วันนี้ (27 มิ.ย.2567) นายแสวง บุญมี เลขาธิการคณะกรรมการเลือกตั้ง (กกต.) แถลงข่าวสรุปภาพรวมการเลือก สว.ระดับประเทศ ว่า ใช้เวลาไปนานพอสมควร ทำให้คนหลายอาชีพไปอยู่รวมกันหลายชั่วโมง แต่ทุกอย่างก็ผ่านไปด้วยความเรียบร้อย
ส่วนของการจัดงานเลือก สว.ได้มีการประกาศผลคะแนน สว.แล้ว กลุ่มละ 10 คน สำรองกลุ่มละ 5 คน รวม 200 คนกับ 100 คน โดยแจ้งผลไปยังกกต.แล้วตามม.42 ของกกต.เพื่อเข้ากระบวนการพิจารณาประกาศผล แต่ก็ต้องรอไว้ไม่น้อยอีก 5 วัน หรือตั้งแต่วันที่ 3 ก.ค.นี้เป็นต้นไป ซึ่งยังไม่แน่ชัดว่าจะเป็นวันไหน ถ้าเห็นว่าการเลือกเป็นไปโดยสุจริตและเที่ยงธรรม
นายแสวง กล่าวว่า ส่วนการร้องเรียนสามารถร้องเรียนเข้ามาร้องได้ที่ กกต.และศาลฎีกา หากเห็นว่าเจ้าหน้าที่ดำเนินการเป็นไปไม่ชอบด้วยกฎหมาย รวมทั้งกรณีการเลือกที่พบว่าการเลือกไม่สุจริต และเที่ยงธรรมก็ร้องมายัง กกต.ได้
อ่านข่าว เปิดรายชื่อ 200 สว. “สมชาย” ตกรอบ “ศรีวราห์-ทนายตั้ม” ติดสำรอง
614 คำร้อง-คุณสมบัติว่าที่สว.
ขณะที่ข้อสังเกต และความผิดปกติของการลงคะแนนได้มีการอธิบายไปว่า ถ้าระเบียบเก่าเรื่องแบบนี้จะเกิดขึ้นน้อย แต่เมื่อระเบียบถูกยกเลิกก็ต้องมาดูกฎ หมายว่าการกระทำนั้นเป็นความผิดหรือไม่ การบล็อกโหวต ไม่มีใครเคยบอกว่าผิดกฎหมาย แต่ต้องบอกว่าการกระทำเหล่านี้กับกฎหมายกำหนดว่าเป็นความผิดหรือไม่ และมีองค์ประกอบความผิดอย่างไร
อ่านข่าว ความหวังคนสิ่งแวดล้อม “จิระศักดิ์-ชีวะภาพ” นั่งว่าที่ สว.ชุดใหม่
กกต.ไม่ได้นิ่งนอนใจกับการกระทำที่เกิดขึ้น แต่ก็ต้องดูที่ผลประโยชน์ว่ามีการแลกผลประโยชน์กันหรือไม่ โดยจะรวบรวมพยานหลักฐานให้ได้ข้อเท็จจริงมากที่สุดในทุกเรื่อง เช่น ในโรงแรมที่ต้องตรวจสอบว่ากลุ่มไหนเข้าไปพัก ใครจ่าย ใครให้เงิน ทั้งนี้ เมื่อคะแนนเท่ากันหลายคนก็เป็นข้อสังเกตให้ต้องสอบหาข้อเท็จจริง
คำร้องล่าสุด 614 คำร้อง เรื่องคุณสมบัติให้ลบชื่อ 400 กว่าคำร้อง คำร้องเรื่องความไม่สุจริต คำร้องจ้างให้ลงคะแนน รวมถึงคำร้องเกี่ยวกับเจ้าหน้าที่ คำร้องที่บอกวาามีพรรคการเมืองอยู่เบื้องหลัง
เลขาธิการ กกต.กล่าวอีกว่า ส่วนมีการตั้งข้อสังเกตว่า ผู้ที่ได้รับเลือกเป็นสว.เป็นกลุ่มของคนของพรรคการเมืองใหญ่ ได้มีการตรวจสอบอยู่แล้ว แต่ก็ต้องดูว่าผิดกฎหมายหรือไม่ หรือเข้าองค์ประกอบของกฎหมายหรือไม่ ยืนยันอยากให้การเลือกสุจริตเที่ยงธรรม พยายามเอากฎหมายมาใช้ให้ได้
มีคนบอกว่ามีโพยมีบล็อกโหวต แต่ไม่มีใครกล้าบอกว่าผิดกฎหมาย จึงต้องสืบและหาหลักฐานว่ามีการให้ผลประโยชน์กันจริงหรือไม่
นายแสวง กล่าวถึงส่วนที่มีรายงานว่า พบความผิดปกติในห้องน้ำชายว่า มีเรื่องคุยกันในห้องน้ำจริง แต่ไม่มีใครจ่ายเงินกันในห้องน้ำ หากจะมีการจ่ายหลังจากจบก็ต้องไปสืบข้อมูลกันต่อ และคงไม่มีการส่งโพยกัน เพราะมีคนของกกต. ติดตามอยู่ในนั้น ถ้าจะทำโพยจริงก็น่าจะทำมาจากบ้านแล้ว ยอมรับการตรวจสอบเรื่องเหล่านี้ เป็นเรื่องไม่ง่าย ที่จะสืบหาข้อเท็จจริง
เช่นเดียวกับการร้องเรียนในระว่างการเลือกเมื่อวานนี้ (26 มิ.ย.) ว่าคะแนนขณะขานนับกับคะแนนสรุป เป็นคะแนนที่ไม่ตรงกันเท่าที่ทราบข้อมูล ผู้สมัครขีดเอง และมีการบอกว่าถูกหักหลัง
เมื่อถามว่า ผู้ได้รับเลือกส่วนใหญ่เป็นคนที่มาจากพรรคการเมือง นายแสวง กล่าวว่า มองว่าผู้สมัครเท่ากันหมด แต่ถ้ายังใช้ระบบนี้อยู่ ในอนาคตหากต้องเลือกแบบนี้อีก การบริหารจัดการน่าจะดีขึ้น แต่หากย้อนกลับไปได้มีอะไรที่ต้องแก้ไขหรือไม่ นายแสวง กล่าวว่า
มันเกินกำลังคนตัวเล็ก ๆ แต่ก็ต้องดำเนินการไปตามกฎหมาย พร้อมปฏิเสธที่จะความเห็นเกี่ยวกับการออกแบบกติกาว่าจะต้องมีการแก้ไขหรือไม่
อ่านข่าว