พรรคพลังปวงชนไทย
เพื่อคนไทยทั้งแผ่นดิน

'ทบ.' จ่อแจ้งความเอาผิด 'เนติวิทย์' หลังประกาศอารยะขัดขืนไม่เข้าเกณฑ์ทหาร

‘กองทัพบก’ จ่อลุยแจ้งความเอาผิด ‘เนติวิทย์-พวก’ ปมอารยะขัดขืนไม่ยอมจับ ‘ใบดำใบแดง’ เกณฑ์ทหาร ชี้ถ้าเรื่องเข้าสู่ชั้นศาล ให้รอฟังคำพิพากษา

เมื่อวันที่ 6 เม.ย. 2567 มีรายงานข่าวจากกองทัพบก (ทบ.) เปิดเผยถึงกรณี นายเนติวิทย์ โชติภัทร์ไพศาล อดีตนักกิจกรรมทางการเมือง พร้อมเพื่อน 2 คน เดินทางมาประกาศอารยะขัดขืนต่อต้านไม่จับใบดำใบแดงในการเกณฑ์ทหาร ว่า เรื่องดังกล่าวเป็นขั้นตอนตามกฎหมายปกติ คือบุคคลที่ไม่รับการตรวจเลือก ทางเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องก็จะแจ้งความร้องทุกข์กล่าวโทษ โดยเรื่องดังกล่าวจะมีขั้นตอนกระบวนการในการพิจารณา

รายงานข่าว ระบุว่า ผู้ที่ไม่มาตรวจเลือกทหารฯ กรรมการตรวจเลือกจะต้องมีการประชุมหลังจากเสร็จสิ้นการตรวจเลือกแล้วในช่วงเดือนพฤษภาคม ว่ามีคนที่ไม่มาตรวจเลือกจำนวนเท่าใด ที่ไม่ได้เข้ารับตรวจเลือกว่าแต่ละเคสใครมีเหตุมีผลอย่างไรที่ไม่มาเข้ารับตรวจเลือก ส่วนของนายเนติวิทย์คงไม่มีเหตุผลในการที่จะไม่ถูกดำเนินคดี เพราะไม่สามารถบอกเหตุผลที่ไม่เข้ารับการตรวจเลือกได้ เนื่องจากภาพข่าวที่ออกมาเห็นชัดแล้วว่าที่ไม่เข้ารับการตรวจเลือกด้วยเหตุผลในการอารยะขัดขืน ซึ่งไม่สามารถทำได้

รายงานข่าว ระบุด้วยว่า หลังจากเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องเข้าแจ้งความดำเนินคดีแล้ว เรื่องดังกล่าวก็จะไปอยู่ในขบวนการชั้นศาล โดยศาลจะตัดสินลงมาอย่างไร ก็เป็นไปตามนั้น

ทั้งนี้เมื่อวันที่ 5 เม.ย. 67 ที่เทศบาลตำบลบางปู สถานที่ตรวจเลือกทหารกองเกินเข้ากองประจำการประจำปี 2567 จังหวัดสมุทรปราการ เนติวิทย์ โชติภัทร์ไพศาล พร้อมเพื่อน 2 คน เดินทางมาประกาศอารยะขัดขืนต่อต้านเกณฑ์ทหาร พร้อมแถลงการณ์

โดยระบุว่า แถลงการณ์อารยะขัดขืนต่อต้านการเกณฑ์ทหาร #ยกเลิกเกณฑ์ทหาร ข้าพเจ้าประกาศจุดยืนตั้งแต่หลังรัฐประหาร 2557 ว่า เมื่อถึงเวลาต้องรับการตรวจเลือกเกณฑ์ทหาร ตนจะไม่เข้าร่วม ด้วยเหตุผลว่า การบังคับพลเมืองที่ไม่เต็มใจรับราชการทหารนั้น ขัดกับหลักสิทธิมนุษยชน ความเชื่อทางศีลธรรม ทั้งยังล้าสมัย ไม่มีประสิทธิภาพ และมีส่วนทำให้สังคมไทยไม่เป็นประชาธิปไตย บัดนี้เวลาผ่านไป 10 ปีแล้ว ข้าพเจ้าขอยืนยันจุดยืนเดิมของตน

การเกณฑ์ทหารไม่ได้นำมาซึ่งความเสมอภาคของพลเมือง แต่เป็นระบบที่เหลื่อมล้ำต่ำสูง หลายมาตรฐาน ข้าพเจ้าเข้าใจและเห็นใจคนจำนวนมากที่ไม่อยากเกณฑ์ทหาร จึงเลี่ยงไปเรียนรักษาดินแดน พยายามเข้ารับราชการ เลือกบวชเรียนเพื่อให้ได้นักธรรม หรืออาศัยเกณฑ์อื่น ๆ ในการหลีกหนี

อย่างไรก็ตาม มีคนอีกมากไม่อาจเลี่ยงพ้น และต้องเข้ารับราชการเกณฑ์ทหารโดยไม่เต็มใจ ประชาชนชาวไทยทุกคนควรมีสิทธิเสรีภาพอย่างเท่าเทียมกันที่จะเลือกว่าตนจะเข้ารับราชการทหารหรือไม่ โดยไม่ต้องถูกบังคับ ไม่ควรต้องกล้ำกลืนฝืนใจหรือต้องหาทางหลบเลี่ยง อันจะไม่เป็นผลดีแก่พลเมือง หรือประเทศชาติ

ข้าพเจ้าสามารถหาวิธีหลีกเลี่ยงได้ด้วยประการทั้งปวงดังเช่นที่คนอื่น ๆ ทำ ซึ่งข้าพเจ้าก็เคารพในการตัดสินใจเหล่านั้น แต่ข้าพเจ้าคิดว่าการปฏิเสธด้วยการแสดงออกอย่างเป็นสาธารณะว่าจะไม่ร่วมการเกณฑ์ทหารนั้นเป็นเผชิญกับปัญหาตรง ๆ ซึ่งอาจจะจำเป็นต้องทำ

เพื่อสิทธิเสรีภาพของพลเมืองที่ดีขึ้น และเพื่อให้กองทัพที่เคารพสิทธิมนุษยชนอย่างเหมาะสมกับยุคสมัย

ด้วยเหตุนี้ข้าพเจ้าจึงขอประกาศกระทำ “อารยะขัดขืน” ไม่เข้าร่วมเกณฑ์ทหาร ข้าพเจ้าทราบดีถึงผลทางกฎหมายที่จะตามมา และหวั่นใจอยู่ไม่น้อย แต่หากผลที่ข้าพเจ้าต้องรับ จะแลกมาด้วยคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นของเพื่อนพลเมืองชาวไทยคนอื่น ๆ ข้าพเจ้าก็เต็มใจและพร้อมจะเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมต่อไป

ในวันนี้ ข้าพเจ้ามาแสดงตน ณ ที่รับการตรวจเลือกนี้ เพื่อยืนยันจุดยืนของตนตลอดสิบปี และเพื่อแสดงออกอย่างชัดเจนว่า ข้าพเจ้ามิได้หลบเลี่ยง มิได้หลบหนี และไม่เคยคิดจะหลบหนีไปไหน

ทิ้งคำตอบไว้

อีเมล์ของคุณจะไม่ถูกเผยแพร่

This website uses cookies to improve your experience. We'll assume you're ok with this, but you can opt-out if you wish. Accept Read More