ระหว่างเปิดอภิปรายนโยบายรัฐบาล ในที่ประชุมรัฐสภาเมื่อวานนี้ (12 ก.ย.2567) ยังมีภาพสะท้อนถึงความขัดแย้งภายในพรรคพลังประชารัฐออกมาอย่างชัดเจน เมื่อ สส.พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ฝ่ายหนึ่ง อภิปรายท้วงติงนโยบายรัฐบาล ทำให้อีกฝ่ายต้องลุกขึ้นมาประท้วงปกป้องรัฐบาล
ความขัดแย้งภายใน พปชร.กำลังถูกขยายวงกว้าง โดยเฉพาะคลิปเสียงคล้าย พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ที่ถูกปล่อยออกมา นอกจากจะถึงมือคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) แล้ว ในวันนี้น่าจะถึงคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ให้ต้องตรวจสอบข้อเท็จจริง
เนื้อหาสาระในคลิปเสียง หรือบทสรุปสุดท้าย หลังคลิปไปอยู่ในมือองค์กรอิสระ ไม่ใช่ประเด็นสำคัญว่า “ใครแอบอัดคลิป แล้วใครส่งต่อคลิปนั้นมาปล่อย” เพราะถูกตั้งคำถามว่าเป็นคนที่มีเจตนาทำลาย พปชร.และหวังปิดสวิตช์คนบ้านป่าใช่หรือไม่
เมื่อวานนี้ (12 ก.ย.) อดีตโฆษกพรรคเพื่อไทย “พร้อมพงศ์ นพฤทธิ์” หยิบคลิปเสียงที่เผยแพร่ในที่สาธารณะไป “ถอดเทป-ถอดความ” เพื่อนำไปเป็นเอกสาร-หลักฐาน อ้างอิงตามข้อกล่าวหา ยื่นคำร้องต่อ ป.ป.ช. ให้ตรวจสอบข้อเท็จจริง
เหตุจากเสียงคล้าย พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ อดีตรองนายกรัฐมนตรี หัวหน้าพรรค พปชร. และในฐานะ สส.บัญชีรายชื่อของพรรค ได้พูดคุยทวงถามกันถึง “เงิน” ที่อาจเข้าข่ายเรียกรับเงิน และกระทำการขัดกันแห่งผลประโยชน์ อาจขัดรัฐธรรมนูญและตามกฎหมาย ทั้ง ป.ป.ช. และอาญามาตรา 157 รวมถึงอาจฝ่าฝืนมาตรฐานจริยธรรมอย่างร้ายแรง ภายหลังยื่นคำร้องนายพร้อมพงศ์ ให้สัมภาษณ์ฝากข้อความไปถึงนายไพบูลย์ นิติตะวัน เลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ ให้ทบทวนข้อบังคับพรรค เพราะคือต้นทางที่ชี้ชัดในความผิด
“ข้อบังคับพรรคพลังประชารัฐ ข้อ 60 ต้องถือผลประโยชน์ของประโยชน์ของประเทศชาติเหนือกว่าประโยชน์ส่วนตน ข้อ 61 ต้องปฏิบัติหน้าที่ด้วยความซื่อสัตย์ ไม่แสวงหาผลประโยชน์โดยมิชอบฯ และข้อ 62 ต้องไม่ขอ ไม่เรียก ไม่รับ หรือยอมรับทรัพย์สินฯ”
เป้าหมายแรกคือยื่นคำร้องเอาผิด ส่วนเป้าหมายแทรกคือบทพิสูจน์เลขาธิการพรรคคนใหม่ ที่ขึ้นมาแทน ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า
ระหว่างให้สัมภาษณ์ถึงคลิปเสียงคล้าย พล.อ.ประวิตร นั้น ร.อ.ธรรมนัส เชื่อว่าคนทำ-คนปล่อย น่าจะอยู่ใกล้ตัว พล.อ.ประวิตร เพื่อเนื้อหาสาระที่พูดคุยกันในคลิปเป็นเรื่องภายในพรรคที่คนนอกเข้าถึงยาก และก่อนหน้านี้ตนเองก็เคยเตือนแล้ว ให้ระวังการดักฟัง-แอบอัดเทป
นอกจากนี้ ร.อ.ธรรมนัส ยังออกตัวว่าเรื่องนี้ไม่ได้เกี่ยวข้อง และไม่ได้ใส่ใจ เพราะไม่มีผลกับ 20 สส.ที่กำลังจะออกจากพรรค พร้อมระบุ ไม่อยากเป็นศัตรูกับใคร แต่ตั้งทีมกฎหมายไว้แล้วหากถูกพาดพิง-กล่าวหา จะสวนกลับและฟ้องดำเนินคดี ส่วนคนที่อ้างว่าเป็น “AI” อย่าคิดว่าคนในสังคมจะโง่
ผมว่าต้องมีขบวนการภายในพรรคเอง อย่าไปโทษคนอื่น ส่วนที่อ้าง AI เป็นการพูดไปเรื่อย ฝากคนที่รักลุงจริง ๆ เวลาจะตอบอะไรสังคม อย่าไปบิดเบือน
อย่างไรก็ตาม คำร้องต่าง ๆ อยู่ในมือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องแล้ว คาดใช้เวลาอีกนานจึงได้ข้อสรุปชี้มูลความผิดบุคคลหรือพรรค แต่ภายใน 60 วัน นับตั้งแต่ 11 ก.ย.2567 จะได้ข้อสรุปผลสอบขับ 20 สส.พปชร. ซึ่งต้องดูว่ามีการเจรจาต่อรองให้จบแบบไหน เว้นแต่ พปชร.จะกลายเป็นพรรคต่ำ 10 ด้วยการปิดสวิตช์บ้านป่า
วิเคราะห์ : เสาวลักษณ์ วัฒนศิลป์ บรรณาธิการข่าวการเมือง ไทยพีบีเอส
อ่านข่าว : “อนุทิน” ตอบปมคลิปหลุดเสียงสนทนาโยงคนบ้านป่า ยันไม่กระทบ
