หน้าแรก Thai PBS เลาะรั้วสนามเล็ก นายก อบจ. “อุทัยฯ-ระนอง-ยโสธร”ถ้อยอาศัยพรรคร่วม ?

เลาะรั้วสนามเล็ก นายก อบจ. “อุทัยฯ-ระนอง-ยโสธร”ถ้อยอาศัยพรรคร่วม ?

50
0
เลาะรั้วสนามเล็ก-นายก-อบจ.-“อุทัยฯ-ระนอง-ยโสธร”ถ้อยอาศัยพรรคร่วม-?
เลาะรั้วสนามเล็ก นายก อบจ. “อุทัยฯ-ระนอง-ยโสธร”ถ้อยอาศัยพรรคร่วม ?

คำอวยพรของ “เนวิน ชิดชอบ” ครูใหญ่พรรคภูมิใจไทย ที่ให้หมอปะกำช้าง ผูกข้อมือ “อนุทิน ชาญวีรกูล” หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ที่ว่า “ผูกให้เป็นนายกฯ”  “ผูกให้ยิ่งใหญ่ และผูกให้แข็งแรง” ในทำบุญครบรอบวันคล้ายวันเกิดอายุ 66 ปี ที่ จ.บุรีรัมย์ เมื่อวันที่ 4 ต.ค. 2567  ท่ามกลางแวดวง คนการ เมือง คนดัง ทุกสารทิศที่ไปร่วมยินดี แม้จะทำให้  “อนุทิน ” แอบขวย จนเสบอกว่า ทุกวันก็เป็นนายกฯอยู่แล้ว คือ นายกสมาคมคน “เกลียมัว”เรียกเสียงหัวเราะในงานอย่างชื่นมื่น 

แต่หากมองลึกซึ้งถึงนัยทางการเมือง ปฎิเสธไม่ได้ว่า “ภูมิใจไทย” ภายใต้การกุมบังเหียนของ “เนวิน”ครั้งหน้า เล็งเป้าหมายไม่พลาดแน่

ไม่ใช่แค่สว.สายสีน้ำเงินที่คว้าไป 140 เก้าอี้ แต่สนามการเมืองท้องถิ่น อย่างนายก อบจ. พรรคภูมิใจไทย ก็พร้อมปักธงรบ แม้ว่า บางสนามจะต้องหลีกทางให้ “บ้านใหญ่ดั้งเดิม” ในการเลือกตั้งนายก อบจ.เมื่อวันที่ 6 ต.ค.ที่ผ่านมา โดยเฉพาะที่จ.อุทัยธานี แบบถ้อยที ถ้อยอาศรัย เพื่อไม่ให้เกิดความขัดแย้งในการเมืองสนามเล็ก

เมื่อ “เผด็จ นุ้ยปรี” ชนะการเลือกตั้ง กวาดมาได้ 110,8243 คะแนน ได้เป็นนายก อบจ.อุทัยธานี เป็นสมัยที่ 5 หลังจากก่อนหน้านี้มีข้อขัดแย้งกันในพื้นที่ระหว่าง “มนัญญา ไทยเศรษฐ์” และ “เผด็จ” จนทำให้ “ชาดา ไทยเศรษฐ์” ต้องเข้ามาเคลียร์ และเปิดทางให้ “เผด็จ” ลงสนามแต่เพียงผู้เดียว ในนามกลุ่มคุณธรรม โดยใช้สโลแกน “เผด็จ นุ้ยปรี คนดี..คนเดิม”

หากกล่าวถึง บ้านใหญ่เมืองอุทัยธานี ก่อนที่ตระกูลไทยเศรษฐ์ จะกระโจนเข้าสู่สนามการเมือง ไม่ได้มีเพียง พ.อ.พล เริงประเสริฐวิทย์ สส.คนแรกของจ.อุทัยธานี พรรคสยามประชาธิป ไตยปี 2522 จนมาจบ อยู่ที่พรรคความหวังใหม่ ในปี 2538 แต่ยังมี ตระกูลทุ่งทอง ตระกูลมงคลศิริ ตระกูลพลเสน และตระกูล“นุ้ยปรี” ซึ่งมี ”ศิลป์ชัย นุ้ยปรี” พี่ชายของ “เผด็จ” ซึ่งเคยเป็นอดีตสส.รวมอยู่ด้วย

ในช่วงที่ ศิลป์ชัย เป็นสส.ในปี 2539 และ “ชาดา”เพิ่งเริ่มเข้าสู่สนามการเมืองท้องถิ่นปี 2539 โดยร่วมกับตระกูลเหลืองบริบูรณ์ นำโดย“อดุลย์ เหลืองบริบูรณ์” ก่อตั้ง กลุ่มคุณธรรม นำทีมลงสมัครสมาชิกสภาเทศบาลเมืองอุทัยธานี และ “ชาดา” ได้เป็นนายกเทศมนตรี จึงไม่แปลกที่ “ชาดา” ต้องยอมถอย ให้กับ “เผด็จ” เพื่อรักษากลุ่มคุณธรรม ไม่ให้มารบกันเอง และคงความเป็นบ้านใหญ่ของกลุ่มอื่น ๆ ให้อยู่ร่วมกันได้ และปิดโอกาสไม่ให้พรรคการเมืองอื่น ๆ เข้ามาเจาะพื้นที่

เช่นเดียวกับที่ จ.ระนอง “คงกฤษ ฉัตรมาลีรัตน์” หรือ “สส.เอ”จากพรรคภูมิใจไทย ทายาทลูกชิ้นฮั้งเพ้ง ส่ง “ผู้ใหญ่แบงก์” สีหราช สรรพกุล ทีมระนองก้าวหน้า กวาดคะแนนไป 34,420 คะแนน ล้มแชมป์เก่า “ธนกร บริสุทธิญาณี” อดีตนายก อบจ.ระนอง ที่ได้ 24,830 คะแนน หรือพ่ายไป 9,590 คะแนน ผลเลือกตั้งครั้งนี้ ไม่เพียงทำให้ “อนุทิน” หัวหน้าพรรคภูมิใจไทยในฐานะเขยระนอง ปักธงสีน้ำเงิน ลงในพื้นที่ภาคใต้ได้เท่านั้น แต่ยังได้นักการเมือง เจนใหม่ หนุ่มวัย 37 ปี อย่าง “ผู้ใหญ่แบงค์” สีหราช เข้ามาอยู่ในซุ้มบ้าน “ฉัตรมาลีรัตน์”เพิ่มอีกด้วย

ว่าไปแล้ว “ผู้ใหญ่แบงก์” สีหราช อดีตผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ 2 บ้านเกาะคณฑี ต.ปากน้ำ อ.เมือง จ.ระนอง ไม่ใช่หน้าใหม่การเมือง หลังเลือกตั้งปี 2566 “สส.เอ” คงกฤษ แต่งตั้งผู้ใหญ่แบงก์ เป็นที่ปรึกษาส่วนตัว ก่อนหน้านี้อยู่ในทีมระนองก้าวหน้าร่วมทำงานกับ “คงกฤษ” อดีตนายก เอ หรือ สส.เอ มาก่อน หลังชนะเลือกตั้ง เขาบอกว่า พร้อมจะเข้าไปพัฒนา จ.ระนอง ช่วยแก้ไขปัญหาให้ประชาชนทุกพื้นที่ และขอบคุณทีมระนองก้าวหน้าที่สนับสนุน

ขณะที่ “สส.เอ” คงกฤษ บอกว่า ในฐานะที่เคยเป็นอดีตนายก อบจ.ระนอง ได้เห็นบริบทของท้องถิ่นมาโดยตลอด ยังมีอะไรอีกหลายเรื่องที่ต้องแก้ไข และผลักดัน สิ่งที่เกินอำนาจท้องถิ่น ก็ต้องไปว่ากันในระดับชาติ คือ การทำหน้าที่เป็นปากเป็นเสียงของตนที่จะไปพูดในสภา เพื่อที่จะแก้ไขปัญหาในสิ่งนี้ ซึ่งการพัฒนาท้องถิ่นร่วมกัน จะเป็นหัวใจสำคัญที่จะทำให้เกิดประโยชน์สูงสุดกับพี่น้องชาว จ.ระนอง

ส่วนสนามเลือกตั้งเมืองยโสธร เป็นไปตามคาด เมื่อ “วิเชียร สมวงศ์”อดีตนายก อบจ.ยโสธร ผู้สมัครจากพรรคเพื่อไทย ชนะแบบนอนมา ด้วย169,068 คะแนน แบบม้วนเดียวจบ สำหรับตระกูลสมวงศ์ เป็นนัการเมืองระดับท้องถิ่นและระดับชาติ โดย “วิเชียร” เป็นน้องชายของ “บุญแก้ว สมวงศ์” สส.จังหวัดยโสธร พรรคเพื่อไทย 3 สมัย

หากนับจำนวนศึกเลือกตั้ง ในหลายจังหวัด นับแต่มีการปักธงชิงเก้าอี้ นายกฯอบจ. ไล่ตั้งแต่ จ.พระนครศรีอยุธยา ,ราชบุรี ,ชัยนาท, พะเยา,ปทุมธานี และล่าสุดที่จ.อุทัยธานี ,ระนองและยโสธร จะเห็นได้ว่า “บ้านใหญ่” ยังคงรักษาแชมป์ไว้ได้เหมือนเดิม โดยเฉพาะกลุ่มอดีตนายก อบจ.เก่าที่ใช้วิธีการ ชิงลาออกก่อนครบวาระ ส่วนใหญ่จึงมีชัยล่วงหน้าไปเกินครึ่ง

ด้วยเหตุ เป็นคนหน้าเดิม มีเวลาเตรียมตัว และมีฐานเสียงอยู่แล้ว โดย “บ้านใหญ่” และพรรคการเมืองใหญ่ อยู่เบื้องหลังแทบทั้งสิ้น บางพื้นที่และบางจังหวัดมีการหลบหลีกให้กันแบบถ้อยทีถ้อยอาศัย ขณะที่ยังไม่เห็นวี่แววของ “พรรคส้ม”ประชาชนที่จะแทรกเข้ามาได้เลย

อ่านข้าวเกี่ยวข้อง:

“อนุทิน​” หลบสื่อฯ​ หลังข่าวสะพัดควง “เนวิน​” เข้าพบ​ “ทักษิณ” ​

“แพทองธาร” เซ็นตั้ง “ธีระพงษ์ – ณัฐวุฒิ” เป็นที่ปรึกษาของนายกฯ

จับตาเลือก “ผบ.ตร.คนใหม่” นายกฯ แพทองธาร ถก ก.ตร.นัดแรก

ทิ้งคำตอบไว้

กรุณาใส่ความคิดเห็นของคุณ!
กรุณาใส่ชื่อของคุณที่นี่