วันนี้ (18 ม.ค.2567) นายชัยธวัช ตุลาธน หัวหน้าพรรคก้าวไกลและผู้นำฝ่ายค้าน ในสภาผู้แทนราษฎร แถลงภายหลังหารือ กับนายเฉลิมชัย ศรีอ่อน หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ และตัวแทนพรรคร่วมฝ่ายค้านครั้งแรกว่า วันนี้เป็นการประชุมร่วมกันอย่างเป็นทางการของผู้นำระดับหัวหน้าพรรค ของพรรคร่วมฝ่ายค้าน ที่มีตัวแทนเข้าร่วม ทั้งก้าวไกล ประชาธิปัตย์ ไทยสร้างไทย เป็นธรรม ครูไทย เพื่อประชาชนและพรรคใหม่
โดยมีการหารือถึงเป้าหมาย และแนวทางการทำงานร่วมกัน หลังจากนี้ ไม่ว่าจะเป็นการทำงานตามวาระปกติ ของสภาในแต่ละสัปดาห์ รวมถึงมีข้อเสนอในการปรับปรุงการทำงานให้มากยิ่งขึ้น และมีการหารือเรื่องสำคัญ ที่จะต้องทำงานร่วมกัน ไม่ว่าจะเป็นการพิจารณาร่าง พ.ร.บ.ต่าง ๆ ทั้งการตรวจสอบงบประมาณให้โปร่งใสมีประสิทธิภาพและเป็นวาระสำคัญที่จะตรวจสอบการดำเนินงานของรัฐบาล ในภาพรวมด้วย
นายชัยธวัช กล่าวว่า กลไกของฝ่ายค้าน ไม่ว่าจะเป็นการอภิปรายไม่ไว้วางใจตามมาตรา 151 หรืออภิปรายแบบไม่ลงมติตามมาตรา 152 หรือญัตติด่วนด้วยวาจา พวกเราได้พูดคุยกันว่าจะเอาตัวเนื้อหาสาระ เป็นตัวกำหนดจังหวะก้าวการใช้กลไกของฝ่ายค้าน ในการตรวจสอบฝ่ายบริหาร โดยเฉพาะหากการบริหารงานของรัฐบาลมีผลกระทบ
หรือมีความผิดพลาดอย่างร้ายแรง ก็เห็นว่า มีความจำเป็นที่จะต้องใช้กลไกของฝ่ายค้านที่สำคัญเหล่านี้ ด้วยการเปิดอภิปรายแต่ไม่ได้กำหนดช่วงเวลาที่ชัดเจน แต่จะดูจากจากประเด็น ในการกำหนดจังหวะเวลาที่เหมาะสม ซึ่งยังมีเวลา แต่ไม่เกรงใจแน่นอน แต่เฉพาะโครงการแจกเงินดิจิทัลวอลเล็ตเองอย่างเดียวยังไม่เพียงพอ
นอกจากการทำงานร่วมกันในสภาแล้ว จะทำร่วมกับพี่น้องประชาชน หลังจากนี้จะมีกิจกรรมเวทีของพรรคร่วมฝ่ายค้าน ที่จะเอาวาระสำคัญไปพบปะประชาชนในภูมิภาคต่าง ๆ ไม่เฉพาะช่วงสมัยปิดประชุมเท่านั้น เพราะหลายเรื่องสำคัญเช่น PM 2.5
ส่วนประเด็นโครงการดิจิทัลวอลเล็ตที่สังคมสนใจ นายชัยธวัชกล่าวว่า ลำพังรัฐบาลยังไม่มีความชัดเจน ว่าจะเอาอย่างไรกันแน่ หากสุดท้ายรัฐบาลตัดสินใจยื่น พ.ร.บ. เงินกู้เข้ามาสู่สภาฯ สภาก็จะเป็นกลไกสำคัญในการตรวจสอบเรื่องนี้ แต่ถ้ารัฐบาลจะใช้วิธีอื่น เราก็คงจะต้องเลือกวิธีการตรวจสอบถ่วงดุลเรื่องนี้ในรูปแบบอื่น
และปัจจุบันนี้ก็ได้ให้ความเห็นเกี่ยวกับเรื่องดิจิทัลวอลเล็ต ผ่านช่องทางหลากหลายอยู่แล้ว ส่วนตัวมองว่าปัญหาขณะนี้คือคาดเดาไม่ได้ ว่ารัฐบาลจะดำเนินการอย่างไร
“เฉลิมชัย” พร้อมเป็นฝ่ายค้าน ตรวจสอบรัฐบาล
ด้านนายเฉลิมชัยกล่าวว่า สิ่งสำคัญที่สุดคือการร่วมงานร่วมในทิศทางเดียวกัน ส่วนการตรวจสอบการทำงานของรัฐบาล จะให้คณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมฝ่ายค้าน หรือวิปค้านที่มีอยู่แล้ว ได้มีการประสานงานกันมากขึ้น เชื่อว่าการทำงานหลังจากนี้ในฐานะฝ่ายค้านจะราบรื่นมากขึ้น
ส่วนในฐานะทำหน้าที่ฝ่ายค้านหลายครั้งประชาธิปัตย์ จะเป็นพี่เลี้ยงก้าวไกลอย่างไรนั้น นายเฉลิมชัยกล่าวว่า คงเป็นการทำงานร่วมกัน หลังจากนี้จะเห็นอีกมิติหนึ่งของความเป็นพรรคร่วมฝ่ายค้าน
ส่วนการประชุมร่วมกันครั้งแรก เป็นการการันตีว่า ประชาธิปัตย์จะอยู่ร่วมในฐานะฝ่ายค้านไปตลอดหรือไม่ นายชัยธวัชกล่าวว่า สิ่งสำคัญคือความไว้วางใจ และในการประสานงานให้เป็นเอกภาพมากกว่านี้ก็ต้องยอมรับว่า ที่ผ่านมาอาจจะมีช่องว่างบ้าง แต่จากนี้จะมีความเป็นเอกภาพมากขึ้นขอยืนยันว่า พรรคก้าวไกลในฐานะผู้นำฝ่ายค้านให้เกียรติและเคารพทุกพรรค และไม่มีปัญหา
ส่วนกรณีชั้น 14 จะมีส่วนเกี่ยวข้องกับการกำหนดทิศการทำงานของฝ่ายค้านหรือไม่ นายชัยธวัชกล่าวว่า ตนได้หยิบยกเรื่องนี้ขึ้นมา ยกตัวอย่างในที่ประชุมว่า จะต้องมีการหารือกันหลายเรื่อง รวมถึงที่เป็นเรื่องกระบวนการยุติธรรม ที่มีความรู้สึกว่าสองมาตรฐาน
การทำหน้าที่ของฝ่ายค้าน เห็นด้วยกับระบบยุติธรรมเท่าเทียม แต่ต้องดูจังหวะก้าว และประเด็นในรายละเอียด อาจจะไม่ได้วางเหมือนหลายคน หลายเรื่องอาจไม่ถูกใจ ไม่ทันใจ แต่เอาหลักการความถูกต้องเนื้อหาเป็นหลัก ยังไงไม่ทิ้งเรื่องนี้แน่นอน
สำหรับกรณีที่ สมาชิกวุฒิสภามองว่า การทำหน้าที่ของฝ่ายค้านรุ่นใหม่ ไม่เข้มข้นเรื่องการตรวจสอบเรื่องชั้น 14 และอาจตรวจสอบน้อยกว่าฝ่ายค้านในอดีต นายชัยธวัชกล่าวว่า ไม่น้อยแน่นอน หวังว่า สว.จะให้ความสำคัญกับเรื่อง ยุติธรรม ทุกมิติ อย่างที่ก้าวไกลเห็นว่า ควรจะมีการทบทวนทั้งกระบวนการยุติธรรมและคดีการเมือง และยังยืนยันว่าให้ความสำคัญและไม่เห็นด้วยกับระบบความยุติธรรมแบบ 2 มาตรฐาน
ด้าน น.อ.อนุดิษฐ์ นาครทรรพ เลขาธิการพรรคไทยสร้างไทย กล่าวว่า ข้อสรุปวันนี้จะเป็นการทำงานร่วมกันของฝ่ายค้านเพื่อให้เกิดเอกภาพ ในการทำงานให้ประชาชนโดยเฉพาะงานในส่วนของการตรวจสอบการทำงานของรัฐบาล เช่นเรื่องการตรวจสอบ สิ่งที่เป็นผลกระทบ หรือเป็นทุกข์ของประชาชน ต่อประชาชน
อ่านข่าว
