พรรคพลังปวงชนไทย
เพื่อคนไทยทั้งแผ่นดิน

เส้นทางศักดิ์ศรี “ปานปรีย์ “ก่อนหลุด “รองนายกฯ” รัฐบาลนิด1 /1

บ้านเลขที่ 101 ถนนพหลโยธิน 5 (ราชครู) แขวงสามแสนใน เขตพญาไทย กรุงเทพมหานคร ลงวันที่ 28 เมษายน 2567 เป็นหนังสือฉบับสุดท้ายของ นายปานปรีย์ พหิทธานุกร ถึง “นายกรัฐมนตรี” ขอลาออกจาก รมว.ต่างประเทศ ใน “รัฐบาลเศรษฐา 1/1”

ใจความในเอกสารลาออกของนายปานปรีย์ ระบุชัดเจนว่า เพื่อเปิดทางให้ท่านอื่นเข้ามาดํารงตําแหน่งแทน และไม่น่าจะเกี่ยวข้องกับการไม่มีผลงาน โดนได้ไล่เรียงผลงานไม่ว่าจะเรื่องการตอบสนองนโยบายการทูตเศรษฐกิจเชิงรุกมีนักลงทุนต่างชาติสนใจมาลงทุนมากขึ้น ไทยหวนกลับมาขึ้นบนจอเรดาร์ของโลก มีมิตรประเทศเพิ่มขึ้น ช่วยตัวประกันคนไทยในอิสราเอลกลับไทยได้ถึง 23 คน แรงงานไทย 8,000 คน 

อ่านข่าว : เพื่อไทยทาบ”มาริษ เสงี่ยมพงษ์” เต็งหนึ่งว่าที่ “รมว.ต่างประเทศ”

นอกจากนี้ ช่วยคนไทยจากเล่าก์ก่ายในเมียนมาอีก 1,000 คน เปิดวีซาฟรีกับหลายประเทศ การให้ความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมแก่ชาวเมียนมา ฟื้นความสัมพันธ์กับอาเซียน สหภาพอียู อินเดีย และประเทศมหาอํานาจ ทั้งสหรัฐฯ และจีน จนเกิดการเจรจาลดความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์โลกในประเทศไทยอีก  

พร้อมทิ้งท้าย หวังว่าการปรับคณะรัฐมนตรีของนายกรัฐมนตรีครั้งนี้ จะช่วยให้การบริหารราชการแผ่นดิน มีประสิทธิภาพมากขึ้น โปร่งใส และรักษาผลประโยชน์ของชาติต่อไป

อ่านข่าว : โปรดเกล้าฯ ครม.เศรษฐา 1/1 “พิชัย” คุม “คลัง” ดัน”สมศักดิ์”นั่ง สธ.แทน”ชลน่าน

หลายคนที่ติดตามการทำงานของ “กระทรวงการต่างประเทศ” ในช่วงที่ผ่านมา ไม่ได้เป็นกระทรวงที่ไร้ผลงาน และสามารถขับเคลื่อนตามนโยบายได้ดีพอสมควร แต่การปรับครั้งนี้นั้น นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ยอมรับว่า ได้มีการส่งข้อความขอโทษถึงนายปานปรีย์และได้คุยกันก่อนปรับ ครม.แล้ว

ก่อนให้เหตุผลที่ไม่ให้ดำรงตำแหน่งรองนายกฯ เนื่องจากยังสามารถประสานกับหลายหน่วยงาน ผลักดันเรื่องต่าง ๆ ได้ ขณะเดียวกันยอมรับว่าได้เตรียมบุคคลที่มีความเหมาะสมเอาไว้แล้ว 

อ่านข่าว : “เศรษฐา” ขอโทษ “ปานปรีย์” ยันรับผิดชอบคนผิดหวัง แย้มมีคนใหม่

รู้จัก”ดร.ปานปรีย์” แห่งซอยบ้านราชครู

ปานปรีย์ พหิทธานุกร มีชื่อเล่นว่า “ตั๊ก” เกิดเมื่อวันที่ 20 สิงหาคม พ.ศ.2500  ครอบครัวของปานปรีย์เป็นข้าราชการ เป็นบุตรของปรีชา และบุญทิวา พหิทธานุกร สำเร็จการศึกษาระดับมัธยมศึกษาจากโรงเรียนอัสสัมชัญ (รุ่น 90) 

จากนั้นได้เข้าศึกษาต่อและจบปริญญาตรีที่คณะคณะนิติศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ปริญญาโทด้านรัฐประศาสนศาสตร์จากมหาวิทยาลัยเซาเทิร์นแคลิฟอร์เนีย และปริญญาเอกด้านการบริหารจัดการภาครัฐจาก Claremont Graduate University สหรัฐอเมริกา

“นายปานปรีย์ พหิทธานุกร” ถือเป็นอีกหนึ่งนักการเมืองที่คร่ำหวอด ในทุกแวดวง ทั้งด้านเศรษฐกิจ การค้าการลงทุน และการต่างประเทศ ผ่านการทำงานกับอดีตนายกรัฐมนตรี มาหลายยุคหลายสมัย นับตั้งแต่รัฐบาล พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์

เข้าสู่ยุค พล.อ.ชาติชาย ชุณหวัณ และรัฐบาล พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ เคยเป็นอดีตผู้แทนการค้าไทย, ผู้เชี่ยวชาญด้านเศรษฐกิจและนโยบายภาครัฐ, หัวหน้าคณะเจรจาจัดทำเขตการค้าเสรี (ประเทศอินเดีย และกลุ่มประเทศ BIMST-EC), เป็นผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงอุตสาหกรรม วางแผนแก้ไขปัญหาการขาดแคลนน้ำ เพื่ออุตสาหกรรมใน Eastern Seaboard 

อ่านข่าว : เช็กชื่อว่าที่ 6 รัฐมนตรีใหม่ปรับครม.เศรษฐา 1/1

“นายปานปรีย์” เคยให้สัมภาษณ์กับ “ไทยพีบีเอสออนไลน์” หลังก้าวเข้ามารับหน้าที่บริหารกระทรวงการต่างประเทศในช่วง 4 เดือนแรกของการทำงาน โดย หลังเข้ารับตำแหน่งก็เจองานช้างวัดฝีมือการเจรจาระหว่างประเทศทันที จากสถานการณ์ความขัดแย้งในรัฐอิสราเอล เมื่อวันที่ 8 ต.ค.2566 ในเหตุการณ์กลุ่มฮามาส โจมตีอิสราเอล ทำให้มีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บจำนวนมาก

ครั้งนั้นรัฐบาลไทย จัดเที่ยวบินอพยพ รวม 35 เที่ยวบิน อพยพคนไทยกลับจากอิสราเอลได้ที่ลงทะเบียนขอเดินทางกลับ จำนวน 10,000 ราย และมีการเปิดศูนย์พักพิงตามความต้องการของแรงงาน จำนวน 9 แห่ง

เปิดเส้นทางการทำงาน – สู่ถนนการเมือง 

หากจะไล่เรียงไทม์ไลน์ชีวิตการทำงานของนายปานปรีย์ ให้ดียิ่งขึ้นมาเริ่มจาก หลังจาก พล.อ.ชาติชายถูกปฏิวัติ ปานปรีย์ก็ตัดสินใจลาออกจากราชการ ไปอยู่ที่อังกฤษกับ พล.อ.ชาติชาย ก่อนกลับประเทศไทยมาทำงานในภาคเอกชน มีรายละเอียดดังต่อไปนี้ 

  • ปี 2539 : นายปานปรีย์ ได้รับแต่งตั้งเป็นที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี ด้านเศรษฐกิจและการต่างประเทศในรัฐบาลของ พล.อ. ชวลิต ยงใจยุทธ
  • ปี 2545 : เป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร แบบบัญชีรายชื่อ และรองหัวหน้าพรรคชาติพัฒนา
  • ในปี 2546 : เป็นผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงพาณิชย์ ระหว่างปี 2546-2548 ได้รับมอบหน้าที่ให้เป็นหัวหน้าคณะเจรจาจัดทำเขตการค้าเสรี (ประเทศอินเดีย และกลุ่มประเทศ BIMST-EC)
  • ปี 2547 : เป็นผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงอุตสาหกรรม มีบทบาทสำคัญในการวางแผน แก้ไขปัญหาการขาดแคลนน้ำ เพื่ออุตสาหกรรมใน Eastern Seaboard จนเป็นผลสำเร็จ
  • ปี 2548 : ได้รับแต่งตั้งเป็นผู้แทนการค้าไทย และได้รับมอบให้ทำหน้าที่ประธานกรรมการส่งเสริมการลงทุนและการค้าภายใต้กรอบความตกลงเขตการค้าเสรี ประธานกรรมการองค์การคลังสินค้า
  • ปี 2551 : เป็นรองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย อันดับ 1 รับผิดชอบในฐานะหัวหน้าทีมเศรษฐกิจ และเป็นกรรมการยุทธศาสตร์พรรค
  • ในปี 2556 : ได้รับแต่งตั้งเป็นประธานกรรมการ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน)

** นายปานปรีย์ เป็นบุคคลหนึ่งที่ถูกทาบทามให้รับตำแหน่งหัวหน้าพรรคไทยรักษาชาติ แต่ก็ไม่ได้ตอบรับเข้าทำหน้าที่ดังกล่าว

  • ในปี 2566 : ได้รับแต่งตั้งเป็นรองนายกรัฐมนตรี และ รมว.ต่างประเทศ ในรัฐบาลเศรษฐา ทวีสิน

ปัจจุบัน เดือน เม.ย.2567 หลังการปรับคณะรัฐมนตรี ในรัฐบาลเศรษฐา ทวีสิน ซึ่งประกาศอย่างเป็นทางการในราชกิจจานุเบกษา เมื่อวันที่ 28 เม.ย. นายปานปรีย์ พ้นจากตำแหน่งรองนายกรัฐมนตรี ให้ยังคงดำรงตำแหน่ง รมว.ต่างประเทศ หลังจากนั้นวันเดียวกัน “นายปานปรีย์” ลาออกจากทุกตำแหน่งในรัฐบาลเศรษฐา 1

อ่านข่าวอื่น ๆ

ราคาทองคำ เช้านี้ ติดลบ 150 คาดเฟดคงดอกเบี้ย แนะซื้อสะสม

คุยเปิดใจ “พิรุณ” อธิบดีกรมโลกร้อน กับภารกิจฝ่าหายนะโลกเดือด

เช็ก 22 พื้นที่ร้อนสุดปีนี้ พบบางจังหวัดทุบสถิติอดีตในรอบ 41 ปี

ทิ้งคำตอบไว้

อีเมล์ของคุณจะไม่ถูกเผยแพร่

This website uses cookies to improve your experience. We'll assume you're ok with this, but you can opt-out if you wish. Accept Read More