.ค. เว้นแต่มีประเด็นใหม่ระหว่างศาลไต่สวน ศาลอาจจะเรียกพยานหลักฐานสอบเพิ่ม แต่คาดว่าไม่น่าจะการไต่สวนแล้ว และหลังศาลไต่สวนจบจะออกเอกสารแจ้งทราบอีกครั้งถึงข้อสรุปไต่สวนวันนี้
ขณะที่บรรยากาศบริเวณศาลรัฐธรรมนูญวันนี้ นอกจากกองทัพสื่อมวลชนนับร้อยที่มาทำแล้ว ยังมีกองเชียร์ แฟนคลับของนายพิธาจำนวนหนึ่ง ที่มาติดตามให้กำลังใจ
โดยมีประชาชนที่สนับสนุนนายพิธามาแสดงออกเชิงสัญลักษณ์ ตั้งคำถามว่า ITV อยู่ไหนอยากออกสื่อช่อง ITV และ และเรียกร้องให้ กกต.ถ่ายทอดสดออกสื่อดังกล่าว
ซึ่งจากข้อมูลของตำรวจก็บอกว่าไม่มีสัญญาณเหตุรุนแรงแต่อย่างใด โดย ตำรวจสน.ทุ่งสองห้องทำหน้าที่ดูแลความปลอดภัยในพื้นที่
ทั้งนี้หลังไต่สวนคดีถือหุ้นไอทีวีเสร็จแล้ววันนี้ศาลจะประชุมพิจารณาอภิปรายคำร้อง ขอให้เลิกนโยบายแก้ไขประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 ของพรรคก้าวไกลต่อด้วย
ทั้งนี้ นายพิธา กล่าวหลังการชี้แจงต่อศาล โดยระุว่า เป็นไปตามที่ได้คาดหวังไว้ รู้สึกพอใจทุกประการ กรณีผู้จัดการมรดกได้รับการไต่สวนครบถ้วน ทั้งนี้รายละเอียดไม่สามารถให้สัมภาษณ์ได้เพราะอาจละเมิดอำนาจศาล ซึ่งตนเองรู้สึกพอใจและเป้นไปตามที่หวังไว้ทุกประการ มั่นใจว่าจะได้รับการเป็นธรรม และหากคำพิพากษาเป็นคุณก็หวังว่าจะได้กลับไปรับใช้ประชาชนในฐานะ สส.
อ่านข่าวอื่นๆ
“พิธา” ไร้กังวลไต่สวนคดีถือหุ้นสื่อ ITV
“ผู้นำฝ่ายค้าน” พร้อมทำงานกับทุกฝ่าย เพื่อประโยชน์ประชาชน ไม่ค้านทุกเรื่อง
ทั้งนี้หลังไต่สวนคดีถือหุ้นไอทีวีเสร็จแล้ววันนี้ศาลจะประชุมพิจารณาอภิปรายคำร้อง ขอให้เลิกนโยบายแก้ไขประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 ของพรรคก้าวไกลต่อด้วย
ทั้งนี้ นายพิธา กล่าวหลังการชี้แจงต่อศาล โดยระุว่า เป็นไปตามที่ได้คาดหวังไว้ รู้สึกพอใจทุกประการ กรณีผู้จัดการมรดกได้รับการไต่สวนครบถ้วน ทั้งนี้รายละเอียดไม่สามารถให้สัมภาษณ์ได้เพราะอาจละเมิดอำนาจศาล ซึ่งตนเองรู้สึกพอใจและเป้นไปตามที่หวังไว้ทุกประการ มั่นใจว่าจะได้รับการเป็นธรรม และหากคำพิพากษาเป็นคุณก็หวังว่าจะได้กลับไปรับใช้ประชาชนในฐานะ สส.