วันนี้ (25 ส.ค.2567) เมื่อเวลา 15.40 น. นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ เข้าที่ทำการพรรค ก่อนการประชุมคณะกรรมการบริหารพรรค ซึ่งเปิดเผยว่าในช่วงเย็นวันนี้จะได้มติพรรคในการเสนอชื่อรัฐมนตรี
ส่วนกรณีที่นายศิริโชค โสภา อดีต สส.พรรค ลาออกเหมือนเลือดเก่าไหลออกจะหมดพรรคแล้ว นายเฉลิมชัย ย้อนว่า ถ้ามีโอกาสก็ไปถามศิริโชค ทั้งนี้ไม่ตอบคำถามว่าได้มีการแจ้งก่อนลาออกหรือไม่ โดยพูดสั้นๆ เพียงว่าเป็นเสรีภาพส่วนบุคคล
“ชวน” ย้ำเหตุผลส่วนตัวที่ไม่ขอร่วมรัฐบาลเพื่อไทย ไม่ได้ขัดแย้งใคร
นายชวน หลีกภัย สส.บัญชีรายชื่อพรรคประชาธิปัตย์ ระบุถึงการประชุม สส.และกรรมการบริหารพรรคประชาธิปัตย์วันนี้ว่า ต้องรอฟังจากที่ประชุมพรรค โดยส่วนตัวได้ย้ำจุดยืนมาโดยตลอดว่า หากพรรคประชาธิปัตย์เข้าร่วมรัฐบาลกับพรรคเพื่อไทยจะส่งผลกระทบไม่มากก็น้อย
พร้อมเชื่อว่า ผลการประชุมของพรรคจะไม่มีการเปลี่ยนแปลงใดๆ แต่ต้องการแสดงความชัดเจนว่า ไม่เห็นด้วยตั้งแต่นายเศรษฐา ทวีสิน ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีแล้ว โดยเหตุผลไม่ได้มาจากความขัดแย้งส่วนตัว แต่เพราะในช่วงหาเสียงได้รณรงค์ในพื้นที่ภาคใต้ ไม่ให้เลือกพรรคเพื่อไทย ตั้งแต่ยังเป็นพรรคไทยรักไทย
โดยอ้างอิงจากนโยบายของพรรคไทยรักไทยเดิมที่เน้นช่วยเหลือประชาชนในพื้นที่ที่เป็นฐานเสียง ซึ่งไม่ใช่พื้นที่ภาคใต้ ดังนั้นการที่ได้รณรงค์หาเสียงในลักษณะนี้มาตลอด การจะเข้าร่วมกับพรรคเพื่อไทยในครั้งนี้ก็จะเป็นการทรยศชาวบ้านจึงต้องรักษาจุดยืนในสิ่งที่เคยบอกไว้ เมื่อมีการเลือกปฏิบัติต่อเราก็ไม่ควรจะไปเลือกเขา แม้การที่อ้างว่าผ่านมาแล้ว 20 ปี แต่ตลอด 20 ปีที่ผ่านมาก็ถือว่าภาคใต้เสียโอกาสไปมาก
ทั้งที่พื้นที่ภาคใต้สร้างรายได้และหล่อเลี้ยงประเทศ ไม่ว่าจะเป็นด้านการท่องเที่ยวหรือภาษี ดังนั้นพรรคใดพรรคหนึ่งไม่ควรจะเลือกปฏิบัติต่อพื้นที่ภาคใต้
พร้อมย้ำว่า ไม่ได้มีข้อขัดแย้งส่วนตัวกับใคร แต่การที่ประชาชนที่โดนกลั่นแกล้ง อย่างน้อยผมคนหนึ่งก็ได้ต่อสู้มาโดยตลอด และยืนยันว่า ได้ขอให้ประชาชนอย่าไปสนับสนุนพรรคการเมืองใดพรรคการเมืองหนึ่ง ที่มีมาตรการเลือกปฏิบัติและที่ผ่านมาตนเองเคยเป็นนายกรัฐมนตรีมาถึง 2 สมัยก็ไม่เคยเลือกปฏิบัติ
ซึ่งนี่คือข้อแตกต่างที่ชัดเจนระหว่างพรรคประชาธิปัตย์กับพรรคเพื่อไทย ดังนั้นนักการเมืองต้องเอาใจใส่และปกป้องผลประโยชน์ของประชาชน ซึ่งจะต้องมีผู้ที่ต่อสู้ในเรื่องนี้
โดยที่ผ่านมาก็ได้มีการทำหนังสือไปถึงรัฐบาลตั้งแต่สมัยพรรคไทยรักไทย และเมื่อพรรคไทยรักไทยพ้นไปแล้วก็ยังได้ทำหนังสือถึงรัฐบาลสมัยพลเอกประยุทธ์ ให้มีการชดเชย ในพื้นที่ภาคใต้ เนื่องจากที่ผ่านมาถูกเลือกปฏิบัติ ซึ่งเกิดขึ้นในสมัยของนายทักษิณ ชินวัตร และ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร
ขณะที่ในสมัยรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ได้มีการแก้ไขในหลายพื้นที่ จึงขอยืนยันว่าเรื่องนี้เป็นการปกป้องผลประโยชน์ของประชาชน เพราะจะบิดเบือนเจตนารมณ์ไม่ได้ เมื่อพูดไปแล้วก็ต้องรับผิดชอบ หากมากลับลำก็เหมือนทรยศหักหลังประชาชน และมองว่า ส่วนหนึ่งที่คนภาคใต้ไม่เลือกพรรคเพื่อไทย เพราะเชื่อตนเองที่รณรงค์หาเสียงไว้ ซึ่งถือเป็นการตอบโต้ที่ไม่รุนแรง
ทั้งนี้นายชวน ไม่ขอแสดงความคิดเห็นต่อการลาออกจากการเป็นสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ของนายศิริโชค โสภา
“เดชอิศม์” แจงร่วมรัฐบาล เหตุ 26 ปีไม่เคยชนะเลือกตั้งเพื่อไทย
ความเคลื่อนไหวที่พรรคประชาธิปัตย์ก่อนมีการประชุมกรรมการบริหารพรรค เพื่อขอมติที่ประชุมในการเข้าร่วมรัฐบาลกับพรรคเพื่อไทยหรือไม่ ในเวลา 17.00 น. ประชาชนจากกรุงเทพมหานครซึ่งเป็นแฟนคลับและเป็นสมาชิกของพรรคประชาธิปัตย์ตั้งแต่ปี 2524 เดินทางนำดอกไม้มามอบให้นายเดชอิศม์ ขาวทอง เลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ เพื่อเป็นกำลังใจให้คณะกรรมการบริหารพรรค เพื่อมีความกล้าตัดสินใจในสิ่งที่ถูกต้อง หลังมีกระแสต่อต้านการร่วมรัฐบาลจากสมาชิกพรรคทั่วประเทศ ส่วนเห็นด้วยหรือไม่ที่จะไปร่วมรัฐบาลกับพรรคเพื่อไทยไม่ขอออกความคิดเห็นเนื่องจากเป็นเรื่องของผู้ใหญ่
นายเดชอิศม์ เปิดเผยว่า วันนี้จะมีการประชุมคณะกรรมการบริหารพรรคจากนั้นจะนำมติเข้าสู่ที่ประชุมร่วมกับสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรเพื่อขอมติว่าจะร่วมรัฐบาลหรือไม่ คงต้องรอให้ออกมาเป็นมติก่อนว่าจะร่วมหรือไม่ ส่วนที่มีหลายคนไม่เห็นด้วยทั้งกรรมการบริหารพรรคและสมาชิกพรรค อย่าง เช่น นายศิริโชค โสภา ที่เดินทางมาลาออกจากการเป็นสมาชิกพรรค นายเดชอิศม์ กล่าวว่าตนคิดว่าเขาลาออกไปนานแล้ว
ส่วนกรณีที่นายประพฤติ ฉัตรประภาชัย ออกมาให้ความเห็นว่าการลงมติร่วมรัฐบาลอาจขัดกับข้อบังคับของพรรคประชาธิปัตย์เรื่องมาตรฐานทางจริยธรรมเนื่องจาก น.ส.แพทองธาร ชินวัตร มีคำร้องอยู่ในองค์กรต่างๆ นายเดชอิศม์ กล่าวว่าไม่ทราบแต่ส่วนตัวไม่กังวลอะไรเลย อย่าไปกลัวทุกอย่าง ถ้ากลัวทุกอย่างจะไม่สามารถทำอะไรได้เลย
ตลอดอายุเวลา 70 ปีของพรรคประชาธิปัตย์กรรมการบริหารพรรคอยากยกระดับพรรคใช่หรือไม่จึงเข้าร่วมรัฐบาล นายเดชอิศม์ กล่าวว่า
“พรรคเพื่อไทยตั้งมา 26 ปีแล้วครับ เราไม่เคยชนะเลย ต้องยอมรับประชาธิปัตย์ก็แพ้ และคะแนนพรรคประชาธิปัตย์ก็ลดลงเรื่อยๆ เมื่อเขาเลือกผมมาเป็นคณะกรรมการบริหารพรรค สิ่งไหนที่ต้องปรับปรุงเปลี่ยนแปลงให้ดีขึ้น สิ่งไหนที่จะทำให้ได้สอสอเพิ่มขึ้นผมต้องทำครับ”
ผู้สื่อข่าวจึงถามว่าคิดว่าการร่วมรัฐบาลจะทำให้ประชาธิปัตย์ มี สส.เพิ่มขึ้นและมีชื่อเสียงเพิ่มมากขึ้นใช่หรือไม่ นายเดชอิศม์ กล่าวว่าตนมั่นใจเพราะ สส. ที่ตนพูดคุยด้วยส่วนใหญ่เป็นสอสอเขตทุกคนหลังประชุมสภาเสร็จเย็นวันพฤหัสทุกคนจะเดินทางไปอยู่ในพื้นที่และวันอังคารจะเดินทางกลับมาประชุมพรรคทุกคนได้ถ่ายทอดสิ่งที่มาจากประชาชนให้ตนฟัง เพราะฉะนั้นเราต้องประเมินทุกฝ่าย 360 องศา ก่อนจะนำเสนอในที่ประชุม ส่วนผลประชุมจะออกมาเป็นอย่างไรเราต้องเคารพ เพราะระบบประชาธิปไตยต้องอยู่ด้วยเสียงส่วนมาก ประชาธิปัตย์อยู่ได้ด้วยเสียงส่วนมากและมติพรรค มติพรรคว่าอย่างไรตนก็พร้อมปฏิบัติตาม
อ่านข่าว :
“ชวน” มั่นใจไม่ร่วม “เพื่อไทย” อยู่คนเดียวได้ ไม่มีปัญหา
“ศิริโชค” ลาออก “ปชป.” หลังเป็นสมาชิกพรรคกว่า 30 ปี
“สาธิต” ซัดผู้บริหารชุดปัจจุบัน ไร้ DNA ประชาธิปัตย์ หลังจับมือ “เพื่อไทย”