วันนี้ (13 พ.ค.2567) นายชัยชนะ เดชเดโช สส.นครศรีธรรมราช และรองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงแนวความคิดของรัฐบาล ในการกำหนดให้ผู้ครอบครองยาบ้า 1 เม็ดเป็นผู้เสพว่า ตนเห็นข่าวที่ นายเศรษฐา ทวีสิน นายกฯ และ รมว.คลัง เรียกประชุมหารือร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อขับเคลื่อนการแก้ไขปัญหายาเสพติด โดยเรื่องสำคัญที่พิจารณาก็คือ การพิจารณามาตรการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด โดยเฉพาะการแก้ไขปริมาณการครอบครองยาบ้าจาก 5 เม็ด เหลือเพียง 1 เม็ด ให้เป็นผู้เสพนั้น
ถือว่า นายเศรษฐา และรัฐบาล ได้น้อมนำข้อท้วงติง พร้อมกับข้อเสนอแนะของตนและประชาชนมาปรับปรุงแก้ไขดำเนินการ เพราะต้องยอมรับว่า การกำหนดให้ปริมาณยาบ้า 5 เม็ด ให้เป็นผู้เสพนั้น ได้สร้างปัญหาให้กับเจ้าหน้าที่ตำรวจในการปราบปรามเพราะผู้ต้องหาที่ถูกจับได้มักจะอ้างในเรื่องนี้
รวมทั้ง ตัวของนายเศรษฐาเอง ก็ยอมรับว่า เมื่อลงพื้นที่ตามจังหวัดต่าง ๆ ประชาชนต่างมาร้องทุกข์ถึงเรื่องนี้ด้วยความไม่สบายใจ เพราะฉะนั้น การที่นายกฯ ประกาศว่า จะแก้ไขกฎกระทรวงเพื่อกำหนดให้เหลือเพียง 1 เม็ด เป็นความคิดที่เหมาะสม และรัฐบาลควรรีบที่จะดำเนินการแก้ไขโดยเร็ว
นายชัยชนะ กล่าวต่อว่า ส่วนการดำเนินการบำบัดผู้ติดยาเสพติดนั้น ในที่ประชุมดังกล่าว ได้มีการเสนอเรื่องการใช้ค่ายทหารบำบัดผู้ติดยาเสพติด โดยมีวิธีการคือ ให้มีการพูดคุยกันระหว่างกระทรวงกลาโหม กระทรวงสาธารณสุขและฝ่ายปกครองว่าจะทำอย่างไร
หลังจากนั้น จะมีการดำเนินการทดลองเป็นตัวอย่างหนึ่งค่าย เป็นระยะเวลา 3 – 6 เดือน จากนั้นจึงไปเผยแพร่ให้กับค่ายอื่น ๆ นั้น ตนไม่ทราบว่า รัฐบาลหลงลืมหรืออย่างไร เพราะจริงๆ ภายในค่ายทหารต่าง ๆ ก็จะมีโรงเรียนวิวัฒน์พลเมือง ซึ่งทำหน้าที่บำบัดผู้ติดยาเสพติด และคืนคนดีสู่สังคมจึงก็ควรนำมาปรับปรุงแก้ไขและนำมาต่อยอดใช้ประโยชน์จากตรงนั้นให้มากที่สุด
รวมทั้ง ตามที่ตนได้เสนอปัญหาไปแล้วว่า ขณะนี้สถานบำบัดที่เหมาะสมยังมีไม่เพียงพอ โดยวิธีการส่วนใหญ่ก็คือ การนัดตัวผู้ที่บำบัดมาตรวจร่างกาย และจ่ายยารักษาเหมือนกับคนไข้ปกติ เมื่อไม่ได้กินยาหรือไม่มีมาตรการควบคุมตัวผู้บำบัดที่ดีพอ ก็จะเกิดอาการคลุ้มคลั่งทำร้ายบุคคลรอบข้าง
ดังนั้น การนำกระบวนการของโรงเรียนวิวัฒน์พลเมือง มาปรับใช้ในค่ายทหารอื่น ๆ โดยอาจจะนำพื้นที่บางส่วน หรืออาจจะปรับใช้เป็นสถานบำบัดผู้ติดยาเสพติดในช่วงที่ว่างเว้นจากการฝึกของทหาร ก็จะทำให้มีสถานบำบัดผู้ติดยาเสพติดมีมากขึ้น
นายชัยชนะ กล่าวด้วยว่า สำหรับในเรื่องของการปราบปรามผู้ค้าและผู้มีอิทธิพลที่เกี่ยวข้องกับยาเสพติดนั้น นอกจากการสนับสนุนงบประมาณในการจัดหาเครื่องมือที่ทันสมัย เพื่อให้เท่าทันกับเล่ห์เหลี่ยมของผู้ก่อเหตุที่พัฒนามากขึ้นแล้ว ตำแหน่งที่คอยอำนวยความสะดวกในการปราบปรามยาเสพติด ก็คือ ตำแหน่งพนักงานสอบสวนซึ่งขาดแคลนเป็นจำนวนมาก โดยจากการที่ลงพื้นที่ทั่วประเทศ ในฐานะที่เป็นประธานคณะกรรมาธิการการตำรวจ เจ้าหน้าที่ตำรวจแต่ละโรงพัก ก็ออกมาเรียกร้องให้ทางคณะกรรมาธิการฯ ทำหน้าที่ในการเสนอไปยังรัฐบาล เพื่อดำเนินการจัดสรรเจ้าหน้าที่ตำรวจสายงานสอบสวนโดยเร็ว
เพราะฉะนั้น นายเศรษฐา ในฐานะที่เป็นประธานคณะกรรมการข้าราชการตำรวจ (ก.ตร.) ควรที่จะดำเนินการในการสรรหาหรือดำเนินการเปิดสอบเจ้าหน้าที่ตำรวจสายงานสอบสวนให้มีจำนวนเพียงพอต่อการปฏิบัติหน้าที่
โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากรัฐบาล มีความตั้งใจที่จะทำงานร่วมกับประชาชนทุกภาคส่วนเพื่อดำเนินการปราบปรามผู้มีอิทธิพลและยาเสพติดให้หมดไปจากสังคมไทยแล้ว ก็ควรรีบดำเนินการสรรหาหรือจัดการสอบตำรวจสายงานสอบสวนโดยเร็วที่สุดด้วย
จากการที่ผมเคยนำเสนอ ถึงนายกฯ เรื่องขอให้แก้ไขกฎหมายการครอบครองยาบ้าสำหรับผู้เสพ จาก 5 เม็ด ให้เหลือ 1 เม็ดนั้น ผมต้องขอขอบคุณท่านนายกฯ ที่น้อมนำขอท้วงติงของประชาชน และภาคส่วนการเมือง มาปรับปรุงแก้ไข เพราะเชื่อว่า นายกฯ คงเห็นเรื่องนี้เป็นเรื่องที่สำคัญและรับฟัง จนนำไปสู่การแก้ไข
อ่านข่าว
“เศรษฐา” สั่งรื้อยาบ้า 1 เม็ดผิดส่ง “กัญชา” กลับเป็นยาเสพติด
“สมศักดิ์” เดินหน้านโยบาย 30 บาท เล็งลดจำนวนยาบ้า 5 เม็ด
“ผู้การแต้ม” ยื่นถอนกฎกระทรวง “ยาบ้า 5 เม็ด” เป็นผู้เสพ