วันนี้ (24 ธ.ค.2567) น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) โดยก่อนเข้าประชุม ผู้สื่อข่าวได้สอบถามถึงกรณีที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา แจ้งว่า นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง ไม่ผ่านคุณสมบัติที่จะเข้ารับตำแหน่งประธานคณะกรรมการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ว่า ต้องว่ากันไปตามกระบวนการ ซึ่งนายกรัฐมนตรีไม่ได้ตอบคำถามว่าจะต้องล้มกระบวนการและสรรหาใหม่หรือไม่
ด้านนายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.คลัง กล่าวถึงกรณีที่ชื่อของนายกิตติรัตน์ไม่ผ่านคุณสมบัติว่า ต้องพูดคุยกันเพื่อเร่งเสนอชื่อใหม่ ซึ่งการเสนอชื่อมาจากคลัง และธนาคารแห่งประเทศไทย โดยต้องดูว่าครบองค์ประกอบหรือไม่
ส่วนจะต้องส่งชื่อสำรองไปตรวจสอบคุณสมบัติคู่ขนานหรือไม่นั้น นายพิชัย กล่าวว่า ต้องหารือว่าองค์ประกอบครบหรือไม่ ซึ่งคนเก่าจะต้องรักษาการไปก่อน และเร่งหาคนใหม่มาแทน เพื่อไม่ให้ส่งผลกระทบต่อการจัดประชุม
ก่อนหน้านี้ นายสถิตย์ ลิ่มพงศ์พันธุ์ อดีตปลัดกระทรวงการคลัง ในฐานะประธานกรรมการคัดเลือกบอร์ด ธปท. ระบุว่าผลการสรรหานายกิตติรัตน์ แทนนายปรเมธี วิมลศิริ ประธานกรรมการแบงก์ชาติคนล่าสุดสิ้นสุดวาระดำรงตำแหน่ง เมื่อวันที่ 11 ก.ย.ที่ผ่านมา
อย่างไรก็ตาม ได้มีข้อถกเถียงเรื่องคุณสมบัติของนายกิตติรัตน์ และมีการตรวจสอบคุณสมบัติก่อน เพราะเป็นผู้ที่ต้องเข้าร่วมประชุม ครม.
ส่วนวาระ ครม.ที่น่าสนใจวันนี้ เช่น กระทรวงการคลังเสนอโครงการสนับสนุนเงิน 10,000 บาท ให้แก่ผู้สูงวัยที่มีอายุเกิน 60 ปี คาดว่ามีผู้ได้รับสิทธิประมาณ 3.2 ล้านคน วงเงินราว 3.2 หมื่นล้านบาท, การเสนอมาตรการ Easy e-Receipt เพื่อเป็นการสนับสนุนการบริโภคในประเทศ ซื้อสินค้าและบริการ เพื่อนำไปลดหย่อนภาษีสูงสุด 50,000 บาท
สำหรับปีภาษี 2568 เริ่มตั้งแต่วันที่ 15 ม.ค.-28 ก.พ.2568 โดยสินค้าที่ไม่เข้าร่วมโครงการ ได้แก่ สุรา เบียร์ ไวน์ ยาสูบ ค่าบริการบรรจุไฟฟ้ายานพาหนะ ซื้อรถจักรยานยนต์ ซื้อจักรยาน ค่าซื้อเรือ ค่าบริการไฟฟ้า ค่าบริการน้ำประปา ค่าเบี้ยประกัน ค่าบริการมือถือ ค่าบริการอินเทอร์เน็ต ทองคำ
รวมถึงเสนอออกสลากการกุศล วงเงิน 10,000 ล้านบาท งวดละ 11 ล้านฉบับ เป็นระยะเวลา 2 ปี วัตถุประสงค์เพื่อนำเงินไปใช้ในโครงการ 1 อำเภอ 1 ทุนการศึกษา (ODOS) ช่วยให้เด็กและเยาวชน มีโอกาสไปศึกษาต่างประเทศ คาดเริ่มออกสลากได้ตั้งแต่เดือน ก.พ.
นอกจากนั้น จะเสนอร่างพระราชกฤษฎีกาออกตามความในประมวลรัษฎากร ว่าด้วยการลดอัตรา และยกเว้นรัษฎากร ซึ่งเป็นมาตรการภาษีในการสนับสนุนคนไทยที่มีศักยภาพที่ทํางานในต่างประเทศ ให้กลับเข้ามาทํางานในประเทศ
ด้านกระทรวงมหาดไทย จะเสนอแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการระดับสูงของกระทรวงมหาดไทย รวม 32 ตำแหน่ง แบ่งเป็นผู้ว่าราชการจังหวัด 25 ตำแหน่ง และผู้ตรวจราชการกระทรวง 7 ตำแหน่ง เพื่อทดแทนตำแหน่งที่ว่าง
ทั้งนี้ ต้องจับตาว่ากระทรวงแรงงานจะมีการเสนอ ครม.ให้เห็นชอบการพิจารณาปรับค่าจ้างขั้นต่ำ 400 บาท ภายหลังมีการประชุมบอร์ดค่าจ้างไตรภาคี ครั้งที่ 11/2567 ที่กระทรวงแรงงาน เมื่อวานนี้ (23 ธ.ค.) โดยมีการพิจารณาปรับค่าจ้างขั้นต่ำ 400 บาท ใน 4 จังหวัด 1 อำเภอ ได้แก่ ภูเก็ต ฉะเชิงเทรา ชลบุรี ระยอง และ อ.เกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี และได้เห็นชอบการกำหนดอัตราค่าจ้างขั้นต่ำ ปี 2568 โดยให้มีผลใช้บังคับตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค.68 เป็นต้นไป
อ่านข่าว : สอบคุณสมบัติ “กิตติรัตน์” นั่งปธ.บอร์ดแบงก์ชาติยาวถึงต้นปี