พรรคพลังปวงชนไทย
เพื่อคนไทยทั้งแผ่นดิน

จับกระแสการเมือง 27 มี.ค.67 มติประวัติศาสตร์ 8 ปีที่รอคอย กม.สมรสเท่าเทียม

#สมรสเท่าเทียม ติดอันดับหนึ่งในแอปพลิเคชัน X ทันทีหลังจากที่ประชุมสภาฯ ผ่านฉลุยร่างพ.ร.บ.แก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ (ฉบับที่ ..) พ.ศ. …หรือ “กฎหมายสมรสเท่าเทียม” หลังการอภิปรายในวาระ 2-3 ในช่วงเช้าที่ผ่านมา ด้วยมติ 400 เสียง ไม่เห็นด้วย 10 งดออกเสียง 2 ไม่ลงคะแนน 3 แต่ปิดทางเพิ่มคำว่า “บุพการีลำดับแรก”

สาระสำคัญของ พ.ร.บ.ฉบับนี้ จะทำให้บุคคลทั้งสองฝ่ายทุกเพศสามารถสมรสกันได้ โดยต้องมีอายุ 18 ปีขึ้นไป และจะมีสถานะเป็น “คู่สมรส” แทนคำว่า “สามีภริยา”

ทันทีที่เคาะเสียงโหวต คนในและนอกห้องประชุมสภา ต่างปรบมือ และโบกธงสีรุ้ง แสดงออกเชิงสัญลักษณ์พรึบกลางสภา เพราะถือเป็นมติประวัติศาสตร์ชาติแรกในอาเซียน และชาติที่ 3 ของเอเชีย

หากไล่เรียงกฎหมายสมรสเท่าเทียม ผ่านการผลักดันมาตั้งแต่สมัย พล.อ.ประ ยุทธ์ จันทร์โอชา อดีตนายกรัฐมนตรี หรือเกือบ 8 ปีก่อน แต่ถูกคว่ำร่างด้วยเหตุผล สภาล่มบ่อยครั้ง จึงไม่สามารถพิจารณาได้ครบ 3 วาระ ทำให้ พ.ร.บ. สมรสเท่าเทียมตกไปตามรัฐธรรมนูญ

อ่านข่าว สภาฯ ฉลุย 400 เสียงผ่านร่าง “กฎหมายสมรสเท่าเทียม”

โดยเฉพาะบรรดา สส.พรรคก้าวไกล ที่เป็นร่วมกันเป็นกระบอกเสียง และอยู่เบื้องหลังกฎหมายสมรสเท่าเทียมในสังคมไทย ต่างพากันโบกธง และโพสต์ข้อความผ่าน ทางเฟซบุ๊ก ไอจี และแอปพลิเคชัน X 

เริ่มจาก “เอก” ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานคณะก้าวหน้าที่แอบลุ้นหน้าจอทีวีปรบมือและสวมกอด ณธีภัสร์ กุลเศรษฐ สมาชิกพรรคก้าวไกล จากนั้นยังเปลี่ยน หน้าโปรไฟล์ Juangroongruangkit – ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ พร้อมข้อความขอแสดงความยินดี กับประชาชนคนไทยทุกคน ระบุว่า วันนี้ พ.ร.บ.#สมรสเท่าเทียม ผ่านแล้ว ถือเป็นการยืนยันหลักการคนเท่ากัน ทั้งในแง่ศักดิ์ศรีพลเมืองสิทธิทางกฎหมาย และสวัสดิการที่ได้รับจากรัฐ

 ผลการโหวตในวันนี้ ยังถือเป็นการพิสูจน์ว่า ฝ่ายค้านและรัฐบาลสามารถทำงานร่วมกันได้ ตราบใดที่เป็นกฎหมายที่เกิดประโยชน์ต่อประชาชน เสียงของประชาชนย่อมเป็นใหญ่ที่สุด และทุกพรรคการเมืองต้องรับไปปฏิบัติ

ธนาธร บอกอีกว่า ขอชื่นชมทีมงานพรรคก้าวไกล ที่มุ่งมั่นทำงานผลักดันกฎหมายสมรสเท่าเทียม มาตั้งแต่สมัยอนาคตใหม่ ทั้งธัญวัจน์ กมลวงศ์วัฒน์
ณัฐวุฒิ บัวประทุม ธัญญ์วาริน สุขะพิสิษฐ์ เอกราช อุดมอำนวย คณาสิต พ่วงอำไพ ณธีภัสร์ กุลเศรษฐสิทธิ์ และทีมงานที่อยู่เบื้องหลังทุกคน 

ดีใจที่พวกเราเดินทางร่วมกัน ภูมิใจในการทำงานหนักของพวกคุณทุกคน

แต่หากย้อนกลับไปดูบรรยากาศในสภาวันนี้ บรรยากาศทั้งพรรคฝ่ายรัฐบาล ฝ่ายค้าน และกรรมาธิการคนนอก ต่างก็อภิปรายสนับสนุน มีเพียง ส.ส.จากพรรคประชาชาติ ที่นับถือศาสนาอิสลามไม่เห็นด้วย และไม่ได้ร่วมพิจารณา เนื่องจากขัดกับหลักศาสนาอิสลาม

อ่านข่าว ไทม์ไลน์ครึ่งปีวงการสีกากีมีแต่คำว่า “บิ๊กต่อ-บิ๊กโจ๊ก และ เว็บพนันออนไลน์”

ส่วนประชุมสภา ต้องกดไลก์ให้กับ “บรู๊ค” ดนุพร ปุณณกันต์ ประธานคณะกรรมาธิการ ชี้แจงในฐานะประธานกรรมาธิการไว้อย่างหล่อว่า ร่างกฎหมายฉบับนี้ แก้ไขเพิ่มเติม เพื่อพี่น้องประชาชนไทย

หลังจากผ่านวาระ 1 ไปแล้ว ได้ฟังเสียงรอบด้าน เพื่อวิเคราะห์ว่าทำเพื่อคนกลุ่มใดกลุ่มหนึ่งหรือไม่ แต่ได้พิจารณาด้วยความรอบคอบ และขอยืนยันว่ากฎหมายฉบับนี้ชาย และหญิงทั่วไป เคยได้รับสิทธิอย่างไรจะไม่เสียสิทธิ และสิทธิทางกฎหมายยังเท่าเดิมทุกประการ

ทางเดียวกันจะคุ้มครองคนกลุ่มหนึ่งที่แล้ว แต่เราจะเรียกว่าอะไร LGBTQ+ ชายหญิงข้ามเพศ เป็นการคืนสิทธิที่พวกเขาไม่เคยได้รับ และตอนนี้ทุกสังคม และไทยทราบดีว่าเราไม่ได้มีแค่เพศชาย และเพศหญิงอีกต่อไป

ส่วน “นายกนิดฯ” เศรษฐา ทวีสิน โพสต์ว่า น่ายินดีอย่างยิ่ง ที่วันนี้ประชุมสภา มีมติ “เห็นชอบ” ร่างกฎหมายสมรสเท่าเทียมในวาระสาม พร้อมเข้าสู่ขั้นตอนต่อไปในขั้นวุฒิสภา

ถือว่าความสำเร็จนี้ เป็นความเห็นพ้องต้องกันของสังคมไทย ที่จะร่วมกันสร้างสังคมแห่งความเท่าเทียม ไม่เลือกปฏิบัติ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเรื่องเพศสภาพ และการสร้างครอบครัวอันเป็นสิทธิขั้นพื้นฐานของมนุษย์ที่รัฐควรให้การรับรอง

ตามขั้นตอนหลังจากนี้ สภาฯ จะส่งร่าง พ.ร.บ.ฉบับดังกล่าวให้วุฒิสภาพิจารณาต่อไป หากเห็นชอบ นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี สามารถทูลเกล้าฯ เพื่อประกาศใช้ได้ โดยการบังคับใช้คาดว่าจะเกิดในช่วงเดือนมิ.ย.นี้ เพื่อเป็นส่วนหนึ่งของการเฉลิมฉลองเทศกาล Pride Month  

ศึกสงครามตัวแทนในวงการสีกากี ที่เปิดศึกมานานครึ่งปี ยิ่งสาวยิ่งลึก ยิ่งเจ็บเหมือนเก็บกวาดบ้านเท่าไหร่ ก็ยังไม่สะอาดเสียที ยิ่งตอนนี้ลามมาถึง คู่ขัดแย้งใหม่

หลังจาก นายษิทรา เบี้ยบังเกิด “ทนายตั้ม” ออกมากรีดฝีแต่มีดไปเฉี่ยว พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) โยงปมรับส่วย และยังอ้างเส้นเงินไปถึงสมาคมสื่อ จนต้องออกมาโต้พัลวัน

อ่านข่าว ไทม์ไลน์ครึ่งปี “วงการสีกากี” มีแต่คำว่า “บิ๊กต่อ-บิ๊กโจ๊ก และ เว็บพนันออนไลน์ 

สำนักงานตำรวจแห่งชาติ กำลังมีฝีร้ายเม็ดใหญ่ อยากให้นายกรัฐมนตรีมารักษา โดยจะมีประชาชนเฝ้ามองดูอยู่ทั้งประเทศ

ล่าสุด “บิ๊กต่อ” ประกาศผ่านสื่อ ส่งทนายดำเนินคดีกับ ทนายตั้มในพรุ่งนี้ (28 มี.ค.) ส่วนจะเป็นข้อหาใดนั้น ให้ทีมนักกฎหมายและทนายความพิจารณาดูอยู่ ส่วนทนายตั้ม ก็ประกาศจะนำหลักฐานให้กับ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ในวันพรุ่งนี้เช่นกัน ศึกมุ้งสีกากี ยังเป็นหนังม้วนยาวที่ต้องตามกันอย่ากะพริบตา

 

ทิ้งคำตอบไว้

อีเมล์ของคุณจะไม่ถูกเผยแพร่

This website uses cookies to improve your experience. We'll assume you're ok with this, but you can opt-out if you wish. Accept Read More