ยังไม่รู้ ใคร หมู่ จ่า และเสนาบดี “ครม.แพทองธาร” แม้พรรคร่วมรัฐบาลฃจะต้อง ส่งรายชื่อให้กับ “หมอมิ้งค์” นพ.พรหมินทร์ เลิศสุริย์เดช อดีตเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ในฐานะที่ได้รับมอบหมายในการรวบรวมรายชื่อว่าที่รัฐมนตรีจากพรรคร่วมรัฐบาลแล้วก็ตาม โดยในส่วนของพรรคที่มีกระแสข่าวว่า “นิ่ง” มีเพียง 2 พรรค คือ ค่ายสีน้ำเงิน “ภูมิใจไทย” และพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) ที่มีแรงกระเพื่อมน้อยสุด
ต่างจากพรรคพลังประชารัฐของ “ลุงป้อม” พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ที่ถูก “ผู้กองธรรมนัส” ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า เลขาธิการพรรคฯ หักดิบขน 30 สส.มายืนอีกฝั่ง ทิ้ง “ลุงบ้านป่า” ให้โดดเดี่ยว เหลือพลพรรคเพียง 10 คน
แต่มีหรือที่ “ลุงบ้านป่า” อดีตบูรพาพยัคฆ์เก่าจะยอมนิ่งเฉย ว่ากันว่า มีการเปรยกับแวดวงคนใกล้ชิดว่า เคยเจอศึกหนักมามากกว่านี้ และก็ยังสบายดี หากกระนั้น “ทักษิณ ชินวัตร -เพื่อไทย” ก็ต้องไม่ลืมว่า “ลุงป้อม” พล.อ.ประวิตร ยังมีอิทธิฤทธิ์ และอาวุธลับในมืออีกเยอะที่รอจังหวะใช้ “ฤทธิ์มีดสั้น” ที่ไม่เคยบินพลาดเป้าหมาย ปลิดชีพศัตรูมานับครั้งไม่ถ้วน ก็ต้องมาดูกันว่า นับจากนี้ชะตากรรมทางการเมืองของลุงบ้านป่าจะเป็นอย่างไร
เชือดนิ่ม ๆ มติเอกฉันท์ “ไทยสร้างไทย” ขับ “สุภาพร สลับศรี” สส.เขต 1 จ.ยโสธร พ้นจากสมาชิกรายแรก หลัง 6 สส.ลงคะแนนสวนมติพรรคโหวต “แพทองธาร” นั่งนายกฯ เมื่อวันที่ 16 ส.ค.ที่ผ่านมา โดยคณะกรรมการวินัยและจริยธรรมของพรรคฯ ชี้ว่า มีพฤติการณ์ขัดอุดมการณ์พรรค ขัดจริยธรรมร้ายแรงเปิดตัวร่วมงานพรรคการเมืองอื่นอย่างเปิดเผย
แม้ก่อนหน้านี้จะมีการเชิญ “สุภาพร” มาให้ข้อมูล 2 ครั้ง แต่ไม่ให้ความร่วมมือ โดยพฤติกรรมของ “สุภาพร” ที่คณะกรรมการเห็นว่า เข้าข่ายกระทำผิดจริยธรรมอย่างร้ายแรง ซ้ำซากหลายครั้ง โดยไม่สำนึกว่าตนเองได้เป็น สส.สมัยแรกในนามพรรคไทยสร้างไทย คือ จากการตรวจสอบผลการลงคะแนนเสียงในการลงมติในสภาผู้แทนราษฎรหลายครั้ง
พบว่า สส. สุภาพร ได้ลงคะแนนเสียงตรงกันข้ามกับมติพรรคร่วมฝ่ายค้านโดยตลอด,ไปปรากฏตัวร่วมงานกับพรรคอื่นอย่างเปิดเผย เพื่อแสดงความฝักใฝ่พรรคดังกล่าว โดยไม่เคยแจ้งเหตุผลต่อพรรคฯต้นสังกัด ทำให้เกิดความเข้าใจในทางลบของสมาชิกพรรคไทยสร้างไทย และทำให้บางคนเข้าใจว่าอาจจะได้รับประโยชน์จากพรรคการเมืองอื่นหรือไม่
ส่วนอีก 5 คนที่เหลือคือ ฐากร ตัณฑสิทธิ์ สส.บัญชีรายชื่อ, ชัชวาล แพทยาไทย สส.ร้อยเอ็ด เขต 7, รำพูล ตันติวณิชชานนท์ สส.อุบลราชธานี เขต 9, หรั่ง ธุระพล สส.อุดรธานี เขต 3
และอดิศักดิ์ แก้วมุงคุณทรัพย์ สส.อุดรธานี เขต 6 คณะกรรมการวินัยและจริยธรรมของพรรคจะได้นัดหมายเป็นรายบุคคล ให้ได้ชี้แจงเหตุผลประกอบด้วย
ครบรอบอายุ 38 ปีเต็ม “แพทองธาร ชินวัตร” นายกรัฐมนตรี ช่วงเช้านายกฯ ได้เดินทางไปทำบุญเป็นการส่วนตัวที่วัดสระเกศราชวรมหาวิหาร (ภูเขาทอง) พร้อมครอบครัว นายทักษิณ ชินวัตร คุณหญิงพจมาน ดามาพงษ์ นายปิฎก สุขสวัสดิ์ สามีพร้อมลูกสาว นายพานทองแท้ ชินวัตร พี่ชาย น.ส.พินทองทา ชินวัตร คุณากรณ์วงศ์ พี่สาว และบรรดาญาติ เพื่อนสนิท ร่วมทำบุญ ถวายผ้าไตร จีวร สังฆทาน และภัตตาหารเพล แก่พระสงฆ์ 9 รูป เพื่อความเป็นสิริมงคล
โดยนายทักษิณ น.ส.แพทองธาร นายพานทองแท้ และนายบรรณพจน์ ดามาพงศ์ พี่ชายคนโตของคุณหญิงพจมาน ได้ร่วมสนทนาธรรมกับพระพรหมสิทธิ เจ้าอาวาสวัดสระเกศราชวรมหาวิหาร
ปิดสวิตช์ ป.ที่ 3 จริงหรือ “รังสิมันต์ โรม” สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน ตอบเมื่อถูกถามปิดสวิตช์ ป.ที่ 3 แล้วหรือยัง ว่า ปิดจริงหรือเปล่า คงต้องรอดู ต้องบอกว่า “ป. 1 ปิดจริงหรือไม่ หรือเป็นผู้มีอำนาจบางอย่าง ยังควบคุมและชักใย “ป.ที่ 2 ก็เงียบ ๆ ไป แต่ก็ยังมีคดีทุจริตอะไรต่าง ๆ รัฐบาลนี้จะไม่ดำเนินการอะไรเลยใช่หรือไม่
“ส่วน ป.3 อยากจะถามตรง ๆ บ้านป่ารอยต่อเป็นมูลนิธิใช่หรือไม่ เฮ้ย มูลนิธิไม่น่ามีวัตถุประสงค์ ทำกิจกรรมทางการเมืองอะไรได้ อยากจะทราบว่า กระทรวงมหาดไทย หรือรัฐบาลเอง จะไม่ดำเนินการอะไรเลยเหรอ ปล่อยให้ใช้มูลนิธิขับเคลื่อน เคลื่อนไหวทางการเมือง มันแปลก ๆ อยู่นะ ขอฝากไว้เท่านี้แล้วกัน” นายรังสิมันต์ กล่าว
ชัดกว่ากระจก “หมออ๋อง” ปดิพัทธ์ สันติภาดา อดีตสมาชิกพรรคเป็นธรรม และอดีตรองประธานสภาผู้แทนราษฎร นำ “โฟล์ค“ ณฐชนน ชนะบูรณะศักดิ์ เดินทางมายื่นเอกสารลงสมัคร เลือกตั้งซ่อมสส.พิษณุโลก ในนามพรรคประชาชนเป็นคน โดยได้เบอร์ 1 ไปครอง ท่ามกลางกองเชียร์มา ให้กำลังใจ ในการเปิดรับสมัครวันแรกจำนวนมาก
“โฟล์ค”ณฐชนน บอกว่า ไม่ตื่นเต้น พร้อมสืบทอดนโยบาย ภารกิจการทำงานต่าง ๆ จากก้าวไกล และจะทุกอย่างทำเพื่อประชาชน เอาประชาชนเป็นที่ตั้ง
“การเลือกตั้งซ่อมครั้งนี้ นอกจากจะเป็นการแข่งขันระหว่างพรรคเพื่อไทย และพรรคประชาชนแล้ว และเป็นการแข่งกันระหว่างรัฐบาลและฝ่ายค้านด้วย ต้องมาดูว่าการทำงานที่ผ่านมาของเราและการทำงานที่ผ่านมาของพรรคเพื่อไทย ประชาชนจะให้โอกาสใครในสนามนี้มากกว่ากัน”
ปิดท้ายที่ “ไหม” ศิริกัญญา ตันสกุล รองหัวหน้าพรรคประชาชน ตั้งข้อสังเกต การเดินหน้าโครงการดิจิทัลวอลเล็ตของรัฐบาล ที่ระบุว่า จะมีการปรับเงื่อนไข เป็นการแจกให้กับกลุ่มเปราะบาง ที่ลงทะเบียนไว้ก่อนเป็นอันดับแรก วงเงิน 122,000 ล้านบาท ซึ่งเป็นงบประมาณรายจ่ายฯ 2567 เพิ่มเติม และเป็นการแจกเป็นเงินสด ผ่านบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ หรือ บัตรคนจนในครั้งเดียว จำนวน 10,000 บาท จะต้องให้คณะรัฐมนตรีชุดใหม่ยืนยันก่อนผ่านการแถลงนโยบายรัฐบาลต่อรัฐสภา
“ทางออกดังกล่าว ถือเป็นทางออกที่มีการพูดถึงกันมาแล้วในกรณีที่ต้องใช้งบประมาณรายจ่ายเพิ่มเติม ซึ่งไม่สามารถที่จะใช้ข้ามปีได้ และจะต้องใช้ให้หมดภายใน 30 กันยายน 2567 ร่วมกับงบกลางบางส่วน ดังนั้น จึงไม่รู้สึกแปลกใจเท่าใด และสามารถคาดเดาได้อยู่แล้ว”
การยอมถอยของพรรคเพื่อไทยจากการเปลี่ยนวิธีแจกจากเงินดิจิทัล เป็นเงินสด ท่ามกลางกระแสความนิยมที่ค่อย ๆ ลดลง และข้อเรียกร้องของชาวบ้าน ภายใต้การนำของนายกรัฐมนตรีคนที่ 31
อ่านข่าว : อย.เปิดเช็กขั้นตอนขึ้นทะเบียนชุดตรวจฝีดาษลิง
สงครามแยกแผ่นดินเมียนมาสะเทือนไทย (ค่าเงินจ๊าดอ่อน)
“ภูมิธรรม”ยันแจกต่อ “ดิจิทัลวอลเล็ต” เล็งปรับแผนจ่ายเงินหมื่น
