ไทม์ไลน์ “บิ๊กกรมการข้าว” ถูกเรียกเงิน-ปูดนักการเมืองขอเคลียร์

วันนี้ (29 ม.ค.2567) นายดนุเดช ศิริวงษ์ตระกุล ทนายความและที่ปรึกษากฎหมายนายณัฐกิตติ์ ของทิพย์ อธิบดีกรมการข้าว เผยเบื้องหลังที่มาเหตุการณ์ของกลุ่มบุคคลเรียกเงินจากอธิบดีกรมการข้าวว่า ก่อนหน้านี้มีบัตรสนเท่ห์ร้องเรียนอธิบดีส่งไปกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ก่อนที่อธิบดีกรมการข้าวจะถูกเรียกเข้าไปชี้แจงงบประมาณการดำเนินการในเรื่องที่ถูกร้องเรียน

หลังชี้แจงแล้วเรื่องจึงยุติไป จนอธิบดีกรมการข้าว จึงมาปรึกษากับตัวเองว่า น่าจะถูกคนกลั่นแกล้ง จึงมอบอำนาจให้ไปแจ้งความร้องทุกข์

ต่อมามีที่ปรึกษาของผู้บริหารของกระทรวงเกษตรฯ เรียกอธิบดีกรมการข้าวเข้าไปพบ ก็ยืนยันว่า ไม่ได้เกี่ยวข้องอะไร โดยที่ปรึกษาคนดังกล่าวยังได้แนะนำให้จ่ายเงินอ้างเป็นเงินเคลียร์ “นาย ศ.” เรื่องจะได้ยุติลง เพราะหากมีการแถลงข่าวก็จะเกิดความเสียหายอย่างมาก

ก่อนจะนัดแนะให้ไปจ่ายเงินที่บ้าน “นาย ศ.” เป็นเงินจำนวนมากกว่า 100,000 บาท ซึ่งขณะนั้นก็คิดว่า เรื่องจะจบลงแล้ว

ต่อมาเมื่อวันที่ 20 ธ.ค.2566 “นาย ศ.” และ “นาย จ.” ได้แถลงข่าวที่รัฐสภา กล่าวถึงกรมการข้าวว่า เป็นกรมเล็ก แต่มีการซุกงบกว่าหมื่นล้าน และตั้งภรรยาผู้บริหารให้เปิดบริษัทรองรับการการทุจริต ซึ่งในวันเดียวกันนั้น ก็มีโทรศัพท์จาก “นาย ศ.” โทรเข้ามาหาอธิบดีกรมการข้าวแต่ไม่ได้รับ

วันถัดมา 21 ธ.ค.2566 นาย ศ. ก็โทรเข้ามาอีก เพื่อนัดกินกาแฟช่วงเที่ยง เมื่อมาถึงก็บอกว่า ขณะนี้เตรียมตรวจสอบงบประมาณ และเตรียมยื่นให้กรรมาธิการตรวจสอบด้วย ซึ่งอธิบดีกรมการข้าว ตอบกลับว่า

จะตรวจสอบอะไร และยืนยันว่า ไม่ได้ทำความผิด

อ่านข่าว ฝ่ายกม.บิ๊กกรมข้าว มั่นใจหลักฐานแน่นมัด “กลุ่มศรีสุวรรณ”

นายดนุเดช ศิริวงษ์ตระกุล ทนายความและที่ปรึกษากฎหมายอธิบดีกรมการข้าว

เจรจา 2 โลลดเหลือ 1.5 โล

จากนั้นก็แยกย้ายกัน แต่มีโทรศัพท์เข้ามาหาอธิบดีกรมการข้าวอีกครั้ง และเรียกรับเงินเพิ่ม ก่อนที่อธิบดีกรมการข้าว จะยื่นโทรศัพท์ให้ภรรยาเป็นคนคุย ปลายสายตอบกลับว่าจะเรียกเงินจำนวน 2 โลหรือ 2,000,000 บาท

ภรรยาอธิบดีกรมการข้าว ก็บอกว่า ไม่ได้ทำอะไรผิดเลย ทำไมถึงต้องทำแบบนี้ ก่อนจะมีการต่อรองกันจนเหลือ 1 กิโลครึ่ง หรือ 1,500,000 บาท อีกฝ่ายได้ขอให้โอนก่อน 100,000 บาท

นายดนุเดช ระบุว่า ในตอนนั้น ตัวเองได้บอกภรรยาอธิบดีกรมการข้าวว่า โอนไปแค่ 50,000 บาทก่อน เมื่อโอนไปก็พบว่า ชื่อบัญชีไม่ได้เป็นชื่อของผู้ที่โทรเข้ามาเรียกเงิน หลังโอนไปแล้ว ก็ยังมีการเร่งเร้าให้จ่ายเต็มจำนวน 100,000 บาท วันที่ 23 ธันวาคม 2566 จึงโอนเพิ่มให้อีก 10,000 บาท

นายดนุเดช ระบุว่า ในระหว่างนั้นก็ได้มีการรวบรวมพยานหลักฐานส่วนหนึ่งและเข้าพบกับตำรวจ ปปป. แล้วเพื่อร้องทุกข์กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเอาไว้ กระทั่งมีการโทรประสานพูดคุยถึงเงินในจำนวนที่เหลือ 1,440,000 บาท

ภรรยาอธิบดีกรมการข้าวจึงนำเงินจำนวน 100,000 บาท ไปให้นายศ.ที่บ้าน เมื่อวันที่ 6 มกราคม 2567 ซึ่งวันนั้นมีการถ่ายคลิปวีดีโอ ขณะที่นาย ศ.กำลังรับรับเงิน ไว้เป็นพยานหลักฐานด้วย จนนำไปสู่การออกหมายจับ จนวันที่ 26 มกราคม 2567 ตำรวจ ปปป.จึงเข้าจับกุม นาย ศ. พร้อมของกลางเป็นเงินจำนวน 500,000 บาท

อ่านข่าว “สส.เท้ง” ก้าวไกลปัดโยงปมแก๊งเรียกทรัพย์ “บิ๊กกรมการข้าว”

อธิบดีกรมการข้าว และภรรยา เข้าให้ปากคำ

ห่วงการเมืองแทรกปัด “นาย จ.” โทษเบา 

นายดนุเดช ยอมรับว่า ตัวเองนั้นกังวลว่า จะมีการเมืองเข้ามาให้ความช่วยเหลือ เพื่อให้ “นาย จ.” ผู้กระทำผิด ซึ่งไม่มีสถานะเป็นเจ้าหน้าที่รัฐ พร้อมตั้งข้อสังเกตว่า ผู้ต้องหาที่ไม่ได้เป็นเจ้าหน้าที่รัฐ กรณีเรียกรับหรือยอมรับทรัพย์สินหรือประโยชน์อื่นใดโดยมิชอบ จะเป็นคดีกรรโชกทรัพย์โทษจะเบากว่ากรณีผู้ทำผิดเป็นเจ้าหน้าที่รัฐ ซึ่งมีโทษถึงจำคุกตลอดชีวิต

นายดนุเดช ยังระบุถึงกรณีที่มีนักการเมืองตัวย่อ “นาย ป.” ซึ่งเป็นอดีตนักการเมือง และเคยดำรงตำแหน่งเป็นผู้บริหารกระทรวงเกษตรฯ ได้ติดต่อมายังอธิบดีกรมการข้าว และภรรยาของอธิบดีกรมการข้าว

พร้อมฝากข้อความบอกตัวเองให้เบาๆ หน่อย และให้ยุติบทบาท รวมทั้งพยายามโยงธุรกิจของภรรยา อธิบดีกรมการข้าว พี่ทำธุรกิจฟาร์มหมู และฟาร์มไก่ ให้ไปเชื่อมโยงกับคดีหมูเถื่อนตีนไก่เถื่อนด้วย

อ่านข่าวอื่นๆ

อธิบดีกรมการข้าว พบ ป.ป.ป. ให้ปากคำ-ส่งหลักฐาน

สว.ทิ้งทวนอภิปรายรัฐบาลเศรษฐา – “สมชาย-คำนูณ-ถวิล” นำทัพ

ศาลออกหมายจับ 9 คนคดีแทงนศ.ปทุมวันตายหน้าสถาบัน