พรรคพลังปวงชนไทย
เพื่อคนไทยทั้งแผ่นดิน

เลือกตั้ง2566 : ผลซูเปอร์โพล ครั้งที่ 7 “พท.” ได้ 139 ที่นั่ง ไม่มี “แลนด์สไลด์”

วันนี้ (5 พ.ค.2566) ผศ.นพดล กรรณิกา ผู้อำนวยการสำนักวิจัยซูเปอร์โพล (SUPER POLL) เสนอผลการศึกษาต่อเนื่อง เรื่อง โพลเลือกตั้ง ส.ส.ครั้งที่ 7 ว่า จากการสำรวจข้อมูลจากประชาชนผู้มีสิทธิเลือกตั้งผู้แทนราษฎร (ส.ส.) ทุกสาขา อาชีพทั่วประเทศอายุ 18 ปีขึ้น ดำเนินโครงการศึกษาแหล่งข้อมูลทั้งการวิจัยเชิงปริมาณ (Quantitative Research) และการวิจัยเชิงคุณภาพ (Qualitative Research) ด้วยเครื่องมือประเมินขั้นสุทธิ (Net Assessment)

ทั้งนี้ ผลการสำรวจของซูเปอร์โพล จะแตกต่างจากสำนักอื่น เนื่องได้สำรวจกับประชาชนที่มีโทรศัพท์มือถือและกลุ่มที่ไม่มีโทรศัพท์มือถือด้วย จากกลุ่มตัวอย่าง 14,332 ตัวอย่าง

ดำเนินโครงการ ระหว่างวันที่ 1 – 5 พ.ค.66 โดยมีค่าความคลาดเคลื่อนจากขนาดตัวอย่างบวกลบร้อยละ 5 ในช่วง ความเชื่อมั่นร้อยละ 95 เมื่อพิจารณาความตั้งใจจะไปเลือกตั้งของประชาชนพบว่า ส่วนใหญ่หรือร้อยละ 75.3 หรือประมาณการ จำนวนผู้มีสิทธิเลือกตั้งรวมทั้งสิ้น 37,431,819 คน จะไปเลือกตั้ง ในขณะที่ร้อยละ 24.7 หรือ ประมาณการจำนวน ผู้มีสิทธิเลือกตั้งรวมทั้งสิ้น 15,662,959 คน จะไม่ไปเลือกตั้ง

ผศ.นพดล กล่าวว่า ที่น่าสนใจคือ ผลการศึกษาความเป็นไปได้ของจำนวนที่นั่ง ส.ส.พบว่า พรรคเพื่อไทยจะได้จำนวน ส.ส.139 ที่นั่ง แบ่งเป็น ส.ส.เขต 111 บัญชีรายชื่อ 28 ที่นั่ง ต่ำสุด 114 ที่นั่ง สูงสุด 164 ที่นั่ง

รองลงมา คือ พรรคภูมิใจไทยได้ ส.ส. 112 ที่นั่ง แบ่งเป็น ส.ส.เขต 96 ที่นั่ง บัญชีรายชื่อ 16 ที่นั่ง ต่ำสุด 87 ที่นั่ง และจำนวนสูงสุด 137 ที่นั่ง อันดับ 3 พรรคก้าวไกล ได้จำนวน 63 ที่นั่ง ส.ส.เขต 40 ที่นั่ง ส.ส.บัญชีรายชื่อ 23 ที่นั่ง ต่ำสุด 38 ที่นั่ง และจำนวนสูงสุด 88 ที่นั่ง

อันดับ 4 พรรคพลังประชารัฐ ได้ 61 ที่นั่ง ส.ส.เขต 53 ที่นั่ง บัญชีรายชื่อ 8 ที่นั่ง ต่ำสุด 36 ที่นั่ง และจำนวนสูงสุด 86 ที่นั่ง อันดับ 5 พรรคประชาธิปัตย์ ได้จำนวน 49 ที่นั่ง ส.ส.เขต 44 ที่นั่ง ส.ส.บัญชีรายชื่อ 5 ที่นั่ง จำนวนต่ำสุด 24 ที่นั่ง และจำนวน สูงสุด 74 ที่นั่ง

อันดับ 6 พรรครวมไทยสร้างชาติ ได้จำนวน 46 ที่นั่ง ส.ส.เขต 35 ที่นั่ง ส.ส.บัญชีรายชื่อ 11 ที่นั่ง จำนวนต่ำสุด 21 ที่นั่ง และจำนวนสูงสุด 71 ที่นั่ง อันดับ 7 พรรคอื่น ๆ ได้จำนวน 30 ที่นั่ง เป็นเขต 21 ที่นั่ง ส.ส.บัญชีรายชื่อ 9 ที่นั่ง จำนวนต่ำสุด 5 ที่นั่ง และจำนวนสูงสุด 55 ที่นั่ง

ผศ.นพดล กล่าวว่า ภาพรวมผลสำรวจดังกล่าวบ่งชี้ว่า ไม่มีพรรคใดจะได้ส.ส.แลนด์สไลด์ แม้แต่ในพื้นที่ภาคอีสาน ที่พรรคเพื่อไทยเคยได้สูงสุด ผลการศึกษาครั้งนี้กลายเป็นว่า พรรคก้าวไกลเข้ามาเป็นตัวแบ่ง โดยสามารถช่วงชิงเก้าอี้ภาคอีสานได้ถึง 20 ที่นั่งจากเพื่อไทยเดิม โดยซูเปอร์โพลก็จะเก็บข้อมูลต่อเนื่องไปจนถึงวันปิดหีบและจะมีการเปิดเผยผลสำรวจ หลังปิดหีบแล้ว

การที่พรรคก้าวไกลมีคะแนนนิยมเพิ่มขึ้น เป็นเพราะนโยบายโดนใจคนรุ่นใหม่ ซึ่งคนรุ่นใหม่ที่นิยมก้าวไกลจะแรงกว่าคนรุ่นใหม่ที่นิยมพรรคเพื่อไทย คะแนนคนรุ่นใหม่เทไปพรรคก้าวไกลถึงร้อยละ 60 และคนรุ่นใหม่ที่เคยเลือกพรรคเพื่อไทยก็เปลี่ยนมาเลือกพรรคก้าวไกล จากนโยบายและคำพูดที่โดนใจ

แต่ที่น่าสนใจคือฝ่ายพรรคร่วมรัฐบาลเดิม ความนิยมภูมิใจไทยมาเป็นอันดับ 1 โดยเฉพาะนายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรค มีภาพลักษณ์ใจดี ชอบช่วยเหลือผู้เจ็บป่วย ผู้สูงอายุ และนโยบายไม่ได้แจกเงินอย่างเดียว แต่ส่วนของพรรคพลังประชารัฐ และพรรคประชาธิปัตย์ความนิยมค่อนข้างคงที่เมื่อเทียบกับผลสำรวจครั้งที่แล้ว

ผลสำรวจยังสอบถามว่าอยากได้ใครเป็นนายกฯ พบว่า คะแนนนิยมนายอนุทิน และนายพิธา มีความสูสีกันมาก นายอนุทินนำแค่ 0.5 อย่างไรก็ตามผลสำรวจครั้งนี้ ผู้มีสิทธิเลือกตั้งพบว่าพร้อมเปลี่ยนใจร้อยละ 30 และยังไม่ตัดสินใจร้อยละ 15

ขณะที่นายเกรียงศักดิ์ เจริญวงศ์ศักดิ์ นักวิชาการอาวุโส มหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด สหรัฐอเมริกา ประธานสถาบันการสร้างชาติ (NBI) กล่าวว่า จากที่ได้ศึกษาผลสำรวจความคิดเห็น ติดตามการเมืองและการพนันในตลาดการเมือง ยังยืนยันแนวคิด 4 ฉากทัศน์ ที่จะเป็นไปได้หมดหลังการเลือกตั้ง

1.ฝ่ายอนุรักษ์นิยม จัดตั้งรัฐบาลโดยผู้จัดตั้งรัฐบาลจะใช้คะแนน 126 เสียง บวก ส.ว. 250 เสียง ไม่เกิน 376 เสียง ซึ่งจะเป็นไปได้หรือไม่อยู่สัปดาห์สุดท้ายในการเลือกตั้งว่า ฝ่ายอนุรักษ์นิยมจะขับเคลื่อนได้แรงมากขนาดไหน ถ้าไม่แรงก็แพ้

2.พรรคเพื่อไทย เป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล จากข้อมูลล่าสุด มีโอกาสสูงจากอีกขั้วหนึ่ง โดยสัปดาห์สุดท้ายจะมีผลมาก แต่โอกาสแลนด์สไลด์ตั้งรัฐบาลพรรคเดียวเป็นไปไม่ได้

นายเกรียงศํกดิ์ยังกล่าวว่า พรรคเพื่อไทยอาจจะจับมือพรรคก้าวไกลตั้งรัฐบาลแล้วดึงพรรคประชาชาติ เข้ามา ถ้าอยากจะมีความมั่นคง หรือบวกกับอีกพรรคข้ามขั้วที่ยอมรับได้

แต่ในความเห็นส่วนตัวการที่พรรคเพื่อไทยจะจับมือพรรคก้าวไกลเป็นไปได้ยาก เพราะพรรคก้าวไกลจะขี่พรรคเพื่อไทยมาก ต่อรองขอกระทรวงมากเกินไป จนทนไม่ไหว น่าจะไปเอาพรรคอื่นมากกว่า ที่แน่ ๆ พรรคประชาชาติ 12 เสียง กับพรรคข้ามขั้ว พรรคเล็ก ๆ โดยปล่อยพรรคก้าวไกลไปเป็นฝ่ายค้าน เพื่อประโยชน์ของตัวเองในการเลือกตั้งครั้งหน้า พรรคก้าวไกลจะเป็นคู่แข่งสำคัญ ถ้าให้ร่วมรัฐบาลวันนี้จะปลีกกล้าขาแข็ง จึงต้องทอนเสียแต่วันนี้

แต่ถ้าพรรคเพื่อไทยมองว่า เป็นสงครามครั้งสุดท้ายที่จะนำนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ กลับบ้าน ก็อาจจะเอาพรรคก้าวไกลเข้าร่วม หรืออาจจะมีการจับข้ามขั้วโดยให้อีกขั้วหนึ่งเป็นนายกฯ เพื่อให้ทักษิณได้กลับบ้าน

ฉากทัศน์ที่ 3 อาจจะมีการสอย ส.ส.และเกิดการยุบพรรคการเมือง ซึ่งขึ้นอยู่กับพยานหลักฐานที่ไปจ่อและความไวว่าจะทันก่อนการเลือกตั้งหรือไม่ หากเกิดหลังเลือกตั้งสามารถย้ายพรรคได้ ถ้าคะแนนฝ่ายเสรีนิยมคะแนนเยอะจนน่าอึดอัด สิ่งเหล่านี้มีโอกาสเกิดขึ้น

ฉากทัศน์ที่ 4 หากเลือกตั้งแล้วฝ่ายที่มีคะแนนนำ ไม่ได้จัดตั้งรัฐบาล อาจจะเกิดการประท้วงวุ่นวายขึ้น และนำไปสู่การมีทหารออกมา นำไปสู่การจัดตั้งรัฐบาลพิเศษโดยทหาร ทั้งหมดขึ้นอยู่กับสัปดาห์สุดท้าย

ตลาดการพนันจะทำให้เกิดการเบี่ยงเบนคะแนนค่อนข้างมาก และกระสุนยังมีผล พอๆ กับกระแส คาดว่าจะมีการใช้กระสุนมากถึงหมื่นล้านบาทในทุกพื้นที่ แต่การแจกไม่เหมือนทุกครั้ง เป็นการแจกไม่สุด เพราะกลัวว่ากระสุนไม่เต็มที่อาจให้กาก่อน หรือหัวคะแนนรับเงินไปแล้วไม่ยอมแจก

ถ้าไม่อยากให้เกิดฉากทัศน์ที่ 3 และ 4 อย่าพยายามแลนด์สไลด์ เพราะจะทำให้เกิดความหวาดหวั่นมากเกินไป Money Politics มีจริง สัปดาห์นี้ต้องเฝ้าดู key Message ต้องปลุกความกล้า และความกลัวให้คนออกมาลงคะแนน ถ้าปลุก key Message ได้ชัดเจน ให้ประชาชนรู้ว่าตัวเองต้องการอะไร จะมีผลต่อคะแนน เป็นอย่างมาก

นายเกรียงศักดิ์ยังมองว่า การข้ามขั้วจัดตั้งรัฐบาลโอกาสเกิดขึ้นน้อยมาก วันนี้เป็นปัญหาทางยุทธศาสตร์ ฝ่ายอนุรักษ์ผิดพลาดมากที่ยอมให้มีบัตรเลือกตั้ง 2 ใบ ถ้ายังเป็นบัตรใบเดียว โอกาสจะมีมากกว่านี้ ขณะเดียวกันยังมีปัญหาตกปลาในบ่อเพื่อนอีก

ทิ้งคำตอบไว้

อีเมล์ของคุณจะไม่ถูกเผยแพร่

This website uses cookies to improve your experience. We'll assume you're ok with this, but you can opt-out if you wish. Accept Read More