‘นพดล’ เห็นนายกฯแพทองธาร อ่านถ้อยแถลงจากสคริปต์เป็นเรื่องปกติ ทำกันทั้งโลกมานานแล้ว ขอวิจารณ์เนื้อหาสาระดีกว่า ยังหวังประชุมอาเซียนซัมมิทไทยจะแสดงบทบาทนำ
นายนพดล ปัทมะ ส.ส. บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทยและอดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวว่าตามที่มีการวิจารณ์นายกรัฐมนตรีแพทองธาร ชินวัตร ว่าไปประชุมเอซีดีทำไมนั่งอ่านสคริปต์เรื่องนี้ ต้องเข้าใจแนวปฏิบัติการประชุมระหว่างประเทศให้ถูกต้องว่าการที่ผู้นำไปกล่าวถ้อยแถลงในเวทีประชุมระหว่างประเทศนั้นเป็นเรื่องปกติทำกันทั้งโลกเช่นนั้นมานานแล้ว เนื่องจากจะต้องไปกล่าวถ้อยแถลงแทนประเทศซึ่งจะมีกระทรวงการต่างประเทศและทำเนียบช่วยเตรียม ที่เรียกว่าเป็นคำแถลงที่เตรียมไว้แล้ว(prepared speech) มันไม่ได้แสดงว่านายกฯอ่อนด้อยประสบประการณ์ ดังนั้นต้องเข้าใจและให้ความเป็นธรรมกับผู้นำของไทย ถ้าหากจะวิพากษ์ ควรจะไปดูที่เนื้อหาสาระของถ้อยแถลงว่ามีประโยชน์ต่อประเทศไทยหรือไม่ มากกว่าจะวิจารณ์ว่าไปอ่านจากสคริปต์ ซึ่งเท่าที่ตนติดตามสาระของถ้อยแถลงของนายกรัฐมนตรีก็ถือว่าเป็นประโยชน์ไม่ว่าจะเป็นพูดถึงเรื่องของการร่วมมือระหว่างประเทศในเอเชียการสร้างสถาปัตยกรรมทางการเงินของเอเชีย การสร้างสันติภาพและความรุ่งเรือง รวมทั้งการดึงดูดนักลงทุนมาลงทุนในประเทศไทย เป็นต้น
นายนพดลกล่าวต่อไปว่าสัปดาห์หน้านายกรัฐมนตรีจะไปประชุมอาเซียนซัมมิทซึ่งเป็นการประชุมระดับผู้นำที่สปป.ลาว ซึ่งปกติจะไปกล่าวถ้อยแถลงที่เป็นสคริปต์ที่เตรียมไว้ก่อนแล้วและตนเชื่อมั่นว่า ท่านนายกฯจะเตรียมการอย่างดีเพื่อไปแสดงบทบาทของไทยในเวทีระดับภูมิภาคครั้งสำคัญนี้ อย่างไรก็ตาม ตนขอฝากประเด็นที่ให้ท่านไปผลักดันคือเรื่องของการสร้างสันติภาพ และความมั่นคงในประเทศเมียนมาร์ เนื่องจากการสู้รบยังดำเนินไปอย่างต่อเนื่อง ตราบใดที่สร้างสันติภาพในเมียนมาร์ไม่ได้ ปัญหาต่างๆจะยังมีให้ไทยแบกรับต่อไปไม่ว่าจะเป็นเรื่องปัญหายาเสพติด ปัญหาผู้อพยพ ฝุ่นพีเอ็ม 2.5 ดังนั้นไทยควรแสดงบทบาทนำร่วมกับอาเซียนและมิตรประเทศในภูมิภาคเพื่อผลักดันกระบวนการสันติภาพให้มีการเจรจาของทุกฝ่ายเพื่อยุติการสู้รบ ซึ่งไทยในฐานะประเทศที่มีพรมแดนติดกับเมียนมาร์และเป็นผู้นำในการช่วยเหลือด้านมนุษยธรรม น่าจะอยู่ในสถานะที่ดีที่จะไปผลักดัน
“แม้นายกรัฐมนตรีจะมีอายุน้อยและใหม่ในเวทีระหว่างประเทศ แต่ตนเชื่อมั่นว่าท่านจะเรียนรู้ได้เร็วและสามารถดำเนินงานด้านต่างประเทศได้เป็นอย่างดี รวมทั้งผลักดันบทบาทไทยในเวทีโลกต่อไปการวิจารณ์ควรจะวิจารณ์ที่ผลงานและเนื้อหาสาระมากกว่า” นายนพดลกล่าว