พรรคพลังปวงชนไทย
เพื่อคนไทยทั้งแผ่นดิน

'ประยุทธ์' ลงพื้นที่นราธิวาสฯ แนะไม่ว่าจะศาสนาใดทุกคนคือคนไทย

‘ประยุทธ์’ ลงพื้นที่นราธิวาสฯ เปิดใช้แพขนานยนต์ (ลําใหม่) ณ ด่านศุลกากรอำเภอตากใบ เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจชายแดนไทย-มาเลเซีย แนะไม่ว่าจะศาสนาใดทุกคนคือคนไทย ต้องช่วยกันเดินไปข้างหน้า ย้ำนายกฯ ไม่เคยมีปัญหากับชาวใต้

วันที่ 15 มี.ค. เวลา 14.15 น. ที่ด่านศุลกากรอำเภอตากใบ จังหวัดนราธิวาส พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เป็นประธานในพิธีเปิดใช้แพขนานยนต์ (ลำใหม่) ขององค์การบริหารส่วนจังหวัดนราธิวาส ซึ่งเป็นการให้บริการสาธารณะประโยชน์ที่จัดขึ้นเพื่ออำนวยความสะดวกให้กับประชาชนไทยและมาเลเซีย และนักท่องเที่ยว โดยมี พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย

สุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน ธนกร วังบุญคงชนะ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ร่วมการลงพื้นที่ตรวจราชการ ซึ่ง YAB Dato’ Bentara Kanan Ustaz Dato’haji Ahmad bin Yakob Mentri besar Kelantan ผู้บริหารท้องถิ่นของรัฐกลันตัน ประเทศมาเลเซีย สนั่น พงษ์อักษร ผู้ว่าราชการจังหวัดนราธิวาส กูเซ็ง ยาวอหะซัน นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดนราธิวาส และ สาราหุดิน อาบู ประธานสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดนราธิวาส ตลอดจนข้าราชการในสังกัด สมาชิกสภาองค์การบรอหารส่วนจังหวัดนราธิวาส เข้าร่วมในพิธี 

โอกาสนี้ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า รู้สึกยินดีที่ได้มาพบประชาชนชาวจังหวัดนราธิวาส และผู้บริหารท้องถิ่น ที่ได้ให้การต้อนรับอย่างอบอุ่นในการเดินทางมาทำพิธีเปิดใช้แพขนานยนต์ (ลำใหม่) ในวันนี้ได้เห็นรอยยิ้มของทุกคน ที่ผ่านมารัฐบาลมุ่งมั่นในการพัฒนาระบบการขนส่งสาธารณะ ครอบคลุมทั้งทางบก ทางอากาศ และทางน้ำ พร้อมติดตามการแก้ไขปัญหาต่าง ๆ ที่เคยให้นโยบายไว้ โดยเฉพาะปัญหาด้านการคมนาคม ที่เป็นเสมือนชีวิตของประชาชน

ซึ่งยังมีอีกหลายโครงการที่รัฐบาลกำลังดำเนินการอยู่ และพร้อมผลักดันให้เกิดการเชื่อมโยงโครงข่ายคมนาคมอย่างเป็นระบบและต่อเนื่องเพื่อประโยชน์ของประชาชน และเพื่อให้เกิดความเจริญและการกระจายโอกาสไปสู่พื้นที่ต่างๆ โดยเฉพาะพื้นที่ชายแดนใต้ ซึ่งมีศักยภาพอย่างมากในการพัฒนาเชื่อมโยงความร่วมมือระหว่างประเทศ อีกทั้งเพื่ออำนวยความสะดวกแก่ประชาชนในการเดินทาง การขนส่งสินค้า ตลอดจนจังหวัดชายแดนภาคใต้ ได้แก่ สตูล สงขลา ปัตตานี ยะลา และนราธิวาส กับการเชื่อมต่อพื้นที่การท่องเที่ยวใน 4 รัฐ ของประเทศมาเลเซียอีกด้วย 

นายกรัฐมนตรี กล่าวอีกว่า เมื่อช่วงเช้าวันนี้ได้พบปะกับนักลงทุนจากต่างประเทศที่มารอให้การต้อนรับ โดยนักลงทุนต่างชาติได้บอกว่า ทุกภาคของประเทศไทยมีความพร้อมให้นักลงทุนต่างชาติเข้ามาลงทุนในไทย ซึ่งรัฐบาลมีเป้าหมายเพื่อให้ไทยเป็นศูนย์กลางการลงทุนของภูมิภาค และเน้นส่งเสริมสินค้าทางการเกษตรของไทยที่มีมูลค่าสูง จนได้รับความสนใจเป็นอย่างมาก สามารถนำเม็ดเงินเหล่านี้มาพัฒนาประเทศและดูแลประชาชนคนไทย กลุ่มผู้มีรายได้น้อย 

นอกจากนี้ ในระหว่างทางได้นั่งรถผ่านมาได้เห็นความเปลี่ยนแปลง มีถนน 6 เลนมากขึ้น ซึ่งการพัฒนาโครงสร้างเหล่านี้ต้องอาศัยความร่วมมือจากทุกฝ่าย และความรักความสามัคคี ไม่ว่าจะศาสนาใดก็ตาม เราทุกคนคือคนไทยด้วยกัน มีสถาบันชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์ เราต้องเดินไปข้างหน้า ทุกคนต้องช่วยกันและต้องปรับตัว รู้เท่าทันการณ์ต่อสถานการณ์การเปลี่ยนแปลงโลก 

นายกรัฐมนตรี กล่าวถึง ความมั่นคงทางด้านอาหาร การนำเข้าสินค้าจากต่างประเทศ ซึ่งหลายประเทศยังห่วงเรื่องความขัดแย้งทางภูมิศาสตร์ จึงทำให้แต่ละประเทศเริ่มปลูกข้าว ทุเรียน ยาง และสินค้าเกษตรอื่น ๆ โดยเฉพาะฮาลาลที่จะทำอย่างไรให้มีการพัฒนาขึ้นสู่ห้างชั้นนำทั้งในประเทศและต่างประเทศให้ได้ รัฐบาลพร้อมที่จะสนับสนุนอย่างเต็มที่เพื่อให้เกิดการนำสินค้าของแต่ละท้องถิ่นแต่ละพื้นที่สู่สายตาชาวโลก

นายกรัฐมนตรี ย้ำว่า ไม่เคยมีปัญหากับพี่น้องชาวใต้ โดยนายกฯ เคยตามเสด็จสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง มาภาคใต้บ่อยครั้งที่สุด ได้ซึมซับและได้สัมผัสวัฒนธรรม ประเพณี คนใต้เป็นคนที่มีศิลปะและเก่งเรื่องการปักผ้า สามารถนำไปแข่งขันกับต่างประเทศได้ 

พร้อมกันนี้ นายกรัฐมนตรีขอบคุณทุกภาคส่วนโดยเฉพาะองค์การบริหารส่วนจังหวัดนราธิวาสที่รับทราบถึงความเดือดร้อนของประชาชนในพื้นที่ และผลักดันให้เกิดโครงการแพขนานยนต์ลำใหม่ ทดแทนแพขนานยนต์ลำเดิมขึ้น เพื่ออำนวยความสะดวกให้แก่ประชาชนได้ใช้ในการเดินทางขนส่งต่อไป

สำหรับแพขนานยนต์ ณ ด่านศุลกากรอำเภอตากใบ จังหวัดนราธิวาส โดยองค์การบริหารส่วนจังหวัดนราธิวาสได้รับการถ่ายโอนแพขนานยนต์จากจังหวัดนราธิวาส เมื่อปี พ.ศ. 2550 โดยให้บริการรับส่งสินค้า ยานพาหนะ และผู้โดยสารข้ามฟากระหว่างด่านศุลกากรตากใบ อำเภอตากใบ จังหวัดนราธิวาส กับด่านศุลกากรบ้านเปิงกาลังกูโบร์ อำเภอตุมปัต ประเทศมาเลเซีย มีแม่น้ำสุไหงโก-ลกเป็นแม่น้ำกั้นพรมแดนระหว่างไทยกับมาเลเซีย

โดยใช้เวลาเดินทางประมาณ 10 นาที และได้ดำเนินกิจการให้บริการประชาชนตลอดการให้บริการที่ผ่านมาจนถึงปัจจุบัน ทำให้เรือแพขนานยนต์มีสภาพชำรุดทรุดโทรมทำให้ผู้ใช้บริการขาดความเชื่อมั่นในการใช้บริการและอาจก่อให้เกิดอันตรายต่อชีวิต และทรัพย์สินของประชาชนผู้ให้บริการ เพื่อแก้ไขปัญหาดังกล่าว องค์การบริหารส่วนจังหวัดนราธิวาส ได้อนุมัติใช้จ่ายเงินสะสมประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2564 จำนวน 38,569,000 บาท เพื่อจัดสร้างแพขนานยนต์ (ต่อแพ) ลำใหม่ทดแทนแพขนานยนต์ลำเดิม ออกแบบสำหรับบรรทุกผู้โดยสารได้ จำนวน 30 คน บรรทุกยานพาหนะ (รถยนต์) ขนาด 2,500 กิโลกรัมต่อคัน ได้ไม่น้อยกว่า 9 คัน 

จากนั้น นายกรัฐมนตรีเดินทางไปยังมหาวิทยาลัยนราธิวาสราชนครินทร์ ตำบลโคกเคียน อำเภอเมืองนราธิวาส เพื่อพบปะหัวหน้าส่วนราชการ ทหาร ตำรวจ ผู้นำท้องถิ่น ผู้นำศาสนาในเขตพื้นที่จังหวัดนราธิวาสต่อไป

ทิ้งคำตอบไว้

อีเมล์ของคุณจะไม่ถูกเผยแพร่


This website uses cookies to improve your experience. We'll assume you're ok with this, but you can opt-out if you wish. Accept Read More