หน้าแรก Voice TV ‘ศิริกัญญา’ พร้อมถูกเสนอชื่อนั่ง หัวหน้าก้าวไกล แต่เชียร์ 'ชัยธวัช' เหมาะสม

‘ศิริกัญญา’ พร้อมถูกเสนอชื่อนั่ง หัวหน้าก้าวไกล แต่เชียร์ 'ชัยธวัช' เหมาะสม

92
0
‘ศิริกัญญา’-พร้อมถูกเสนอชื่อนั่ง-หัวหน้าก้าวไกล-แต่เชียร์-'ชัยธวัช'-เหมาะสม

‘ศิริกัญญา’ พร้อมถูกเสนอชื่อ หน.ก้าวไกล มอง ‘เพื่อไทย’ หากได้ ‘แพทองธาร’ นั่งหัวหน้าพรรค เป็นการเมืองแบบใหม่ ไม่ “ชายแท้”

วันที่ 16 ก.ย. ศิริกัญญา ตันสกุล รักษาการรองหัวหน้าพรรคก้าวไกล กล่าวถึงความชัดเจนหลังมีกระแสข่าวเป็นว่าที่หัวหน้าพรรคก้าวไกลคนต่อไปว่า จะมีการเลือกตั้งหัวหน้าพรรค และกรรมการบริหารพรรคคนใหม่ในวันที่ 23 ก.ย. นี้ ขอให้ทุกท่านติดตามว่าใครจะเป็นหัวหน้าพรรคนใหม่แทน พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ รักษาการหัวหน้าพรรคก้าวไกล 

ส่วนกระแสข่าวที่ตนจะถูกเสนอชื่อเป็นแคนดิเดตหัวหน้าพรรคคนใหม่นั้น ศิริกัญญา กล่าวว่า ส่วนตัวมีความพร้อม แต่ยังไม่มั่นใจว่าจะมีผู้ถูกเสนอชื่อกี่ท่าน และเป็นชื่อใครบ้าง รวมถึงมีชื่อตนเองหรือไม่ จึงไม่อยากให้รีบเดากันไป อีกไม่กี่วันคงจะมีความชัดเจน 

ศิริกัญญา ยังมองถึงคุณสมบัติของหัวหน้าพรรคคนใหม่ว่า คนที่จะมารับภาระต่อจากพิธาคงจะหนักอึ้ง เพราะพิธาตั้งมาตรฐานไว้สูง คนที่มาแทนต้องทำงานหนัก ไม่แพ้ที่พิธาเคยทำไว้ รวมถึง พิธาเป็นบุคลากรที่มีคุณค่าของพรรค ซึ่งเราจะหาช่องทางทำงานร่วมกับพิธาด้วย แม้จะไม่ได้เป็นหัวหน้าพรรคแล้วก็ตาม อีกทั้งพิธาก็ยังคงมีบทบาทนำในการส่งต่อแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีคนต่อไปอีกด้วย 

ศิริกัญญา กล่าวอีกว่า หัวหน้าพรรคนใหม่ที่ต้องรับหน้าที่เป็นผู้นำฝ่ายค้านจะต้องมีความคล่องในงานสภาฯ เพราะจะต้องได้รับความร่วมมือจากพรรคฝ่ายค้านทั้งหมด ในการดำเนินกิจการต่างๆ เพราะที่ผ่านมา เราเห็นการใช้บทบาทของผู้นำฝ่ายค้านไม่มากนัก มีเพียงแค่การลงพื้นที่พบปะประชาชน 

“ถ้าเป็นผู้นำฝ่ายค้านที่มาจากพรรคก้าวไกลจะต้องมีแนวทางที่สร้างสรรค์ มีประสิทธิภาพมากขึ้น อีกทั้งในพรรคก็ได้มีการพูดคุยถึงบุคคลที่เหมาะสมในการเป็นหัวหน้าพรรคนใหม่ แต่ยังเปิดเผยไม่ได้” 

แม้ก่อนหน้านี้ พิธา จะให้สัมภาษณ์ว่า ตนเหมาะสมจะเป็นหัวหน้าพรรคนใหม่ ศิริกัญญา กล่าวว่า ต้องขอขอบคุณ แต่ขีดเส้นใต้ว่า พิธา พูดว่า “เป็นหนึ่งในคนที่เหมาะสม” แสดงว่า ในใจของพิธาน่าจะมีหลายคน ดังนั้นรอวันที่ 23 ก.ย. จึงจะได้ทราบกัน 

ศิริกัญญา กล่าวต่อว่า ส่วนตัวนั้น บุคคลที่เหมาะสมที่สุดคือ ‘ชัยธวัช ตุลาธน’ รักษาการเลขาธิการพรรค เพราะ ชัยธวัช อยู่เบื้องหลังงานสภาฯ ตลอด 4 ปีที่ผ่านมา พบปะกับพรรคร่วมทั้งฝ่ายรัฐบาล และฝ่ายค้านมาตลอด ถ้าจะมาเป็นผู้นำฝ่ายค้านก็ถือว่า มีความเหมาะสม 

สำหรับบทบาทของฝ่ายค้านต่อจากนี้ มองว่า จะทำงานด้วยความตื่นเต้นมากขึ้น หากรัฐบาลเริ่มต้นด้วยการทำงานได้ดี บทบาทของฝ่ายค้านอาจจะดูกร่อย แต่ตอนนี้ฝ่ายรัฐบาลยังเปิดพื้นที่ให้ฝ่ายค้านทำงานได้เรื่อยๆ เนื่องจากมีการทำผิดพลาด เราน่าจะทำหน้าที่ฝ่ายค้านได้เต็มศักยภาพ 

“ในฐานะที่ได้ตำแหน่งผู้นำฝ่ายค้านซึ่งเป็นสัญลักษณ์สำคัญในระบอบประชาธิปไตยว่า เราจะเป็นฝ่ายตรวจสอบที่เข้มแข็ง ทำงานเชิงรุก นำเสนอเรื่องราวที่เป็นประโยชน์กับการบริหารราชการแผ่นดิน เราจะทำงานเต็มที่ให้สมกับที่ พิธา ต้องลาออก และได้ตำแหน่งนี้มา” ศิริกัญญา กล่าว 

ขณะที่กระแสข่าว ปดิพัทธ์ สันติภาดา รองประธานสภาฯ คนที่ 1 จะย้ายซบพรรคเป็นธรรม ก็ต้องรอความชัดเจนวันที่ 23 ก.ย. ด้วยเช่นกัน เพราะเราอยู่ในภาวะสุญญากาศ มีเพียงรักษาการคณะกรรมการบริหารพรรค ต้องรอให้เลือกคณะกรรมการบริหารพรรคใหม่ยกชุด แล้วค่อยมาตัดสินใจกัน 

แม้จะมีหลายฝ่ายวิพากษ์วิจารณ์ว่าเป็นการเมืองเก่าด้วยการย้ายพรรคเสมือนเป็นกลเกมเล่ห์เหลี่ยม ศิริกัญญา ย้ำว่า เรื่องนี้ยังรู้ไม่ได้ว่าจะเกิดอะไรขึ้น ต้องรอกรรมการบริหารพรรค แต่ยืนยันว่า เราจะทำการเมืองโดยที่ไม่ได้ประนีประนอมกับหลักการประชาธิปไตย ถ้าสุดท้ายเป็นการตระบัดสัตย์ ทรยศกับประชาชนก็จะไม่ทำ 

โดยหลังจากที่มีข่าวก็ได้พูดคุยให้กำลังใจกับ ปดิพัทธ์ เพราะเรื่องเกี่ยวพันกับพวกเราทั้งคู่ จึงให้กำลังใจกันไปมา ยังเป็นแค่ข่าวลือ ยังไม่ใช่ข่าวจริง เพราะ ปดิพัทธ์ ก็ยังไม่ทราบว่าจะตกในที่นั่งแบบไหน ทั้งนี้ เมื่อถามถึงกระแสข่าวลือเรื่องหัวหน้าพรรคเพื่อไทยคือ แพทองธาร ชินวัตร และพรรคก้าวไกลคือ ศิริกัญญา ตันสกุล ซึ่งเป็นผู้หญิงทั้งคู่ ถือเป็นยุคใหม่ของการเมืองที่จะมีผู้นำจะเป็นผู้หญิงหรือไม่ 

ศิริกัญญา กล่าวว่า เป็นนิมิตหมายที่ดี ประชาชนคาดหวังว่า ผู้หญิงจะต้องขึ้นมาเป็นผู้นำพรรค เรามาในแนวทางที่ดีมาก ที่ผ่านมาเรามีหัวหน้าพรรคที่เป็นผู้หญิงอย่าง คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ แต่อาจจะยังไม่มากพอ อาจจะไม่ได้มีในพรรคการเมืองใหญ่ หาก แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย เป็นหัวหน้าพรรคเพื่อไทย คงจะเป็นนิมิตรหมายใหม่ของการเมืองไทยว่าจะต้องไม่เป็นการเมืองแบบ “ชายแท้” ต่อไป 

ศิริกัญญา ยังอธิบายเพิ่มเติมอีกว่า การเมืองแบบชายแท้ค่อนข้างชายเป็นใหญ่ ใช้คำพูดที่แข็งกร้าว ไม่มีมุมมองเกี่ยวกับความหลากหลายทางเพศ การที่มีความสมดุลของเพศมากขึ้น จะทำให้สีสันของการเมืองเปลี่ยนไป และพร้อมยินดีหากพรรคเพื่อไทยมีแพทองธารเป็นหัวหน้าพรรค และตนเองเป็นหัวหน้าพรรคก้าวไกล

ทิ้งคำตอบไว้

กรุณาใส่ความคิดเห็นของคุณ!
กรุณาใส่ชื่อของคุณที่นี่