พรรคพลังปวงชนไทย
เพื่อคนไทยทั้งแผ่นดิน

“แสวง” ยัน กกต.เร่งพิจารณาแบ่งเขต ย้ำที่ไม่แบ่งไว้ก่อน เกรงทำเกินกฎหมายรองรับ

วันนี้ ( 2 ก.พ.2566) นายแสวง บุญมี เลขาธิการคณะกรรมการการเลือกตั้ง เป็นประธานในพิธีเปิดการอบรมการเสริมสร้างความรู้ความเข้าใจในแนวปฏิบัติ กฎหมาย กฎระเบียบที่ปรับปรุงเปลี่ยนไปตามห้วงเวลา และเสวนาแลกเปลี่ยนความคิดในการพัฒนาการประชาสัมพันธ์ของภาคีเครือข่าย เพื่อเตรียมพร้อมในการเลือกตั้ง ส.ส.

ประกอบด้วย ผู้บริหาร พนักงาน ที่ทำหน้าที่เกี่ยวกับการประชาสัมพันธ์ของสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้งประจำจังหวัด ตัวแทนสื่อมวลชนจังหวัดภาคเอกชน และตัวแทนสื่อมวลชนภาครัฐ ใน 14 จังหวัด ได้แก่ จ.ภูเก็ต กระบี่ ชุมพร ตรัง นครศรีธรรมราช นราธิวาส ปัตตานี พังงา พัทลุง ระนอง สตูล สงขลา สุราษฎร์ธานี และ ยะลา 

ย้ำที่ไม่แบ่งเขตไว้ก่อน เกรงทำเกินกฎหมายรองรับ

นายแสวง กล่าวว่า ขณะนี้ยังไม่มีผู้สมัครมีแต่ว่าที่ผู้สมัครซึ่งอาจจะกระทำผิด ในช่วงนี้ กกต. ทำได้เพียงแค่รวบรวมข้อมูล เนื่องจากยังไม่ทราบว่าเป็นผู้สมัครหรือไม่ และไม่รู้ว่าจะอยู่ครบวาระหรือไม่ หากอยู่จนครบวาระก็จะมาพิจารณาดูว่ามีการกระทำความผิดหรือไม่ แต่หากอยู่ไม่ครบวาระ มีการสิ้นอายุสภา โดยการยุบสภาเงื่อนเวลาก็เปลี่ยนไป จึงเป็นเงื่อนไขที่บังคับหลังว่า กรณีอยู่ครบวาระการกระทำที่มีผู้มายื่นเรื่องร้องเรียนไว้หรือกรณีที่กกตเห็นเองเนื่องจากความปรากฏ โดย กกต.ก็จะต้องนำมาพิจารณาว่าการกระทำนั้นเข้าข่ายมีความผิดตามกฎหมายหรือไม่

เป็นครั้งแรกที่เราและพรรคการเมืองต้องมาเจอลักษณะนี้ ตอนนี้ก็ยังไม่ทราบว่า จะอยู่จนครบวาระหรือยุบสภาหรือไม่ แต่สำหรับต้องเตรียมความพร้อมอยู่ตลอดเวลา ซึ่งเราก็ถูกตั้งโจทย์ เหมือนการแบ่งเขต เหมือนเราไม่พร้อม เหมือนสังคมถาม จริง ๆ มีคนเข้าใจเยอะแต่ว่าผู้แสดงความเห็น ซึ่งเป็นนักจัดรายการบอกว่าทำไม กกต.ไม่แบ่งเขตไว้ก่อน ทำไมเมื่อกฎหมายประกาศใช้ ทำไม กกต.ไม่ประกาศเขตเลือกตั้งทันที

นี่คือสิ่งที่สังคมอาจจะไม่เข้าใจ ประชาสัมพันธ์นี่แหละจะทำให้ประชาชนเข้าใจ หากประชาชนไม่เข้าใจเรื่องนี้เราก็จะทำงานยาก หนึ่งคือเหมือนเราไม่ใส่ใจ ความหมายคือ เหมือนเราหยุดมาตั้ง 4 ปีทำอะไรอยู่ ทำไมคุณไม่แบ่งเขตก่อน

นายแสวง ยังระบุว่า ไม่เพียงแค่ประชาชนที่ไม่เข้าใจ ฝ่ายการเมืองก็ไม่เข้าใจ กกต.จึงเกรงว่ากฎหมายมีผลบังคับใช้แล้วเกิดยุบสภาเลย กกต.ก็จะไม่มีเวลาทำงานในการแบ่งเขต ความรับผิดชอบก็จะอยู่ที่ กกต.ทันที ทำไมหยุดตั้งนานจึงไม่เตรียมพร้อมอะไรเลย แต่จริง ๆ เป็นเงื่อนไขตามกฎหมาย การแบ่งเขตถ้าไม่มีอำนาจตามกฎหมาย กกต.ก็ไม่สามารถทำได้ บ้านเรามีอะไรนิดหน่อยก็มีฝ่ายที่เห็นด้วย ฝ่ายที่ไม่เห็นด้วย เราต้องไม่สร้างเงื่อนไขในการทำงาน ซึ่งเป็นงานใหญ่ของประเทศ การเมืองแบ่งฝักแบ่งฝ่าย ตนเองพยายามที่จะลดเงื่อนไข จึงต้องไปพูดว่าเราต้องการ 45 วัน ถ้าไม่ได้ 45 วัน เราลำบาก และพรรคการเมืองก็ลำบาก ไม่มีเขตเลือกตั้ง พรรคการเมืองจะไปทำไพรมารี่ หรือส่งผู้สมัครก็ทำไม่ได้

สุดท้ายตนไม่รู้ว่ารัฐบาลจะคิดอย่างไร แต่ก็ให้มาคือหมายความว่ายังไม่ยุบสภา ให้เวลาเพราะเป็นเงื่อนไขเวลาตามกฎหมาย หากยุบสภาช่วงนี้เราไม่มีเขต ก็ยากขึ้น พอยากขึ้น กฎหมายไม่ครอบคลุมก็จะเป็นเงื่อนไขให้คนมาท้วง ซึ่ง กกต.ทำได้แต่มีคนท้วงแน่นอน โดย กกต. พยายามทำให้เกิดความโปร่งใส และลดเงื่อนไขในการทำงาน

เร่งพิจารณาแบ่งเขตทันที หาก 77 จังหวัด ส่งมา

นายแสวง ยังกล่าวถึงแผนการแบ่งเขตเลือกตั้ง ว่า ได้สั่งการไปยังทางจังหวัดแล้วว่าจะสามารถประกาศเขตเลือกตั้งได้เมื่อไหร่ ซึ่งมีอยู่ 4 ขั้นตอน ไม่สามารถลดขั้นตอนได้ โดยใช้เวลาประมาณ 20 กว่าวัน แต่สามารถเร่งขั้นตอนให้เร็วขึ้นได้ ซึ่งตามแผนของ กกต. จะพิจารณาวันที่ 20 – 28 ก.พ.ใช้เวลาประมาณ 7-8 วัน

อย่างไรก็ตาม หากสำนักงานทำมาทั้ง 77 จังหวัด กกต.ก็พร้อมจะพิจารณาให้แล้วเสร็จภายใน 1 วัน ยืนยัน กกต.ทำตามกฎหมายและระเบียบ ไม่เข้าข้างพรรคใด

นายแสวง กล่าวว่า ตนเองเห็นใจจังหวัดเพราะเมื่อต้องรับฟังความคิดเห็น 10 วัน กกต.จังหวัดมีเวลา 3 วัน ในการรวบรวมความเห็น พร้อมรูปแบบแต่ละแบบส่งมาที่ส่วนกลาง ส่วนกลางก็ต้องยอมรับงานหนัก ต้องทำบันทึกเสนอให้ กกต.พิจารณา 77 จังหวัด โดยมีเวลาเพียงวันเดียวก่อนที่จะเสนอเข้าที่ประชุม กกต. ในวันที่ 20 ก.พ. ให้พิจารณา หาก 77 จังหวัดส่งมาพร้อมกันก็ถือเป็นเรื่องดี ส่วนกลางก็ต้องทำให้ได้หากจะเข้าพิจารณาวันที่ 20 หรือ 22 ก.พ. หากทำได้ก็เป็นเรื่องดี กับประชาชนและพรรคการเมือง ที่จะได้เขตไปก่อน เพราะ กกต. จะต้องนำเขตไปประกาศในราชกิจจานุเบกษา ประกาศพร้อมกันทั่วประเทศ คาดว่าน่าจะเป็นไปตามแผนคือ วันที่ 28 ก.พ.

นายแสวง ยังกล่าวว่าไทม์ไลน์ที่ กกต.วางไว้เดินเร็วกว่าแผนงาน เช่น ระเบียบ เกี่ยวกับการเลือกตั้ง กกต.ออกครบทั้ง 5 ระเบียบ ส่งไปประกาศราชกิจจา โดยประกาศเผยแพร่ไปแล้ว 2 ฉบับ ที่เกี่ยวกับการแบ่งเขตเลือกตั้ง วันนี้ราชกิจจานุเบกษาจะประกาศระเบียบ กกต.เกี่ยวกับพรรคการเมือง ที่เกี่ยวกับการทำไพรมารี จำนวน 2 ฉบับ เหลืออีกเพียง 1 ฉบับระเบียบใหญ่ กกต.ตรวจทานเพราะมีการแก้ไขระเบียบทั้งฉบับ และพิจารณาแล้วเสร็จในช่วง 1-2 วันที่ผ่านมา

กกต.ไม่หนักใจเลือกตั้งบัตร 2 ใบ – วางแนวทางแยกสีบัตรป้องกันสับสน

นายแสวง กล่าวถึงการเตรียมการให้ความรู้กับประชาชนเกี่ยวกับรูปแบบการเลือกตั้งแบบบัตร 2 ใบ ว่า ในเรื่องบัตร 2 ใบ จะเปลี่ยนจากการเลือกตั้งเมื่อปี 2562 แต่จริง ๆ แล้วไม่ได้เป็นเรื่องใหม่สำหรับประชาชน เพราะการเลือกตั้งก่อนปี 2562 ก็จะใช้รูปแบบบัตร 2 ใบอยู่แล้ว ผู้มีสิทธิเลือกตั้งบางส่วนที่ไม่ใช่นิวโหวตเตอร์อาจเคยเจอ และจะพบในการเลือกตั้งท้องถิ่นอยู่แล้ว

ส่วนแนวทางในครั้งนี้จะใช้บัตรคนละสีเพื่อให้เกิดความชัดเจน รวมทั้งประชาสัมพันธ์เพื่อสื่อสารกับประชาชนทุกช่องทางเพื่อให้ครอบคลุมทุกกลุ่มเป้าหมาย ให้ข้อมูลครบถ้วนสมบูรณ์และประชาชนเข้าใจง่ายว่าการเลือกตั้งครั้งนี้เป็นการเลือกตั้งระบบใหม่ใช้บัตร 2 ใบ ด้วยองค์ประกอบเหล่านี้ จึงไม่มีอะไรน่าหนักใจในเรื่องดังกล่าว

ส่วนการประชุมร่วมกับพรรคการเมือง ในสัปดาห์หน้า กกต.จะเน้นย้ำเรื่องอะไร นายแสวง กล่าวว่า การประชุมพรรคการเมืองเป็นการเตรียมความพร้อมร่วมกัน เพราะการเลือกตั้งจะออกมาดี มันต้องดีทุกองค์ประกอบ ทั้ง กกต. และพรรคการเมือง ซึ่งสิ่งที่จะเน้นย้ำคือการทำตามกฎหมาย โดยเฉพาะการคิดค่าใช้จ่ายของแต่ละพรรค ว่า ค่าใช้จ่ายในการเลือกตั้งแบบบัญชีรายชื่อจะใช้เงินเท่าไหร่ และค่าใช้จ่ายแบบแบ่งเขตจะใช้เงินเท่าไหร่ และชี้แจงเรื่องการทำไพรมารีโหวตที่จะส่งผู้สมัครรับเลือกตั้ง ซึ่งมีทั้งความยากและความง่าย ความง่าย คือ กฎหมายแก้ไขให้มีสาขา หรือตัวแทนเดียวในจังหวัดนั้นก็ส่งผู้สมัครได้ทั้งจังหวัด

สนง.กกต.พร้อมเป็นพี่เลี้ยงพรรคการเมืองทำไพรมารี่โหวต

นายแสวง กล่าวว่า แต่ความยากคือมีขั้นตอนที่ต้องจัดประชุมให้ถูกต้องตามข้อบังคับพรรคและกฎหมายพรรคการเมือง ซึ่งคงต้องมาซักซ้อมให้พรรคการเมืองได้ให้ความใส่ใจ ซึ่งสำนักงาน กกต.พร้อมเป็นพี่เลี้ยงให้ทุกพรรคการเมือง และทุกสาขาหรือตัวแทนพรรคการเมืองตามจังหวัดต่าง ๆ ที่จะมีสำนักงาน กกต.ประจำจังหวัดคอยดูแลเกี่ยวกับการสรรหาผู้สมัครแต่ละพรรคตามจังหวัดต่าง ๆ อย่างไรก็ตามเรื่องนี้พรรคการเมืองได้เตรียมตัวมาอยู่ตลอด เราทำงานร่วมกันมาโดยตลอดก็ไม่หนักใจอะไร

ทิ้งคำตอบไว้

อีเมล์ของคุณจะไม่ถูกเผยแพร่

This website uses cookies to improve your experience. We'll assume you're ok with this, but you can opt-out if you wish. Accept Read More