วันนี้ (10 เม.ย.2567) ที่ตึกบัญชาการ 1 ทำเนียบรัฐบาล นางพวงเพ็ชร ชุนละเอียด รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี และนายธสรณ์อัฑฒ์ ธนิทธิพันธ์ เลขาธิการ คณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) แถลงผลการจับกุมบุหรี่ไฟฟ้าใกล้สถานศึกษา ในซอยรัชดาภิเษก 32 เมื่อช่วงค่ำที่ผ่านมา(9 เม.ย.2567) โดยยึดของกลาง 6,000 ชิ้น มูลค่า 1.5 ล้านบาท
นางพวงเพ็ชร กล่าวว่า บุหรี่ไฟฟ้ามีโทษร้ายแรงต่อเยาวชน ไม่ว่าจะสูบที่สถานศึกษาติดที่บ้าน นายกฯ เล็งเห็นว่า เรื่องนี้เป็นเรื่องสำคัญส่งผลให้เยาวชนของชาติเติบโตไปในทางที่ไม่ถูกต้อง สมองก็จะเสื่อมไป ไม่ได้รับการดูแลที่ถูกต้อง เมื่อวานตนไปกับเลขา สคบ.เข้าไปดูว่าสามารถตรวจจับใครได้บ้าง เนื่องจากนายกฯบอกว่า มีข้อกำหนดที่ให้ไปจับได้ 3 หน่วยงาน
วันนั้นเรามีการประชุมกันไปครั้งหนึ่ง 437 โรงเรียน ใน กทม.ให้ความรู้กับผู้ปกครองหัวบุหรี่ไฟฟ้าหน้าตาเป็นอย่างไร ซึ่งเมื่อก่อนไม่มีบุหรี่ไฟฟ้ารูปทรงหลากหลายแบบนี้ ทั้งรูปขนม ตุ๊กตา รูปปากกา เพราะฉะนั้นต้องให้ความรู้ว่าสิ่งเหล่านี้เปลี่ยนแปลงไปอย่างไร ถามว่ายากหรือไม่ในการตรวจจับ ต้องบอกว่ายากนะคะ เพราะบางครั้งเวลาเรารู้เบาะแส ก็จะมีคนไปแจ้งร้านค้าให้ปิดไปก่อน
นางพวงเพ็ชร กล่าวว่า ตำรวจทุกหน่วยงานรวมถึงต่างจังหวัดต้องดำเนินการอย่างจริงจัง ยืนยันว่ามีความเด็ดขาดเรื่องของการได้รับโทษ แต่ก็ยอมรับว่า โทษอาจจะแรงไม่พอเพราะเมื่อจับไปแล้วก็ยังพบว่ามีการกลับมาเปิดอีกครั้ง ซึ่งตนจะไปปรึกษาทีมกฎหมายว่าจะแก้ไขในการตรวจจับอย่างไร
ด้านเลขา สคบ. กล่าวว่า การจำหน่ายบุหรี่ไฟฟ้ามีความผิดตามกฎหมาย มีโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี สำหรับการจับกุมเมื่อวานนี้ (9 เม.ย.2567) ได้รับการสั่งการจากนางพวงเพ็ชร ซึ่งได้เน้นย้ำมาตลอดตามนโยบายของนายกฯ
เมื่อวานนี้เราไปจับกันที่ซอยเสือใหญ่ มรภ.จันทร์เกษม ร่วมกับ สน.พหลโยธิน เป็นการจับกุมคนขายโดยตรง ไม่มีนายหน้า ซึ่งเจ้าของก็รับสารภาพ หลังจากนี้ต้องมีการตรวจตราเป็นพิเศษ โดยเฉพาะการจำหน่ายบนเว็บไซต์ โดยอาจจะต้องสั่งปิดเว็บหรือเพจในสื่อสังคมออนไลน์ นอกจากนี้เราจะต้องให้ความรู้กับเด็กและเยาวชนให้รู้เท่าทันภัยของบุหรี่ไฟฟ้า
จากนั้น นางพวงเพ็ชร ได้ย้ำถึงโทษของบุหรี่ไฟฟ้าว่า การสูบในช่วงวัยรุ่นจะทำให้ส่งผลต่อสมอง การเรียนรู้ และอารมณ์ โดยเยาวชนหลายคนอาจมีความอยากรู้อยากลองบุหรี่ไฟฟ้าว่ามีรสชาติเป็นอย่างไร ซึ่งก็อยากเตือนเยาวชน และอยากให้มองว่าโทษของมันคืออะไร ถ้าไปลองแล้วติดใจ ก็อาจทำให้ไปลองยาเสพติดอย่างอื่นต่อไป ทั้งยาบ้า กัญชา
บางคนเข้าใจผิดว่าโทษของมันไม่รุนแรงเหมือนบุหรี่มวน แต่จริง ๆ แล้ว รุนแรงยิ่งกว่า เพราะมีสารอันตรายถึง 4-5 ชนิด ผู้ใหญ่ก็อยากให้เลิกเหมือนกัน เพราะมันมีโรคอันตราย ทั้งหลอดเลือดสมอง ทางเดินอาหาร สมรรถภาพเสื่อม รวมถึงมีโอกาสตาบอด โรคหัวใจ ระบบทางเดินปัสสาวะ อันนี้ก็เป็นตัวอย่างที่ดีในการเลิกบุหรี่ให้กับเด็ก
นางพวงเพ็ชร ระบุว่า บุหรี่ไฟฟ้ามีโทษทำลายล้างสมอง ถามว่าทำไมไม่ทำให้ถูกต้อง อันนี้เป็นเรื่องของอนาคต การทำให้บุหรี่ไฟฟ้าถูกกฎหมายมีหลายประเด็น ซึ่งต้องประชุมหารือกัน แต่ ณ วันนี้ต้องปราบ เพราะเป็นภัยต่อสังคม เยาวชนของชาติ ซึ่งขณะนี้ไม่ได้มีโทษสำหรับผู้ที่ซื้อมาแล้วสูบ และมีบทลงโทษอย่างเดียว คือ ห้ามสูบในที่สาธารณะ
นางพวงเพ็ชร ระบุว่า ส่วนใหญ่ที่จับได้มีกที่จะพบว่าเป็นผู้เฝ้าร้านที่เป็นแรงงานข้ามชาติ ดังนั้นต้องสาวไปให้ถึงตัวการการนำเข้าที่จะมาทางตะเข็บชายแดน โดยขณะนี้มีการบูรณาการร่วมกับหลายกระทรวง ขณะนี้อยู่ระหว่างตั้งหน่วยเฉพาะกิจในการจับกุม
ช่วงท้ายของการแถลง ผู้สื่อข่าวได้สอบถามถึงบุหรี่ไฟฟ้าที่มีโลโก้พรรคก้าวไกล นางพวงเพ็ชร ระบุว่า จะให้ไปตรวจสอบดูว่าทำไมถึงมีสัญลักษณ์ของพรรคก้าวไกล โดยอาจจะต้องย้ำพรรคการเมืองว่าให้ตรวจสอบควบคู่ไปด้วยว่ามีการนำชื่อ สัญลักษณ์และสีของพรรคการเมืองมาแอบอ้างในการทำสินค้าหรือไม่
