วันนี้ (25 ม.ค.2567) นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.พาณิชย์ กล่าวถึงกรณีที่ศาลรัฐธรรมนูญ มีมติเสียงข้างมากให้นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ประธานที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคก้าสไกล (กก.) ไม่สิ้นสถานะสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (สส.) จากการถือหุ้น บริษัทไอทีวี จำกัด (มหาชน) มีผลกระทบต่อการทำงานของรัฐบาลหรือไม่ ว่า
ต้องขอแสดงความดีใจ ที่โชคดี ได้กลับมาทำงาน ทำหน้าที่ สส.อีกครั้ง ส่วนรัฐบาลไม่มีผลกระทบอะไร เป็นการตัดสินของศาลรัฐธรรมนูญ ซึ่งมีผลผูกพันทุกองค์กร วันนี้ต้องมาร่วมมือกันช่วยกันแก้ปัญหาวิกฤตของประเทศ แม้วันนี้จะมีการเถียงกันว่าวิกฤตหรือไม่วิกฤต แต่ถ้าไม่มีอะไรกระตุ้นให้เศรษฐกิจแรงขึ้น หรือทำให้สภาพแวดล้อมดีขึ้น เกรงว่าวิกฤตเศรษฐกิจข้างหน้าจะกลับมา จึงอยากเรียกร้องทุกฝ่าย ไม่ว่ารัฐบาลหรือฝ่ายค้าน ร่วมมือกัน และใช้กระบวนการทางการเมืองทำให้ประเทศเดินหน้าต่อ
เมื่อถามว่า จะทำให้การตรวจสอบรัฐบาลเข้มข้นขึ้นหรือไม่ นายภูมิธรรมกล่าวว่า ก็ทำหน้าที่เหมือนเดิม ก็มี สส.เพิ่มเข้ามาอีก 1 คน แล้วหวังว่าจะมีการปรับตัวดีขึ้น หากฝ่ายค้านทำการเมืองแบบใหม่ ช่วยกันทำงานกับรัฐบาลก็จะสามารถแก้วิกฤตได้ แต่หากยังยึดประโยชน์ส่วนตน และความต้องการของตน ก็จะเป็นอุปสรรค การแก้ปัญหาประเทศก็จะช้าลง ทำให้เกิดปัญหา
นายภูมิธรรม ยังกล่าวถึงกรณีที่ฝ่ายค้านไม่เห็นด้วยกับโครงการดิจิทัลวอลเล็ตของรัฐบาล ว่าฝ่ายค้านทำหน้าที่ในการตรวจสอบเสนอแนะ ไม่จำเป็นจะต้องเห็นด้วยหรือค้านกับทุกเรื่องที่รัฐบาลทำ ซึ่งรัฐบาลเคยคุยกับพรรคก้าวไกล ถ้าเราอยากทำการเมืองใหม่จริงๆ ทั้งเรื่องแก้รัฐธรรมนูญ การแก้ปัญหาวิกฤตต่างๆ อะไรเป็นข้อจำกัดก็ให้เสนอแนะมา ส่วนการเลือกตั้งครั้งหน้าขึ้นอยู่กับประชาชน หากมองว่าเราชนะก็ขึ้นอยู่กับใครทำหน้าที่ของตัวเองอย่างดีเชื่อว่า จะได้รับความนิยมและความชื่นชมจากประชาชน ซึ่งการทำหน้าที่ที่ดีไม่ได้หมายถึง การคัดค้าน หรือมุ่งเป้าทำลายการทำงานของคนอื่น ตนอยากให้ สส.ทุกคน มุ่งหน้าเอาประชาชนเป็นที่ตั้ง เพื่อทำทุกวิถีทางให้ประเทศเดินไปข้างหน้า
เมื่อถามว่าการเลือกตั้งครั้งหน้าน่าเป็นห่วงกับพรรคเพื่อไทยหรือไม่ นายภูมิธรรม กล่าวว่าผู้สนับสนุนของพรรคเพื่อไทย มีหลากหลายอาชีพไม่ต่างจากพรรคการเมืองอื่น ขออย่าพูดว่านี่คือการสนับสนุนของคนส่วนใหญ่ ผลการเลือกตั้งจะเป็นตัวบอกว่า เสียงส่วนใหญ่สนับสนุนหรือไม่สนับสนุน แล้วต้องเป็นการเลือกตั้งที่ได้เสียงเด็ดขาด ถึงจะบอกได้ว่าเป็นผู้แทนของประชาชนส่วนใหญ่อย่างแท้จริง ซึ่งไม่มีอะไรต้องหวั่นไหว เพราะทุกคนทำหน้าที่ และตนก็ดีใจที่มี สส.เพิ่มอีก 1 คนเท่านั้นเอง
วงดิเนอร์พรรคร่วมเป็นเวทีแลกเปลี่ยน
นายภูมิธรรม กล่าวถึงการร่วมรับประทานอาหารของพรรคร่วมรัฐบาลในช่วงค่ำวันนี้ ว่า การรับประทานอาหารของพรรคร่วม จะเป็นเวทีที่ให้ทุกพรรคทุกฝ่ายเข้ามารับประทานอาหารร่วมกัน และ ถ้าหาการทำงานที่ผ่านมายังมีปัญหาอุปสรรค ติดขัดในเรื่องอะไร ตรงไหนอย่างไร ก็จะได้ช่วยกันแก้ไขปัญหา พร้อมยืนยันว่าไม่มีอะไร เป็นเพียงการรับประทานอาหารร่วมกันตามปกติ ซึ่งมีการนัดเดือนละครั้ง และในวันนี้ก็จะนัดกันที่ร้านอาหาร จ.ปทุมธานี
ส่วนมีประเด็นอะไรที่ต้องไปหารือในวงรับประทานอาหารหรือไม่นั้น นายภูมิธรรมระบุว่า ในฐานะที่เป็นแกนนำรัฐบาลก็ต้องฟังเสียงสะท้อนจากพรรคร่วม แต่โดยรวมเท่าที่เห็นก็ทำงานร่วมกันได้ดี แต่ยอมรับว่ามีปัญหาอุปสรรคอยู่บ้างแต่ก็เป็นเรื่องธรรมดา เมื่อมีปัญหาก็สื่อสารกันเข้าใจกัน ทำงานร่วมกันได้ดี พร้อมยืนยันว่าพรรคร่วมรัฐบาลในวันนี้ไม่เหมือนพรรคร่วมรัฐบาลที่ผ่านมา และเป็นพระร่วงที่ร่วมกันจัดตั้งขึ้นมาเพื่อแก้ไขวิกฤต ของประเทศ และเราผ่านความทุกข์ยากในการจัดตั้งรัฐบาลครั้งนี้ด้วยกัน ฉะนั้นความเข้าอกเข้าใจกันก็มีมากกว่าส่วนอื่นๆ
ส่วนจะมีบางพรรคหยิบยกเรื่องการปรับคณะรัฐมนตรีมาหรือไม่นั้น
ทั้งนี้นายภูมิธรรม ระบุว่าไม่น่าจะมีใครหยิบยกเรื่องปรับคณะรัฐมนตรีเข้ามาพูดคุย พร้อมยืนยันว่าไม่มีสัญญาณส่งมาจากนายกรัฐมนตรี เนื่องจากมีการพูดชัดเจนหลายครั้ง รวมถึงผู้นำของแต่ละพรรคการเมืองก็มีการพูดคุยกันเป็นอย่างดี และยังสอบถามว่าเหตุใดจึงมีการนำเสนอข่าวจากภายนอกว่าจะมีการปรับคณะรัฐมนตรี โดยยืนยันหนักแน่นว่า ไม่ต้องเอาประเด็นนี้มาถามได้เลย
ส่วนกรณีที่มีโควตารัฐมนตรีว่างอีก 2 ตำแหน่ง นายภูมิธรรม ระบุว่า ที่ว่าง 2 ตำแหน่งไม่ใช่สาระ เพราะถ้าขณะนี้การทำงาน เรามีความพร้อมกับตำแหน่งนั้น ต้องดูว่าจะต้องจัดการอย่างไร ซึ่งก็ไม่ได้ก็ไม่ได้จะปรับอะไร และอำนาจดังกล่าว ก็เป็นของนายกรัฐมนตรี
นายภูมิธรรม ยังกล่าวว่ารัฐมนตรีเท่าที่อยู่กันก็ทำงานร่วมกันได้ดีมาก และวันนี้ไปกินข้าวร่วมกันก็จะรู้ว่าดีหรือไม่ดี
อ่านข่าวอื่นๆ :
เลขาธิการสภาฯ ยัน “พิธา” กลับเข้าสภาได้ทันที-รับเงินเดือนย้อนหลัง