ปธน.เยอรมนี มองไทยเป็นตลาดที่น่าตื่นเต้น ! โฆษก กต. เผย ไทยเร่งเจรจา FTA ไทย-สหภาพยุโรป คาดแล้วเสร็จในปี 2568
วันที่ 26 ม.ค. ที่กระทรวงการต่างประเทศ กาญจนา ภัทคโชค อธิบดีกรมสารนิเทศ ในฐานะโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ เปิดเผยถึงการเดินทางเยือนไทยอย่างเป็นทางการของ ‘ฟรังค์-วัลเทอร์ ชไตน์ไมเออร์’ ประธานาธิบดีสหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมนีในฐานะแขกของรัฐบาล ระหว่างวันที่ 24-26 ม.ค.
กาญจนา กล่าวว่า ไม่ได้มีการเยือนไทยของประธานาธิบดีเยอรมันกว่า 22 ปี นับตั้งแต่ปี 2545 นอกจากเข้าพบ เศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ยังมีการจัดเลี้ยงรับรองอย่างเป็นทางการ โดยมีการหารือทั้งสองฝ่ายเพื่อส่งเสริมการค้า และการลงทุนในด้านอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้า เศรษฐกิจหมุนเวียน สภาพภูมิอากาศ และการพัฒนาที่ยั่งยืน เพื่อหวังยกระดับไปสู่หุ้นส่วนทางเศรษฐกิจในอนาคต
กาญจนา เผยว่า การหารือระหว่าง ภาครัฐ ภาคธุรกิจ และภาคเอกชนระหว่างไทย และเยอรมนี มีการเน้นย้ำในเรื่องของการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศเป็นอย่างมาก โดยมี จักรพงษ์ แสงมณี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการต่างประเทศ และม.ล.ชโยทิต กฤดากร ผู้แทนการค้าไทย ได้เข้าหารือกับภาคธุรกิจเยอรมนี มิชาเอล เคลเนอร์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเศรษฐกิจและการปฏิบัติการด้านสภาพภูมิอากาศ เพื่อแลกเปลี่ยนมุมมองด้านการค้า และการลงทุนของภาคเอกชน 2 ฝ่าย
กาญจนา เปิดเผยว่า ซไตน์ไมเออร์ มองว่า ประเทศไทยเป็นตลาดที่น่าตื่นเต้น และมีโอกาสอีกมากมายสำหรับนักลงทุนเยอรมัน และได้มีการกล่าวถึงความมุ่งมั่นของทั้งสองฝ่ายในการเจรจาเขตการค้าเสรี (FTA) ของไทย และสหภาพยุโรป (EU) โดยวางเป้าหมายให้แล้วเสร็จในปี 2568 ซึ่งจะช่วยเพิ่มโอกาสให้กับนักลงทุนทั้งสองฝ่าย
ขณะที่โอกาสที่ชัดเจนซึ่งสะท้อนจากทางภาคเอกชนคือการเปลี่ยนผ่านเป็นพลังงานสีเขียว (Green Transition) เพื่อให้นักลงทุนเยอรมันมาขยายผลเกี่ยวกับเทคโนโลยีสีเขียว (Green Technology) ต่อไปในประเทศไทย
นอกจากนี้ ประธานาธิบดีเยอรมันจะเดินทางไปยัง จ.อุบลราชธานี เพื่อไปเยี่ยมโรงไฟฟ้าทุ่นลอยน้ำไฮบริด ของเขื่อนสิรินธร ซึ่งถือว่าเป็นแหล่งผลิตไฟฟ้าจากพลังงานน้ำ และแสงอาทิตย์ แห่งใหญ่ของโลก รวมถึงไปอุทยานแห่งชาติผาแต้ม ซึ่งจะสามารถทำให้หน่วยราชการของไทยขยายผลการเยือนของประธานาธิบดีเยอรมนีในแง่การท่องเที่ยว อุตสาหกรรมยานยนต์ และอื่นๆ ต่อไป ฯลฯ