คนคอนแน่นพรึบสวนศรีธรรมาโศก เฮเชียร์ก้าวไกลเป็นรัฐบาล พิธาเป็นนายกฯ ‘พริษฐ์’ เชื่อก้าวไกลได้ ส.ส.ใต้แน่นอน ‘โรม’ ลั่น ก้าวไกลจะเป็นรัฐบาลที่ดีที่สุด สร้างประเทศที่เป็นธรรม ‘พิธา’ ขอหัวคะแนนธรรมชาติ ร่วมเป็น ‘กกต. ธรรมชาติ’ อย่าให้ใครปล้นชัยชนะประชาชน
วันที่ 8 พ.ค. 2566 พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล ปราศรัยบนเวทีคาราวานก้าวไกลปราศรัยใหญ่เมืองคอน พร้อมกับแกนนำพรรคก้าวไกลประจำคาราวานสายในใต้หล้า ได้แก่ รังสิมันต์ โรม โฆษกพรรคก้าวไกล, พริษฐ์ วัชรสินธุ ผู้จัดการการสื่อสารและการรณรงค์นโยบาย พรรคก้าวไกล และภคมน หนุนอนันต์ ผู้สมัคร ส.ส.บัญชีรายชื่อ รวมทั้งผู้สมัคร ส.ส.นครศรีธรรมราช ทั้ง 10 เขต ที่สวนศรีธรรมาโศกราช อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช มีประชาชนร่วมฟังปราศรัยอย่างคึกคักจนเต็มพื้นที่ แม้เก้าอี้ไม่เพียงพอ แต่หลายคนยอมนั่งพื้นและยืนฟังปราศรัย
14 พ.ค. นครศรีฯ อาจไฟดับทั้งเมือง เหตุเสาไฟล้มหลายต้น
ภคมน กล่าวว่า คนนครศรีฯ มากันมากขนาดนี้ สงสัยวันที่ 14 พฤษภาคม คงไฟดับทั้งเมือง เพราะเสาไฟฟ้าล้มหลายต้น ตนเป็นส่วนหนึ่งในคาราวานภาคใต้ วันนี้เป็นวันที่ 3 เดินทางมาหลายจังหวัด พบว่าประชาชนภาคใต้เดินทางมาให้กำลังใจแบบเกินความคาดหมาย เกินฝัน ในฐานะคนใต้ไม่คิดเลยว่าสิ่งที่หวังมานานจะได้เห็นในวันนี้ วันนี้ประชาชนทุกคนพร้อมใจลุกขึ้นบอกเลิกสัมปทานสิทธิและเสียงผูกขาดทางการเมือง ยิ่งคนนครศรีฯ มากันมากๆ ไม่ต้องห่วงว่าการเมืองภาคใต้จะเหมือนเดิม การเลือกตั้งครั้งนี้ไม่ใช่แค่การเปลี่ยน ส.ส. หรือเปลี่ยนนายกฯ หรือเปลี่ยนรัฐบาล แต่คือการเปลี่ยนประเทศไทยไปตลอดกาล
ยืนยันเลิกเกณฑ์ทหารไม่เท่ากับยกเลิกกองทัพ
พริษฐ์ กล่าวว่า เมื่อไม่นานมานี้มีพรรคการเมืองหนึ่งเผยแพร่คลิปที่สื่อสารในลักษณะกล่าวหาโจมตีนโยบายของพรรคก้าวไกลโดยไม่ตรงข้อเท็จจริง สื่อสารว่าพรรคก้าวไกลจะยกเลิกกองทัพ ซึ่งต้องย้ำเป็นรอบที่ล้านว่าการยกเลิกการเกณฑ์ทหารไม่เท่ากับการยกเลิกกองทัพ สิ่งที่พรรคก้าวไกลเสนอคือหากก้าวไกลเป็นรัฐบาล เดือนเมษายนที่ผ่านมาจะเป็นครั้งสุดท้ายที่ต้องมีการจับใบดำใบแดง จะเป็นครั้งสุดท้ายที่ต้องมีใครไปเป็นทหารทั้งที่ไม่อยากเป็น
และยืนยันว่าการยกเลิกการเกณฑ์ทหาร จะเป็นประโยชน์ต่อทุกฝ่าย ไม่ว่าจะเป็นเยาวชนหลายคนที่ฝันอยากทำอาชีพอื่น คืนสิทธิเสรีภาพคืนเวลาให้กับเยาวชนเหล่านั้น และยังเป็นประโยชน์สำหรับคนที่สมัครใจเป็นทหาร เพราะการยกเลิกบังคับเกณฑ์ทหารจะทำให้กองทัพเอาจริงเอาจังมากขึ้นกับการกำจัดปัญหาความรุนแรงในค่ายและการยกระดับคุณภาพชีวิตของพลทหารที่สมัครใจเข้าไปเป็นทหาร เพราะตราบใดที่ยังมีการบังคับเกณฑ์ทหารอยู่ กองทัพอาจไม่เป็นเดือดเป็นร้อนหรือเอาจริงเอาจังกับปัญหาในค่ายเท่าที่ควร เพราะรู้ว่าต่อให้คุณภาพชีวิตของพลทหารไม่ดี ต่อให้มีคนสมัครเข้ามาไม่เพียงพอ ก็บังคับคนมาเป็นทหารได้ ดังนั้นขอยืนยันกับทั้งคนที่อยากเป็นและคนที่ไม่อยากเป็นทหาร ว่าการยกเลิกการเกณฑ์ทหารจะเป็นประโยชน์สำหรับทุกฝ่าย และจะไม่กระทบต่อความมั่นคงของประเทศ เพราะยอดกำลังพลที่เราจะไปลดลงนั้นคือยอดที่ปัจจุบันไม่ได้ทำหน้าที่เกี่ยวกับความมั่นคง ไม่ว่าจะเป็น ‘ยอดผี’ ที่มีแค่ชื่อแต่ตัวไม่อยู่ในค่าย หรือพลทหารรับใช้ รวมถึงการปรับลดขนาดกองทัพให้สอดคล้องกับกระแสโลกภายใต้บริบทของภัยคุกคามต่อความมั่นคงที่เปลี่ยนรูปแบบจากเดิม
ย้ำรอบที่ล้าน ก้าวไกลไม่ตัดบำนาญ พร้อมสร้างสวัสดิการถ้วนหน้าให้ประชาชน
พริษฐ์กล่าวต่อว่า คลิปดังกล่าวยังสื่อว่าพรรคก้าวไกลจะตัดบำนาญข้าราชการ จึงขอยืนยันว่าพรรคก้าวไกลซึ่งให้ความสำคัญกับสวัสดิการของทุกอาชีพและทุกช่วงวัย พวกเราไม่มีและไม่เคยมีนโยบายปรับลดบำนาญข้าราชการแน่นอน ยิ่งไปกว่านั้น สวัสดิการสำหรับผู้สูงวัยหรือคนวัยเกษียณที่เราเสนอ จะครอบคลุมข้าราชการบำนาญด้วย (เช่น กองทุนดูแลผู้ป่วยติดเตียง) นอกจากนั้น เราเข้าใจดีว่าพี่น้องข้าราชการหลายคนที่ตัดสินใจเข้ารับราชการ ยอมรับเงินเดือนที่อาจน้อยในช่วงแรกเพราะคาดหวังว่าจะได้รับบำนาญที่มั่นคงในวัยเกษียณ เราจึงเข้าใจว่าการปรับลดบำนาญนั้นไม่เป็นธรรมต่อข้าราชการบำนาญที่เคยตัดสินใจเช่นนั้น ดังนั้น ถ้าก้าวไกลเป็นรัฐบาล เราไม่เพียงแต่จะไม่ตัดลดเงินบำนาญ แต่เราจะบริหารจัดการงบประมาณให้ดียิ่งขึ้น ไม่ว่าจะเป็น การหารายได้ใหม่ๆ การลดงบประมาณที่ถูกใช้ไปกับโครงการที่ไม่จำเป็น เพื่อให้บำนาญของข้าราชการ มั่นคงขึ้นภายใต้รัฐบาลก้าวไกล
ติงอยู่มา 8 ปี ไม่โชว์ผลงาน ปล่อยคลิปโค้งสุดท้ายโจมตีคู่แข่ง
และสุดท้าย คือฉากบนโต๊ะอาหารในคลิปดังกล่าว สะท้อนถึงความเข้าใจที่คลาดเคลื่อนเกี่ยวกับหลักการประชาธิปไตยของผู้จัดทำคลิป เพราะพรรคก้าวไกลและผู้สนับสนุนประชาธิปไตยทุกคนรู้ดีว่าหัวใจสำคัญของประชาธิปไตยคือเรื่องสิทธิเสรีภาพ เราควรเลือกรับประทานสิ่งที่เราต้องการได้ และหากจะรับประทานอะไรร่วมกัน ก็ต้องมาพูดคุยตกลงกัน ดังนั้น ภาพที่ปรากฏในคลิปจึงไม่ได้สะท้อนคุณลักษณะของพรรคก้าวไกล เพราะเราพูดมาตลอดว่าหากประชาชนมีความคิดเห็นที่แตกต่าง ทุกคนควรมีสิทธิเสรีภาพในการแสดงออก มีพื้นที่ปลอดภัยในการพูดคุย ผ่านกระบวนการการตัดสินใจที่เป็นธรรมและเคารพหนึ่งสิทธิ์หนึ่งเสียงของประชาชน
“หากจะมีพรรคการเมืองไหน ที่อาจมีชุดความคิดในการไปห้ามไม่ให้คนอื่นทานสิ่งที่เขาอยากทาน หรือไปห้ามไม่ให้เขาแสดงออกในสิ่งที่เขาคิด พรรคการเมืองนั้นก็คงเป็นพรรคการเมืองที่ชอบไล่คนเห็นต่างออกนอกประเทศมากกว่า และการที่พรรคการเมืองที่มีแคนดิเดตนายกฯ เคยเป็นนายกฯ มา 8 ปี กลับออกคลิปในช่วงโค้งสุดท้ายที่ไม่พูดถึงผลงานของตนเองแต่โจมตีคู่แข่งเพียงอย่างเดียว ก็สะท้อนชัดแล้วว่าเขาไม่ควรได้รับโอกาสให้บริหารประเทศนี้ต่อไป” พริษฐ์กล่าว
พริษฐ์ยังทิ้งท้ายว่า ต้องยอมรับว่าเป้าหมายหลายอย่างของพรรคก้าวไกลเป็นสิ่งที่ทะเยอทะยาน ยังไม่เคยมีรัฐบาลไหนทำสำเร็จมาก่อน แต่เพียงเพราะมันยังไม่ถูกทำ ไม่ได้หมายความว่าไม่ควรทำหรือจะทำไม่ได้ การเมืองคือเรื่องของความเป็นไปได้ ดังนั้นเลือกตั้งครั้งนี้พรรคก้าวไกลจะปักธงส้มในภาคใต้และนครศรีธรรมราชได้แน่นอน
ก้าวไกลพร้อมพิสูจน์ด้วยการทำงาน จะเป็นรัฐบาลที่ดีที่สุด
รังสิมันต์กล่าวว่า ปัญหาของประเทศไทยวันนี้ จำเป็นต้องถูกแก้ไขที่ต้นตอ เช่น แก้ปัญหาค่าไฟแพง ต้องกล้าชนกับกลุ่มทุนพลังงาน แก้ปัญหารัฐประหาร ต้องกล้าชนกับบรรดานายพลที่วันๆ คิดแต่จะรัฐประหาร แก้ปัญหายาเสพติด ส่วนหนึ่งจำเป็นต้องปฏิรูปตำรวจ เพราะที่ผ่านมาประเทศไทยปล่อยให้เกิดความไม่เป็นธรรม ตำรวจน้ำดีที่รับผิดชอบคดีการค้ามนุษย์ต้องลี้ภัยไปอยู่ต่างประเทศ ในขณะที่คนเกี่ยวข้องกับการค้ายาเสพติดกลับได้เป็นถึงรัฐมนตรี ดังนั้น พรรคก้าวไกลขอให้คำสัญญาว่าภายใต้รัฐบาลก้าวไกลที่มีนายกฯ ชื่อพิธา จะไม่มีตั๋วช้างเด็ดขาด ตำรวจน้ำดีต้องได้ดี ตำรวจที่ทำชั่วต้องได้รับผลจากการกระทำ เราจะรักษาความฝัน ทำให้แผ่นดินนี้มีความยุติธรรม ให้ประชาชนใช้ชีวิตอย่างคนเท่ากัน
“ไม่ต้องลังเล เลือกตั้งคราวนี้ ให้เลือกด้วยความหวัง เลือกให้พิธาเป็นนายกฯ คนที่ 30 ถ้า 4 ปีที่ผ่านมาพรรคก้าวไกลได้รับคำชมจากสื่อมวลชนจำนวนมากว่าเป็นพรรคการเมืองที่ทำหน้าที่ฝ่ายค้านได้ดีที่สุดตั้งแต่มีประชาธิปไตยมา คราวนี้ก้าวไกลก็จะเป็นพรรครัฐบาลที่ดีที่สุดเท่าที่เคยมีประชาธิปไตยมาเช่นกัน เวลาที่เหลือขอให้หัวคะแนนธรรมชาติช่วยกันหาเสียงให้พรรคก้าวไกล ให้ก้าวไกลแลนด์สไดล์ ให้ก้าวไกลมีลุ้นชนะทั้งสิบเขตในนครศรีฯ พอกันทีกับยุคลุง เริ่มใหม่ด้วยยุคของเราประชาชน” รังสิมันต์กล่าว
ขอแรงหัวคะแนนธรรมชาติ เป็น ‘กกต. ธรรมชาติ’
ด้านพิธากล่าวว่า เรารู้ว่าถ้าจะเปิดประตูภาคใต้ ต้องมาเปิดที่เมืองคอน เพราะที่นี่มีประชากรมากที่สุดในภาคใต้ พรรคก้าวไกลต้องการเปลี่ยนเมืองนครศรีฯ ให้เป็นเมืองแห่งความหวัง ยกระดับนครศรีธรรมราชด้วย ‘3 ธรรม’ นั่นคือ ธรรมชาติ ธรรมะ และธรรมดา เปลี่ยนจากเมืองรองเป็นเมืองต้องลอง หากก้าวไกลเป็นรัฐบาล เราขอเวลา 1 ปี จะขยับรายได้ต่อหัวของคนนครฯ ให้เพิ่มขึ้น
พิธาทิ้งท้ายว่า เรามาไกลเกินกว่าจะแพ้ อีก 6 วันสุดท้าย เปลี่ยนจากหัวคะแนนธรรมชาติเป็น กกต. ธรรมชาติ อย่าให้ใครมาปล้นชัยชนะของประชาชนอีก วันที่ 14 พฤษภาคมนี้ เข้าคูหากาก้าวไกลทั้ง 2 ใบ กาให้ถล่มทลาย ให้พรรคก้าวไกลมีผู้แทนในนครศรีธรรมราช ให้รัฐบาลก้าวไกลเข้าไปเปลี่ยนประเทศไทยให้การเมืองดี ปากท้องดี มีอนาคต
สำหรับผู้สมัคร ส.ส.นครศรีธรรมราช พรรคก้าวไกล ทั้ง 10 เขต ประกอบด้วย
เขต 1 ปกรณ์ อารีกุล (เบอร์ 3)
เขต 2 พสุธน โมคคัลลา กลับนุ้ย (เบอร์ 2)
เขต 3 ชนิศา ชูเมือง (เบอร์ 4)
เขต 4 ร.ต.ท อุ้ง ธรรมปรีชา (เบอร์ 3)
เขต 5 เอกชัย ควรศิริ (เบอร์ 6)
เขต 6 ปิยวัฒน์ สิริพันธ์พงศ์ (เบอร์ 8)
เขต 7 พุฒิพงศ์ ลุ่ยจิ๋ว (เบอร์ 5)
เขต 8 ปรีชานนท์ สรรพจิตต์ (เบอร์ 2)
เขต 9 พีรกิตติ์ แก้วนก (เบอร์ 4)
เขต 10 นิชนา ลาภานันต์ (เบอร์ 7)