‘สามารถ’ อดีตผู้ช่วย รมว.ยุติธรรม มั่นใจ คะแนนก้าวไกลหายเกลี้ยง หากจับมือเพื่อไทยร่วม รบ.หลัง สว.หมดอายุ แนะ ก้าวไกลต้องตรวจสอบ รบ.อย่างเข้มแข็ง ถึงจะเรียกศรัทธาคืนได้
วันที่ 23 พ.ย. สามารถ เจนชัยจิตรวนิช อดีตผู้ช่วยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ได้แสดงความเห็นผ่านรายการสามารถ 5 นาทีทางเฟซบุ๊ก สามารถ เจนชัยจิตรวนิช และช่องทาง TikTok: jopstoploss ถึงกรณีที่ ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานคณะก้าวหน้า เปิดเผยในรายการข่าว รายการหนึ่งว่า ได้ไปพบคุณทักษิณมาจริ จึงทำให้หลายคนพยายามออกมาบอกว่า พรรคเพื่อไทยจะจับมือกับพรรคก้าวไกลในช่วงปีหน้า หรือรอ สว.หมดวาระ เพื่อจะฟื้นคะแนนความนิยมของประชาชน
“ผมขอบอกว่าใครคิดแบบนั้นก็ ตลกแล้วฃ ที่พูดอย่างนั้นคือ ตัวหลอก มันไม่ใช่เรื่องจริง ผมขอย้อนให้เห็นว่าเวลาเลือกตั้งซ่อมที่ผ่านมาทั้ง 2 ครั้ง การเลือกตั้งซ่อมนายก อบจพรรคก้าวไกลก็แพ้พรรคเพื่อไทย ถึงแม้จะไม่ได้ส่งในนามพรรค ส่งในนามบุคคล แต่ก็รู้อยู่ว่า คนลงแข่งเป็นคนของพรรคก้าวไกล และเมื่อวันที่ 19 พ.ย. ที่ผ่านมา มีการเลือกตั้งซ่อมนายก อบต.แก่งเสี้ยน จ.กาญจนบุรี เนื่องจากมีการให้นายก อบต คนเดิม หลุดเนื่องจากมีคำพิพากษาล้มละลาย แต่สุดท้ายนายกคนเดิมก็มาสมัครแข่งด้วย แต่แพ้ ผมขอไม่พูดถึงเพราะได้คะแนนร้อยกว่าคะแนน”
สามารถ กล่าวต่อว่า ผู้สมัคร 2 คนคือ คนหนึ่งมาจากคณะก้าวหน้า คือ คุณสมชาย ลงในนามคณะก้าวหน้า อีกคนเป็นผู้หญิง คือ นางอำไพ หรือ รองเอ้ ฃคนนี้สังกัดพรรคเพื่อไทย เพราะว่าลงในทีมพรรคพลังกาญ วันนี้เห็นชัดว่า คนที่ลงในนามคณะก้าวหน้า เอารูปคุณธนาธรมาแปะใช้ในการหาเสียง แปะป้ายกันเต็มที่ ปรากฎว่าผลการเลือกตั้ง ทีมพลังกาญ หรือ รองเอ้ นางอำไพ ได้คะแนน 2,004 อีกคนจากคณะก้าวหน้าได้คะแนน 1,135 กว่า ชนะคะแนนห่างกันเกือบ พันคะแนน วันนี้คะแนนความนิยมของนายธนาธรได้หายไปแล้ว พูดง่ายๆ ถ้าเป็นพระเครื่องนี่พุทธคุณหายไปหมดแล้วผีไม่กลัว
“สิ่งสำคัญที่สุด ผมบอกว่าวันนี้ ถ้าใครที่คิดบอกว่าพรรคก้าวไกลจะไปจับมือกับพรรคเพื่อไทย นั่นคือการหลอกพรรคก้าวไกล เพราะถ้าพรรคก้าวไกลบ้าจี้ไปจับมือกับพรรคเพื่อไทยเมื่อไหร่นั้น การเลือกตั้งครั้งหน้าพรรคก้าวไกลแพ้พรรคเพื่อไทยหมดรูป ตามแผนกลยุทธ์จักจั่นลอกคราบ วันนี้เราจะเห็นได้ว่า พรรคก้าวไกลไม่ยอมตกเป็นเบี้ยให้พรรคเพื่อไทย ได้ส่งขุนพลออกมาแล้วก็คือนายรังสิมันต์ โรม กับนายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร ออกมาโจมตีนายเศรษฐา ทวีสิน ในเรื่องของการที่ออกมาพูดว่าจะแต่งตั้งโยกย้ายตำรวจในสิ้นเดือนนี้ หลังนายเศรษฐาไปพูดในที่ประชุมพรรคเพื่อไทยว่า เดี๋ยวก็มีคนสมหวัง มีคนผิดหวัง แต่คนที่สมหวัง ก็มีอยู่ในห้องนี้แปลว่า สส.พรรคเพื่อไทย ฝากผู้กำกับมาหรือเปล่า”นายสามารถ กล่าว
นายสามารถ กล่าวต่อว่า การที่พรรคก้าวไกลส่งขุนพลออกมาอัดนายกฯมันมีนัยยะ พรรคก้าวไกลไม่ได้มาแข่งกับพรรคพลังประชารัฐ ไม่ได้แข่งกับพรรครวมไทยสร้างชาติ และไม่ได้แข่งกับพรรคประชาธิปัตย์ แต่พรรคก้าวไกลนั้น แข่งกับพรรคเพื่อไทย โดยสภาพอยู่แล้ว นั่นก็คือสิ่งที่ตนขอบอกเลยว่า วันนี้พรรคก้าวไกลคนที่เป็นส.ส. ถ้าอยากจะเป็น สส.ต่อในสมัยหน้า ท่านต้องกล้าพูดถึงคนชั้น 14 ท่านต้องแสดงให้เห็นว่าท่านไม่ได้อยู่ภายใต้อาณัติของนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ แล้วเพื่อที่จะทำให้ความนิยมประชาชนนั้นกลับมา ไม่ใช่ที่ท่านบอกว่า ไปจับมือกับพรรคเพื่อไทย เพื่อไปเอาคะแนนนิยมฝั่งประชาธิปไตย ตอนนี้มันไม่มีแล้ว
นายสามารถ กล่าวด้วยว่า วันนี้ทุกคนคือประชาธิปไตยหมด วาทะกรรมนั้นมันไม่เกิดขึ้นแล้ว เห็นพรรคเพื่อไทยเขาพูดวาทะกรรมเหล่านี้หรือไม่ เขาไม่พูดแล้ว ตนขอบอกพรรคก้าวไกลว่า ถ้าท่านอยากจะเรียกศรัทธาคืนมา ท่านต้องตรวจสอบรัฐบาลอย่างเข้มแข็ง วันนี้ศาลรัฐธรรมนูญไม่รับคำร้องของคุณเรืองไกร เพราะมันผิดช่องทาง ประชาชนคงต้องฝากพรรคก้าวไกลยื่นแทน