พรรคพลังปวงชนไทย
เพื่อคนไทยทั้งแผ่นดิน

กต. แจงภารกิจมนุษธรรมเมียนมา ระบุรัฐบาลทหารใจกว้างพอเปิดทางช่วยเหลือ

‘สีหศักดิ์‘ ผู้ช่วย รมต.กต. แจงภารกิจส่งมอบความช่วยเหลือแก่ ’เมียนมา’ ย้ำต้องแสวงจุดร่วมทางมนุษยธรรม -สงวนจุดต่างทางการเมือง หวังยกระดับสู่การเจรจาเพื่อสันติภาพ ระบุรัฐบาลทหารใจกว้างพอเปิดทางช่วยเหลือ

วันที่ 27 มี.ค. สีหศักดิ์ พวงเกตุแก้ว ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงการต่างประเทศ ให้สัมภาษณ์ถึงการเริ่มให้การช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมแก่ประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ความรุนแรงในเมียนมา เมื่อวันที่ 25 มี.ค. ที่ผ่านมาว่า ไม่ใช่ครั้งเดียวที่เราจะดำเนินการเช่นนี้ แต่ยอมรับว่า การดำเนินการนั้นไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะเป็นการให้ความช่วยเหลือข้ามชายแดนเป็นครั้งแรก เพราะหลายครั้งที่ผ่านมาจะเป็นเป็นการช่วยเหลือผ่านหน่วยงานในเมืองย่างกุ้ง 

สีหศักดิ์ กล่าวต่อว่า เป็นเรื่องธรรมดาที่เมื่อมีการดำเนินการไปแล้วจะต้องมีความเห็นที่หลากหลาย แต่สิ่งที่กระทรวงการต่างประเทศมุ่งมั่นนั้นคือการช่วยเหลือประชาชน และสิ่งที่เราเรียกร้องมากที่สุดคือ อยากให้ทุกฝ่ายหาทางปรองดองกัน นั่นคือหนทางสู่สันติภาพ แต่ในเมื่อขณะนี้ทุกฝ่ายยังไม่พร้อม สิ่งที่เราควรทำมากที่สุดคือ การดูแลประชาชนชาวเมียนมา

สีหศักดิ์ กล่าวต่อว่า หากเราพูดถึงฉันทามติ 5 ข้อ ยังมีการปฏิบัติอย่างจริงจัง แต่ในครั้งนี้เป็นการเริ่มต้นในการนำสติไปสู่การปฏิบัติในส่วนที่ทำได้ ดังนั้นจึงต้องดูต่อไปว่า ก้าวต่อไปของการดำเนินการจะเป็นเช่นไร เมื่อมีการให้ความช่วยเหลือทางมนุษยธรรมแล้ว จะสามารถมีการหยุดยิงเพื่อมนุษยธรรม หรือหารือเพื่อมนุษยธรรมได้หรือไม่ เพราะมนุษยธรรมนั้นจะเป็นจุดเริ่มต้นที่ดีในการนำไปสู่จุดที่ดีขึ้น แต่แน่นอนว่า รัฐบาลไทยจะมีความหวังฝ่ายเดียวไม่ได้ทุกฝ่ายต้องช่วยกัน

สีหศักดิ์ ยังย้ำอีกว่า รัฐบาลไทยไม่ได้ดำเนินการเรื่องนี้โดยลำพัง แต่เรามีศูนย์ประสานงานด้านมนุษยธรรมอาเซียน (AHA) มาช่วยในการตรวจสอบ และได้แรงสนับสนุนจากรัฐมนตรีอาเซียนในทุกประเทศ จากการประชุมที่เมืองหลวงพระบาง สปป.ลาว อีกด้วย 

สีหศักดิ์ ยังเปิดเผยถึงการได้หารือกับ อาลุนแก้ว กิตติคุน ผู้แทนพิเศษด้านเมียนมาของประธานอาเซียน ซึ่งให้การสนับสนุนในข้อริเริ่มของไทย ซึ่งทางไทยเราเองนั้นนั้นก็พร้อมที่จะสนับสนุนทั้งประธานอาเซียน และผู้แทนพิเศษของอาเซียนในเรื่องนี้อยู่แล้ว พร้อมย้ำว่า สถานการณ์ในเมียนมาเป็นเรื่องที่ประเทศเพื่อนบ้านต้องช่วยประสานกันให้มากขึ้น โดยก่อนหน้านี้ก็ได้พูดคุยกับเจ้าหน้าที่อาวุโสของอินเดียซึ่งก็มีความเป็นห่วง และสนับสนุนด้วยเช่นเดียวกัน 

สีหศักดิ์ ยังกล่าวต่อไปว่า ส่วนทางประเทศญี่ปุ่นนั้น ต้องการทราบว่า รัฐบาลทหารมีท่าทีอย่างไรต่อการดำเนินการของไทยในครั้งนี้ ซึ่งเราได้ยอมรับไปว่า สิ่งเหล่านี้จะเกิดขึ้นไม่ได้ถ้าไม่คุยกับรัฐบาลทหาร และเขาก็ใจกว้างพอที่จะให้เราส่งความช่วยเหลือไปยังประชาชนทุกกลุ่ม ส่วนจะมีการวัดความสำเร็จอย่างไรนั้น เรามีการตรวจสอบผ่านทางสถานทูตฯ ณ กรุงย่างกุ้ง และคนในพื้นที่ โดยจะมี Remote Monitoring ซึ่งจะมีทั้งภาพนิ่ง และภาพเคลื่อนไหว ที่จะสามารถรายงานเข้ามาเพื่อให้การแจกจ่ายเป็นไปตามวัตถุประสงค์

สีหศักดิ์ ย้ำว่า ในแง่ของทางการทูตต้องดูว่า การเริ่มช่วยเหลือในครั้งนี้จะเป็นจุดเริ่มต้นในการหารือเฉพาะมนุษยธรรมได้หรือไม่ จึงต้องมีการพูดคุยกับกลุ่มต่างๆ ในเมียนมาว่า เราอาจจะคุยเรื่องนี้กันก่อนถ้าหากเขาพร้อม แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นเราคงไม่สามารถคิดไปไกลได้ถึงขนาดนั้น เพราะต้องดูท่าทีของทุกกลุ่มว่าเป็นอย่างไร 

“อย่าเพิ่งเอาเรื่องการเมืองเข้ามา เพราะมันไม่มีทางที่เราจะทำอะไรเพื่อประชาชน เก็บเรื่องการเมืองไว้ก่อน หาจุดร่วมกันผ่านมนุษยธรรม” สีหศักดิ์ กล่าว 

นอกจากนี้ สีหศักดิ์ยังกล่าวด้วยความคาดหวังอีกว่า สิ่งที่รัฐบาลไทยทำจะเป็นการจุดประกายให้คนอื่นมองเห็นถึงความสำคัญ และให้การช่วยเหลือร่วมกัน ให้ทุกฝ่ายเข้ามามีส่วนร่วม ไม่ใช่แค่เฉพาะระดับรัฐบาลอย่างเดียว แต่กลุ่มชาติพันธุ์ต่างๆ ควรเข้ามาร่วมด้วย เพื่อสะท้อนถึงการยอมรับความหลากหลาย 

สำหรับความน่าจะเป็นได้ในการเริ่มให้การช่วยเหลือในครั้งต่อไป สีหศักดิ์ กล่าวว่า ก็จะเร่งดำเนินการดำเนินการให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้ อาจจะเป็นการให้การช่วยเหลือข้ามพรมแดน หรือตั้งศูนย์ช่วยเหลือบริเวณชายแดน และอาจจะขยายความช่วยเหลือไปเป็นด้านสาธารณสุขอีกด้วย

ทิ้งคำตอบไว้

อีเมล์ของคุณจะไม่ถูกเผยแพร่

This website uses cookies to improve your experience. We'll assume you're ok with this, but you can opt-out if you wish. Accept Read More